30 ม.ค. 2023 เวลา 00:59 • ความคิดเห็น
เวลาเราพูดถึงคำว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ..นั่นมันหมายถึงอะไร ที่จะบันดาลให้เป็นไปตามที่ต้องการหรือ สำเร็จ ตามปรารถนา อะไรล่ะที่มีแฝงมีอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ขลัง ..ในความศักดิ์สิทธิ์..
สถานที่ที่เข้าเรียกว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันมีอะไรแฝงอยู่ มีจิตวิญญาณที่สถิตย์ในสถานที่นั้น หรือ ว่ารูปเคารพบูชา .ตลอดไปจนถึง เรื่องเจ้าพ่อเจ้าแม่ ตลอดจนเครื่องรางของขลัง มันมีจิตวิญญาณ อะไรเกาะติดอยู่ ที่เรามองไม่เห็น
หรือ บางสถานที่ ที่มีการเซ่นไหว้ บนบาน ..สิ่งที่มาเกาะกินเครื่องเซ่นก็ พวกจิตวิญญาณเร่ร่อน ที่เคยเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ก็เป็นจิต เป็นโอปปาติกะ มาหากินกับเครื่องเซ่นไหว้ เหมือนกับคนเร่ร่อน .สัตว์เร่ร่อน รู้ว่าที่ไหนพอมีอาหารการกินก็ไปสถิตย์สถานที่นั้น ส่วนจิตที่เค้ามีบุญกุศล ..เค้าไม่ได้..มากินเครื่องเซ่นอะไรด้วย เพราะเค้ามีบุญกุศลที่เคยทำมาตอนมีสังขารเป็นมนุษย์หล่อเลี้ยงจิตของเค้า
ยิ่งมีการสร้างเอาชื่อเทพองค์นั้นองค์นี้ มาอ้าง ..เป็นถึงเทพ มีหูทิพย์ตาทิพย์ มีบุญกุศลมากมาย มีวิมานของตนเอง รู้จักว่าดีชั่วเป็นอย่างไร ท่านก็ไม่มายุ่งเกี่ยว ทำให้มนุษย์หลงใหล
แม้แต่พระภิฆเนศ ท่านก็บอกว่า ฉันไม่ได้เป็นมีรูปร่างน่าเกียจอย่างนั้น ใครไปบูชารูปร่างอย่างนั้น ก็ไปดูซิ..สติของเค้า ..มันฟั่นเฟือน ในที่สุด..ที่บูชารูปร่างอย่างนั้น ก็จะหมดเนื้อหมดตัว ..(อย่าเชื่อเราน่ะ ก็ไปสังเกตกันเอง ว่าจริงไม่จริง) แล้วใครอยากจะทำบุญกับท่าน ท่านก็บอกว่าต้องมาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตนเอง ที่ไปหามาด้วยความสุจริต อย่างนั้นฉันก็ไม่รับ อยากรู้ว่าฉันสอนอะไร เพียงเขียนชื่อท่าน แล้วบูชา ..ท่านก็จะสอนให้ว่า ดีชั่วเป็นอย่างไร(เป็นเทพ. จะมีรูปร่างเป็นช้างตามที่มนุษย์อุปโลกน์ได้อย่างไร)
แล้วในคำว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เค้าสอนอะไรเรา มีคำสอนดีๆ ให้เราเกิดสติปัญญา รู้จักกรรม รู้จักจิตของตัวเองมั้ย มีคนเอาของศักดิ์สิทธิ์มาให้เรา ..เราถามเค้ากลับว่า เอารูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ให้เรา ..เราก็ถามเค้ากลับ ว่าที่ว่าศักดิ์สิทธิ์ นั่น เค้ามีคำสอนอะไรดีๆ ถ้ามีคำสอนอะไรดี เราก็จะรับ ..เมื่อไม่มีคำสอนอะไรดีๆ จะมาให้บูชายึดถือ เราก็ไม่รับมาเป็นภาระต้องดูแล
เรื่องราวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่น เราไม่ได้เชื่อ ไปตามที่เค้าว่ากัน แต่เราไม่ได้..ไปยุ่งเกี่ยว เพราะว่า ในคำว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันสิ่งที่แอบแฝงน่ากลัวมากๆ ปิดหนทางให้คน ไม่รู้จักการสร้างบุญกุศลบารมี จิตวิญญาณที่สูงๆ เทพหรือ ผู้ที่มีหูทิพย์ตาทิพย์ ท่านไม่ได้ส่งเสริม
มีสิ่งหนึ่ง ที่เค้าเรียกว่ามาร ..จิตที่เป็นมาร บริวารมาร คอยส่งเสริม ให้จิตดวงนั่นยืดถือจมอยู่กับทุกข์ ไม่มีการแก้ไข จิตให้เกิดเป็นบุญกุศลบารมีของตนเอง ปืดกั้นการปฏิบัติ ความเจริญจิตวิญญาณของตนเอง ในเรื่องการสร้างบุญกุศลบารมี ตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าท่านชี้ทาง สอนให้สร้างบุญกุศล พึ่งตนเอง กระทำขึ้นมา เพื่อให้จิตนั่นมีบุญกุศลบารมี ส่วนมาร ..ก็ปิดกั้นหนทาง หลอกให้ยึดถือ ให้ไม่ต้องสร้างบุญกุศล ..ไม่ต้องเสียสละอะไร ส่งเสริมให้ทะเยอทะยาน อยากได้ โลภมากเข้าไว้ ..จะได้สมปรารถนา..เมื่อจิตออกจากจากร่าง บุญกุศลไม่มี จิตมันก็หนัก ถ่วงลงอบายภูมิไป..หมดโอกาสหาที่สุขสบาย ..มีแต่ทุกข์สถานเดียว ตอนเป็นมนุษย์ ..ยังหาอาหารการกินได้ คนนั่นคนนี้ให้ เมื่อเหลือแต่จิต..ไม่มีบุญกุศล ..จะเอาอะไรกิน เอาอะไรมาหล่อเลี้ยงจิต ..จิตที่ไปอยู่ในสภาพเป็นนามธรรม
โฆษณา