29 ม.ค. 2023 เวลา 00:02 • หนังสือ

มองชีวิตให้เหมือนหนังสือ ที่ทุกบทล้วนทำให้หนังสือนี้สมบูรณ์

ผมเชื่อว่าคนชอบอ่านหนังสือหลายคน พอเห็นหนังสือที่เขียนถึงหนังสืออีกทีนึง ก็ย่อมสนใจเป็นธรรมดา แล้วก็ดูเหมือนเหล่าสำนักพิมพ์ก็คงทราบความต้องการเหล่านี้ดี เลยพิมพ์หนังสือประเภทนี้ออกมาซะเยอะ
แม้ที่ผ่านมาผมจะไม่เคยอ่านหนังสือทำนองนี้เลย แต่พอเห็นบ่อย ๆ เข้าก็เริ่มอยากอ่านบ้าง เลยตัดสินใจเริ่มจากหนังสือเล่มเล็ก ๆ อย่าง “หนังสือเล่มหนา กาลเวลา และผู้คน”
หนังสือเล่มนี้รวมเรื่องสั้นของคนที่มีความเกี่ยวข้องกับหนังสืออีกทีนึง ไม่ว่าจะรักหนังสือ มีความทรงจำร่วมกับหนังสือ หรือเป็นนักเขียน แต่มีเรื่องนึงที่ผมชอบเป็นพิเศษชื่อ “ตู้หนังสือของเขากับฉัน” ครับ
หญิงสาวและชายหนุ่มคู่นึงรู้จักกันในที่ทำงานพาร์ทไทม์ พวกเขามีอะไรหลายอย่างคล้ายกัน ไม่ว่าจะชอบฟังมากกว่าพูด ชอบดื่มเบียร์ ชอบกินอาหารตอนดึก ๆ แล้วก็มารู้ในภายหลังว่าต่างคนต่างชอบอ่านหนังสือเหมือนกันอีกด้วย ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คนเลยพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
วันนึงฝ่ายหญิงได้เห็นตู้หนังสือของฝ่ายชาย ก็ยิ้มปริทันทีเพราะสไตล์หนังสือในตู้นั้นเหมือนกันมาก มีหนังสือที่ต่างคนต่างมีเหมือนกันหลายเล่ม พวกเขาเลยแลกเปลี่ยนความเห็น แล้วก็สลับกันอ่านหนังสือที่อีกฝ่ายยังไม่มีกัน เรียกว่านอกจากจะได้อ่านหนังสือเล่มใหม่ ๆ แล้ว ยังได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายไปพร้อมกันด้วย
แม้ทุกอย่างจะดูราบรื่นดีมาตลอด แต่อยู่ ๆ วันนึงแฟนหนุ่มก็เดินมาสารภาพตามตรงว่าเขาเจอผู้หญิงคนใหม่ แล้วก็ตัดสินใจไปคบกับผู้หญิงคนนั้น แฟนสาวจึงตกใจ เศร้า แล้วก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหญิงคนใหม่ไม่ได้ชอบอ่านหนังสือด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม เธอก็พยายามประคองสติ และใช้ชีวิตไปตามปกติ ไปเรียน ทำงาน กลับบ้าน ให้ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่ทยอยเก็บของเตรียมย้ายออก เธอก็พบหนังสือเล่มนึงที่ครั้งนึงเธอและแฟนหนุ่มเคยอ่านร่วมกัน แล้วก็ซึ้งในบทเดียวกัน เคยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ความทรงจำนี้ทำให้เธอต้องปล่อยโฮออกมาจนน้ำตาท่วมหน้า
แต่การลดระดับของน้ำตาในหัวใจลง มันก็ช่วยให้เธอเห็นความจริงบางอย่างว่า “หนังสือเล่มเดิม คงไม่มีวันเติมเต็มตู้หนังสือที่หายไปได้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าหรอก เพราะพวกเราก็คงจะยังมีเวลาร่วมกันต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนเวลานึกถึงฉากประทับใจในหนังสือ”
ผมคิดว่าเรื่องราวพยายามเปรียบบุคลิกของทั้ง 2 คนเป็นหนังสือแต่ละเล่ม การที่ต่างคนต่างอ่านหนังสือของอีกฝ่าย ก็เหมือนการทำความรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายไปด้วย แต่พอศึกษากันไปสักระยะนึง อ่านหนังสือจบไปหลายเล่ม พวกเขาถึงพอจะเข้าใจว่า “ตัวเองรู้สึกยังไงกับฝ่ายตรงข้าม”
ผมว่าแนวคิดเทียบนิสัยเป็นหนังสือก็น่าสนใจดี จึงต่อยอดโดยเอามาเทียบกับชีวิตของเราด้วยว่า “จงมองชีวิตให้เหมือนหนังสือ ที่ทุกบทล้วนทำให้หนังสือนี้สมบูรณ์” ครับ
ลองเปรียบชีวิตของเราเป็นหนังสือสักเล่ม แล้วแต่ละช่วงของชีวิตก็คือบทนึงในหนังสือ วัยเด็กก็เป็นบทนึง วัยเรียนก็เป็นอีกบท ไล่มาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันที่เรากำลังเขียนอยู่
แน่นอนว่าหากมองย้อนกลับไปบทเก่า ๆ มันอาจมีช่วงที่เขียนไปแล้วไม่พอใจบ้าง เป็นบทที่น่าเบื่อบ้าง แต่ทุกบทล้วนแล้วแต่เป็นรากฐานของเราในวันนี้ สิ่งสำคัญคือเรายังเขียนมันไม่จบ
เพราะงั้นไม่ว่าอดีตจะเป็นยังไง ตอนนี้จะอยู่ในอารมณ์ไหน แต่คุณยังเขียนบทต่อ ๆ ไปให้ดีขึ้นได้ คุณยังไม่สามารถตัดสินว่าชีวิตมันแย่หากคุณยังเขียนไม่จบ เพราะไม่แน่ว่าบางทีบทต่อไปหลังจากนี้ อาจเปลี่ยนให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือที่ดีไปเลยก็ได้ครับ
ชื่อหนังสือ: หนังสือเล่มหนา กาลเวลา และผู้คน #หนังสือเล่มหนากาลเวลาและผู้คน
ชื่อสำนักพิมพ์: Piccolo Publishing #Piccolo
#igotthisfromthatbook #ฉันได้สิ่งนี้จากหนังสือเล่มนั้น
โฆษณา