21 ม.ค. 2023 เวลา 07:46 • ความคิดเห็น

Red pill or Blue pill?

“ทางเลือกของชีวิต”
เราเลือกหยิบประโยคคำถามนี้มาใช้เล่าเรื่อง “ทางเลือก” เพราะมันจะอธิบายได้ดีที่สุด หากคุณชอบดูหนัง อ่านวรรณกรรม และชอบอ่านปรัชญา คุณจะเข้าใจประโยคนี้ กับสิ่งที่เรากำลังจะเขียนได้เป็นอย่างดี
+ เผื่อคนที่ไม่รู้จัก ประโยคคำถามนี้มาจากหนังเรื่อง The Matrix ที่พระเอกนั้นต้องพบกับทางเลือก
“This is your last chance. After this, there is no turning back.
นี่คือโอกาสสุดท้ายของคุณ หลังจะนี้จะไม่มีการหวนกลับ(มาเลือกใหม่)อีกแล้ว”
“You take the blue pill......the story ends, you wake up in your bed and believe...whatever you want to believe.
ถ้าคุณเลือกเม็ดสีฟ้า ทุกอย่างจบ คุณตื่นขึ้นจากเตียงและก็เชื่อต่อสิ่งที่คุณอยากจะเชื่อ(ตามชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็น)”
“You take the red pill...you stay in Wonderland...and i show you how deep the rabbit hole gose.
ถ้าคุณเลือกเม็ดสีแดง คุณจะอยู่ในแดนมหัศจรรย์ และผมจะแสดงให้คุณเห็นว่าโพรงกระต่ายมันลึกแค่ไหน”
ซึ่งพระเอกได้เลือก Red pill ที่พาเค้าไปสู้โลกใบเดิมที่ไม่เหมือนเดิม! ได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ได้เจอเรื่องราวมหัศจรรยมากมาย
แล้วถ้าเป็นคุณล่ะ คุณเลือกอะไร?
1. เลือกอยู่ใช้ชีวิตแบบเดิมที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้ต่อไป
หรือ
2. เลือกที่จะก้าวออกไปพบเจอสิ่งใหม่ๆ ที่คุณยังไม่เคยรู้
เค้าบอกว่ามนุษย์โดยทั่วไปมักจะเลือกข้อที่ 1 ถึงแม้ว่าบางคนนั้นอยากเลือกข้อ 2. ก็ตาม!
แน่นอนหล่ะ ด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์แล้ว เราจะไม่ทำอะไรที่รู้สึกไม่ปลอดภัย และติดอยู่ในกับดักของความเคยชิน เราก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง เราโดนเตะด้วยพลังอะไรบางอย่าง ตอนนั้นเรารู้สึกเหมือนเรากำลังเลือก Red pill or Blue pill? เหมือนในหนังเป๊ะเลย ตอนดูน่ะเราเชียร์ให้พระเอกเลือก Red pill ได้อย่างง่ายและเร็วมาก แต่พอมาเป็นชีวิตจริง แม่งโคตรยาก ไม่ใช่ตัดสินใจไม่ได้นะ เรารู้ว่าเราเลือกข้อ 2. แต่เหตุปัจจัยต่างๆ ทำให้เรากังวล
เพราะเราเอา เงิน ครอบครัว และอนาคตของตัวเอง เข้าไปเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ แต่สุดท้าย เราก็เลือกที่จะลองดูสักตั้ง สู้กับตัวเอง กับความเห็นต่างของคนรอบตัว เลือกที่จะหลุดออกจากชีวิตซ้ำซากจำเจ ที่ทุกคนมองว่าแบบนี้มันดีอยู่แล้ว ออกไปลำบากเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง เพราะเราคิดว่าไม่มีอะไรแน่นอน มีอีกหลายอย่างที่เราอยากทำแต่เรายังไม่ได้ทำ และถ้าไม่ทำเราก็จะไม่รู้ว่าเราทำมันได้ดีไหม และเชื่อในอุดมการณ์ของตัวเองว่า การออกไปลุยในครั้งนี้เราต้องได้อะไรกลับมาแน่ เลยเลิกกังวลกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
มาต่อจากนี้เราจะพาคุณเข้าสู้โลกของเรา ในวันที่เราตัดสินใจลาออกจากการเป็นเต็ก ไปฝึกงานช่างภาพ วันนั้นเราบอกกับเจ้าของออฟฟิศช่างภาพว่า เราจะอยู่ทำงานที่นี่แค่ 1-2 ปี แล้วจะกลับไปทำเต็กต่อ เพราะเราตั้งใจมาเรียนรู้เพื่อเอาไปทำอาชีพเสริม และรู้ตัวเองดีว่าอยากทำเต็กต่อไป ก็ฝันมาทั้งชีวิตนี่จะทิ้งได้ไง5555
เวลาผ่านไป 4 เดือนเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น! เราเริ่มรู้สึกชอบงานช่างภาพมากขึ้นเรื่อยๆ สนุกขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อยากกลับไปทำเต็ก! 5555ตลกสิ้นดีตอนแรกมาอย่างมั่นใจ สุดท้ายกลับอย่างหมา ซึ่งเป็นหมาที่น่าสงสารด้วย เพราะผลลัพธ์จากการฝึกงานของเราคือไม่ได้งาน! ด้วยเหตุผลและสถานการณ์หลายๆ อย่าง ที่ทำให้เค้าไม่สามารถรับเราเข้าทำงานได้!
