สูงสุดของพลุต้องอายุแปดสิบสอง
มีงานวิจัยล่าสุดของ Neuroscientist ชื่อดัง คุณแดเนียล ลีวิทอิน ซึ่งตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ "The Changing Mind : A neuroscientist’s guide to ageing well" สรุปจากการสอบถามและรวบรวมข้อมูลจากผู้คนใน 72 ประเทศว่า ความสุขสูงสุดของกลุ่มที่เขาไปเก็บข้อมูลนั้นจะอยู่ที่คนอายุแปดสิบสองปี
ใช่ครับ 82 ปี!
เห็นตัวเลขนี้ในตอนแรกผมคิดถึงสองเรื่องขึ้นมาพร้อมกัน ประการแรกการมีความสุขมากสุดเมื่ออายุแปดสิบสองนั้นเป็นข้อมูลที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อยเพราะเรามักจะคิดว่าคนพอเริ่มแก่ตัวลง ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ สมองเริ่มเสื่อม ความสุขก็น่าจะลดน้อยถอยลงไปด้วย ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆผมยังเคยคิดเลยว่าความสุขพีคของคนน่าจะอยู่แถวๆ สี่สิบเพราะมีหน้าที่การงานมั่นคงแถมร่างกายยังแข็งแรงอยู่ แต่ปรากฏว่าจากงานวิจัยนี้ คนที่มีความสุขต่ำสุดกลับเป็นพวกอายุสี่สิบจนถึงห้าสิบด้วยซ้ำ
ความคิดที่แว่บขึ้นมาอีกประการก็คือความรู้สึกดีมากๆที่หลังจากนี้ชีวิตผมก็น่าจะมีแต่ขาขึ้นเพราะได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วแต่ยังไม่เจอช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ยังเหลือเวลาอีกหลายปี ชีวิตข้างหน้าก็ดูน่าตื่นเต้นขึ้นมาทันที
คุณแดเนียลเล่าว่า เรามักจะมีความเชื่อผิดๆถึงความเสื่อมของร่างกายโดยเฉพาะสมอง แต่จากงานวิจัยของเขานั้น ผู้คนส่วนใหญ่จะมีพัฒนาการของสมองที่ไม่ได้เลวร้ายลง หลายส่วนกลับดีขึ้นจนสิ้นอายุขัยด้วยทั้งด้านความคิดและความสามารถในการแก้ปัญหา แถมเพราะอายุที่มากขึ้นนั้นมักจะมาพร้อมประสบการณ์ และความเข้าอกเข้าใจผู้คน ความคาดหวังที่ต่ำลงซึ่งทำให้สามารถเผชิญกับเรื่องที่ยากลำบากท้าทายได้ดีขึ้นด้วยเมื่ออายุมากขึ้น
คุณแดเนียลมีเคล็ดลับจากที่เขาไปสัมภาษณ์ผู้สูงวัยที่เต็มไปด้วยความสุขจำนวนมาก ในผู้ที่อยู่ในบทสนทนามี Clint Eastwood (89) ท่านดาไล ลามะ (84) คลินท์ อีสต์วู้ดบอกถึงเคล็ดลับของความสุขในวัยชราไว้ว่า “Just don’t let the old man in” ส่วนท่านดาไล ลามะนั้น ผู้วิจัยถึงกับเอ่ยว่าเป็นบุคคลที่น่าจะมีความสุขที่สุดคนหนึ่งที่เคยพบและท่านดาไล ลามะหัวเราะสนุกตลอดเวลา
ผู้วิจัยเล่าว่า ปัญญาสำคัญที่สุดของการมีความสุขของท่านดาไล ลามะ ก็คือ "การนอนเก้าชั่วโมงต่อวัน..."
นอกจากทั้งสองท่านนี้ ผู้วิจัยยังมีทิปหลักๆ ที่ได้จากผู้สูงอายุที่มีความสุขมากๆอีกหลายคน อย่างเช่น อย่าเกษียณตัวเองอย่างเด็ดขาด อย่าหยุดทำงานเพื่อให้ความรู้สึกมีความหมาย มีประโยชน์ยังกระตุ้นสมอง กระตุ้นพลังแห่งความคิดอยู่เสมอ ต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ฮอร์โมนเอ็นดอฟินหลั่ง ซึ่งนำมาซึ่งความสุขทางเคมีโดยธรรมชาติ ต้องลองทำอะไรใหม่ๆเพื่อโปรโมท Cognitive Activity การกินอาหารที่ดีต่อร่างกายและมีความหลากหลายเป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิตที่สมดุล
และท้ายสุดก็คือการพยายามรักษาความสัมพันธ์ของกัลยาณมิตรและผู้คนรอบตัว โดยเฉพาะการพบปะผู้คนใหม่ๆเพราะจะทำให้สมองยังตื่นตัวอยู่เสมอตั้งแต่การจดจำใบหน้าคนที่เพิ่งเจอ การพูดการจาที่ต้องคิดก่อนเมื่อเจอคนที่เราไม่คุ้น เหล่านี้ช่วยกระตุ้นสมองอย่างมาก
งานวิจัยชิ้นนี้จากผู้เชี่ยวชาญสมองด้านประสาทวิทยาที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับผู้คนที่ยังไม่ได้แตะแปดสิบนะครับ เป็นข่าวดีและข่าวที่น่าสนุกมากๆที่เรายังไม่เจอความสุขที่สูงสุดในชีวิต ซึ่งสำหรับผมอีกสามสิบปีกว่าจะถึงพีค
ถ้าอดใจรอถึงแปดสิบไม่ไหวก็ลองไปถามผู้ใหญ่ใกล้แปดสิบหรือแปดสิบกว่า ก็อาจจะได้คำแนะนำอะไรดีๆกลับมาเพื่อเตรียมตัวสำหรับช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของชีวิตอย่างเช่นงานวิจัยนี้ก็ได้นะครับ
- 94
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
