2 ก.พ. 2023 เวลา 09:24 • นิยาย เรื่องสั้น

เรื่องเล่าสยองขวัญเรื่องที่ 4 เพื่อนบ้านคนนั้น

ย้อนกลับไปสมัยตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้นประถม ฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคกลางตะวันตก ฉันไม่ได้อยู่กับพ่อแม่นะเพราะพวกเขาทำงานอยู่ในกรุงเทพและก็ฝากฉันไว้กับยายและส่งฉันให้เรียนที่นี่
ในเช้าวันเสาร์ของปีใดสักปีหนึ่งที่ฉันเรียนอยู่ป.3 ลุงกับป้าของฉันญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆของลุงอีกประมาณสี่ถึงห้าคนมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อที่ช่วยกันย้ายข้าวของจากบ้านยายไปยังบ้านไปของเขา ในวันนั้นฉันก็ติดรถไปด้วยนะเพราะด้วยว่างที่ไม่มีอะไรทำเลยขอป้ากับลุงติดสอยห้อยตามไปด้วย
บ้านหลังใหม่ของลุงกับป้าตั้งอยู่ไม่ห่างจากบ้านยายนักแค่คนละตำบลเอง ระเวลาในการเดินทางก็ใช้เวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้นด้วย พอมาถึงพวกผู้ใหญ่ก็ช่วยกันขนของเข้ามาส่วนฉันที่ว่างเลยออกมานั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านแทน
ขออธิบายก่อนว่าบริเวณที่บ้านของลุงตั้งอยู่นั้นรอบๆจะมีบ้านคนอยู่สองฝั่งถนนสลับกับทุ่งนาหรือไร่พืชผล ฉันเดินออกจากตัวบ้านมายังทุ่งนาของลุงที่อยู่ข้างบ้านพร้อมกับเอาตุ๊กตาบาร์บี้ติดมือไปด้วย ทุ่งนามันมีขนาดกว้างราวๆ 2 ไร่กว่าๆได้ ตรงกลางทุ่งนามีกระท่อมปลายนาแบบโปร่งตั้งอยู่และมีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างๆ
สาวเท้าเดินตรงไปยังกระท่อมปีนขึ้นไปนั่งเล่นเหมือนอย่างเคย เมื่อก่อนเวลาที่ฉันมานากับลุงกับป้าฉันจะชอบมานั่งเล่นที่กระท่อมอยู่เป็นประจำ
ฉันนั่งเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ไปพลางระหว่างรอพวกผู้ใหญ่ย้ายของ ขณะที่ฉันกำลังเล่นตุ๊กตาจู่ๆก็เห็นใครบางคนยืนอยู่ที่ด้านหลังต้นไม้ เป็นเด็กผู้หญิงขาวซีดผมดีดำสนิทยาวกลางหลังใส่เสื้อแขนสั้นสีขาวกระโปรงสีดำรองเท้านักเรียน ใบหน้าของเธอโผล่ออกมาครึ่งหนึ่งพร้อมกับสายตาลุกวาวที่เหมือนกับเด็กที่เห็นของเล่นใหม่
ฉันเงยหน้าจ้องมองเธอกลับเหมือนเธอจะรู้เลยผลุบศรีษะเข้าไปด้านหลังต้นไม้ ด้วยความอยากรู้ฉันลงจากระท่อมตรงไปยังหลังต้นไม้แต่กลับไม่พบใครอยู่เลย ฉันเดินวนอยู่สองสามรอบจนเห็นว่าไม่มีใครฉันจึงกลับไปนั่งเล่นตุ๊กตาต่อโดยที่ไม่ได้ใส่อะไร
ขณะที่ฉันกำลังเล่นตุ๊กตาอยู่นั้นจู่ๆได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกไว้ ฉันเงยหน้าหันไปมองพบว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่แอบมองฉันที่หลังต้นไม้เมื่อตะกี้ เธอยืนมองฉันอยู่ที่ข้างกระท่อม
“เธอน่ะ ชื่ออะไรหรอ”
