25 ม.ค. 2023 เวลา 11:12 • ประวัติศาสตร์

รูปปั้น “คนกินเด็ก” แห่งกรุงเบิร์น (Bern)

หากใครได้ไปเที่ยวเมืองเบิร์น (Bern) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะเห็นรูปปั้นคนกินเด็ก ซึ่งดูน่ากลัว และทำให้เกิดคำถามถึงที่มาของรูปปั้นนี้
รูปปั้นนี้ตั้งอยู่ในเมืองเบิร์นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 และยืนยงมานานกว่า 500 ปี โดยรูปปั้นนี้ชื่อว่า “Kindlifresser” ซึ่งแปลได้ว่า “คนกินเด็ก”
เราลองมาดูเรื่องราวของรูปปั้นนี้กันครับ
1
มีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับที่มาของรูปปั้นนี้ หนึ่งในนั้นก็คือรูปปั้นนี้อาจจะสื่อถึง “ชาวยิว”
ยุโรปในยุคกลางยังเต็มไปด้วยการต่อต้านชาวยิว และหลายคนก็คิดว่าหมวกบนหัวของชายที่กินเด็ก น่าจะสื่อถึงหมวกที่ชาวยิวในยุโรปถูกบังคับให้ใส่
หมวกนี้เป็นการแยกชาวยิวออกจากชาวคริสต์ เพื่อที่ชาวคริสต์จะได้หลีกเลี่ยง ไม่มีความสัมพันธ์กับชาวยิว ไม่เกิดการสืบสายเลือดร่วมกับชาวยิว
ที่ผ่านมานับร้อยปี ชาวยิวถูกกล่าวหาว่านำเลือดของชาวคริสต์ไปทำขนมปังกรอบ
มีการกล่าวว่าชาวยิวต้องการเลือดของชาวคริสต์ และนำไปใช้ในพิธีการต่างๆ
อีกหนึ่งแนวคิดก็คือเรื่องการล่าแม่มด
ย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้มีการล่าแม่มดหลายครั้ง มีผู้บริสุทธิ์นับร้อยที่ถูกเผาทั้งเป็นเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
แม่มดเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าทำอันตรายเด็ก และกินเนื้อเด็ก
และหลายคนก็คิดว่า รูปปั้นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเตือนหรือเป็นสัญลักษณ์ของแม่มดที่กินเด็ก
อีกหนึ่งทฤษฎีก็คือรูปปั้นนี้สื่อถึง “เทพเจ้าโครนอส (Kronos)” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่กินเนื้อเด็ก
ตามตำนานนั้น เทพเจ้าโครนอสไม่ต้องการจะเสียตำแหน่งเทพเจ้าไป จึงได้กินเนื้อบุตรของตนเองเมื่อบุตรของตนเกิด
หนึ่งในบุตรแห่งโครนอสก็คือ “เทพเจ้าซุส (Zeus)” ซึ่งเป็นบุตรคนเล็ก หากแต่รอดมาได้เนื่องจาก “เทพีเรีย (Rhea)” มารดาของตน ได้มาเตือนตนถึงภัยจากโครนอส ทำให้ภายหลังซุสก่อกบฏ โค่นล้มโครนอส
2
นี่ก็เป็นเรื่องราวตำนานส่วนหนึ่งของรูปปั้นนี้
โฆษณา