ซึ่งเค้าก็พยายามบอกเราให้รู้สึกดีว่า เราเก่งนะ เราทำอะไรได้หลายอย่างมากเลย อย่าไปคิดว่าการไม่ได้งานครั้งนี้เป็นเพราะเราไม่ดี ถ้าอะไรๆ เข้าที่เข้าทางพี่จะชวนมาทำงานด้วยนะ ซึ่งเราก็บอกเค้าว่า ไม่ต้องพูดให้เรารู้สึกดีขนาดนั้นก็ได้ เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และเตรียมรับมือมาแล้ว
หลังจากนั้น....ฮั่นแน่ คุณกำลังคิดอะไรกันอยู่ ไม่ ผมไม่กลับไปทำเต็กตอนนี้หรอก วงการที่ตายใครจะอยากเข้าไปตอนนี้ แต่เราคิดไว้แล้วว่า ถ้าไม่ได้งาน Direction เราต่อจากนี้มันจะเปลี่ยนหนักกว่าเดิม ใช่เราคิดการณ์ใหญ่ไว้ แต่ไม่บอกว่าคืออะไรเดี๋ยวหมาอีก5555 นั่นแหละเรากำลังวางแผนฝึกวิทยายุทธ Form ตัวเองขึ้นมาให้ครบตามฝันเลย ทุกอย่างที่เราอยากทำเราจะทำมันในโอกาสนี้แหละ แล้วพบกันใหม่ กับเราคนใหม่ และโลกใบใหม่ของเรา~
***จริงๆในชีวิตคนเรา มันมี ”ทางเลือก” ให้เราอยู่เสมอ แต่เราไม่กล้าที่จะเลือกมันเองรึเปล่า? เลือกกิน Blue pill ตลอดคุณไม่เบื่อเหรอ อยากลอง Red pill บ้างมั้ย มันอร่อยนะ เจ็บบ้าง ทุกข์บ้าง แต่เวลาสนุกก็สนุกชิบหายเลย Red pill สำหรับเราน่ะ มันไม่อร่อยทุกเม็ดเหมือน Blue pill บางเม็ดแม่งขมชิบหายไอ้_เอ้ย แต่ สิ่งที่อร่อยที่สุดในชีวิตเราไม่ใช่ Blue pill นะมันคือ Red pill ต่างหาก.........
.
[สำหรับใครที่ยังไม่เบื่อ และอยากอ่านเพื่อความบันเทิง]
เราจบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์(เด็กคณะที่คิดว่าตัวเอง เป็น GOD complex ถูกอาจารย์กล่อมประสาทว่าเรียนคณะนี้จะทำอะไรก็ได้ คณะนี้สอนให้พวกคุณมี Logic ที่ดี มี Critical Thinking)
สำหรับเด็กคณะอื่นถ้าคุณได้อ่าน ขอบอกว่านี่แหละความ GOD Complex ของพวกเราที่เรากำลังพูดถึง คุณกำลังขำอยู่ใช่ไหม? เรารู้ว่ามันน่าตลกสิ้นดี แต่ที่ตลกกว่าสำหรับเราคือ เราคิดว่าความคิดแบบนี้ในเด็กรุ่นเราจะลดน้อยลง ป่าวเลย
ล่าสุดคุยกับเพื่อนคนนึงเรื่องการเปลี่ยนสายงานของเด็กคณะเรา แล้วมันก็พูดขึ้นมาว่า เอ้อเนี่ยที่อาจารย์เคยพูดว่า.....กูว่ามันจริงนะ เด็กคณะเรานี่ที่สุดแล้ว(อันนี้คำว่าที่สุดมันเติมเอง เราว่าเราไม่เคยได้ยินอาจารย์พูดว่าที่สุดนะ) เดี๋ยวก่อนสิทำไมมึงรีบสรุปจัง มึงยังไม่เคยทำงานเลยนะเพื่อน! มึงรู้จักคนครบทุกสาขาวิชาแล้วรึยัง ทำไมเชื่อง่ายจัง! เราถามเพื่อนกลับ มันตอบกลับมาแบบตะกุกตะกัก ว่าไม่ แต่.... มันพูดต่อ
นั่นแหละฮะเด็กถาปัตย์บางประเภท แต่เราไม่ใช่คนประเภทนั้น เรารู้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรที่เจ๋งๆ อีกมาก มีคนเก่งๆ อีกเยอะ มีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ มีอีกหลายอาชีพที่เท่ไม่แพ้สถาปนิก เรารู้ว่าเด็กถาปัตย์ ไม่ใช่ที่สุด เพราะเรามีเพื่อนหลากหลายสาขาวิชา หลากหลายมหาลัย เรารู้จักคนมาค่อนข้างเยอะ คุยกับคนต่างวัยมาเยอะ เรารู้ว่าคนแต่ละคนไม่ได้เก่งด้านเดียว คนแต่ละคน มีความสามารถ ที่แตกต่างกันไป ไม่ใช่ว่าเรียนคณะนี้แล้วจะ โอ้โหเก่งชิบหายทำอะไรก็ได้ จริงๆ มันอยู่ที่ตัวบุคคล
แต่ถ้าใครต้องการคำตอบนั้น เราบอกเลยว่า ไม่ใช่เด็กถาปัตย์555 ไอ้พวกนี้มันทำแต่งาน ก้มหน้าก้มตาเรียนวิชาสตูดิโองกๆๆ เวลานอนมันยังแบ่งกันไม่ได้เลย มันจะไปจัดการชีวิตจัดการโลก จัดการอะไรใหญ่ๆ ได้ เล่นเชื่อทุกอย่างที่อาจารย์พูด ทั้งๆที่มันควรจะออกไปลืมตาอ้าปากใช้ Critical Thinking ที่มันเรียนมา เอามามองโลกบ้าง(ไม่ได้เหมารวมทุกคนนะจ๊ะ สังเกตุพวกสถาปนิกเก่งๆก็จะมี2ฝั่ง ฝั่งที่เค้าเป็นอยู่อย่างเดียว กับฝั่งที่รู้หลายด้านเป็นพวกโลกกว้างและ Critacal Thinking ดีนั่นแหละ ซึ่งกลุ่มนี้คือ เหล่า Idols ของเรา)
โอเค ที่เราจะบอกคือ คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน! บางคนเรียนแพทย์ แต่ชอบทำธุรกิจ บางคน เรียนด้านธุรกิจ แต่ชอบงานวงการบันเทิง บางคน จบฟิล์ม แต่ชอบงานสถาปัตย์ บางคนจบถาปัตย์ แต่ชอบ.... แต่ละคนมีความสนใจต่างกัน ใช้ชีวิตต่างกัน มีหลักคิดในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่มีคณะไหนเป็นที่สุดหรอกกกก
เราว่าจริงๆ แล้วน้อยคนนะที่จะมีความสนใจเดียวหรือความฝันเดียวคุณมีเยอะแต่คุณเลือกอย่างเดียว เพราะคิดว่าอย่างอื่นมันเป็นได้อยากใช่ไหม? ลองถามตัวเองดู
คนเรา คนนึงมันประกอบหลอมรวมความสนใจอะไรมากมายไว้ในตัวคน คนเดียว แน่นอน ชีวิต พบกับทางเลือก และโอกาสอันมากมายเข้ามาให้เลือกให้ชวนงงกันบ้างในบางจังหวะของชีวิต แต่คุณจะเลือกอะไรนั่นแหละสำคัญ จริงๆแล้วมันไม่มีถูกผิดนะ เราไม่ได้จะบอกว่า Red pill ดีกว่า Blue pill แค่มันดีกว่าสำหรับเราเท่านั้นเอง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าตัวเองเป็นคนรักสนุก และชอบเสี่ยงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เรามั่นใจในสิ่งที่เลือก และเราสู้ไปกับมันก็เท่านั้น ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปเราก็เลือก Red pill เหมือนเดิม.........
โฆษณา