เธอเอ่ยด้วยเสียงเนือยๆพร้อมกับค่อยๆฉีกยิ้มส่งมาให้ ในตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรก็ตอบกลับไปตามปกติ เพราะฉันคิดว่าเธอคงเป็นเด็กแถวนี้แหละ
“เราชื่อรินน่ะ เธอล่ะ”
“พี่ชื่อฟ้านะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จฉันก็ชวนพี่ฟ้าขึ้นมานั่งบนกระท่อม ในขณะที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่พี่ฟ้าเธอก็เล่าให้ฟังว่าเธออาศัยอยู่แถวนี้มานานมากตั้งแต่รุ่นทวดเลย บ้านของเธออยู่เยื้องจากบ้านลุงไปไม่ไกลเดินเลยร้านค้าไปหน่อยก็ถึงแล้ว
เรานั่งเล่นกันอยู่สักพักใหญ่ไม่นานก็ป้าของฉันก็เดินมาเรียก
“ป้าเรียกแล้วหนูไปก่อนนะพี่ฟ้า” ฉันหันไปหาพี่ฟ้าเพื่อบอกลาเธอ
“แล้วพรุ่งนี้รินยังอยู่มั้ย พี่กะว่าจะพาไปบ้านพี่”
“อยู่ๆ”
ในตอนนั้นฉันตอบเธอโดยไม่คิดเลย ในหัวสมองคิดแค่ว่าเธอคือเพื่อนใหม่ที่ดีฉันเลยอยากจะสนิทกับเธอไวๆ
“พรุ่งนี้เช้ามารอที่นี่นะ เดี๋ยวพี่มารับ”
ฉันพยักหน้าตอบกลับไปก่อนจะวิ่งไปหาป้าที่รออยู่ที่ด้านหน้าถนน ทันทีที่มาถึงฉันก็อาบน้ำกินข้าวตามปกติ ขณะที่ฉันกำลังดูทีวีอยู่นั้นฉันก็อาศัยจังหวะที่ป้ากำลังนั่งลงข้างๆบอกเรื่องที่ฉันจะไปบ้านพี่ฟ้าพรุ่งนี้เลย
“ป้า พรุ่งนี้หนูไปบ้านเพื่อนนะ”
ป้าฉันหันมาขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะถามขึ้นว่า
“เพื่อนที่ไหนล่ะ”
“ก็พี่ฟ้าบ้านที่ถัดจากร้านไปอ่ะ”
ป้าของฉันตอบตกลงขณะที่สายตาของเขายังจดจ้องกับละครในทีวีอย่างไม่สงสัยอะไรมาก
“ก็ได้นะ แต่อย่ากลับเย็นล่ะ”
ฉันพยักหน้าตอบตกลงอย่างดีใจที่ในที่สุดฉันก็จะได้ไปบ้านพี่ฟ้าแล้ว ในตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมากก็แค่ดีใจที่จะได้ไปบ้านเพื่อนตามประสาเด็กนั่นแหละ
เวลาผ่านไปตอนช่วงเช้าฉันรีบลุกขึ้นมาอาบน้ำกินข้าวเพื่อเตรียมตัวจะไปเที่ยวบ้านพี่ฟ้า ฉันเดินดิ่งไปยังกระท่อมปลายนาเห็นว่าพี่ว่านั่งรออยู่ก่อนแล้ว ฉันที่เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งไปหาเธอทันที
“มาแล้วหรอ ไปกันเลยมั้ย”
ฉันพยักหน้าตอบเป็นเวลาเดียวกันที่พี่ฟ้ายื่นมือมาให้ฉันจับมือเธอก่อนจะพากันเดินออกไป
เราใช้เวลากันอยู่ครู่หนึ่งเดินเท้าจนมาถึงบ้านพี่ฟ้า ทันทีที่มาถึงฉันใช้สายตากวาดมองรอบๆ บ้านของพี่ฟ้าตั้งอยู่ที่หัวมุมถนนซ้ายมือไร่อ้อยส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นที่ดินโล่งๆ หน้าบ้านของพี่ฟ้าจะมีลานกว้างโล่งๆอยู่คงจะเป็นที่จอดรถนั่นแหละ
ฉันเดินตามพี่ฟ้าไปจนเข้ามาถึงตัวบ้าน บ้านของเธอเป็นบ้านไม้สองชั้น ด้านล่างมีห้องอยู่หนึ่งห้องกับห้องน้ำและห้องครัวที่อยู่ด้านหลัง ขวามือเยื้องๆกันหน่อยมีโต๊ะไม้สักนั่งยาวกับเปลขาดรุ่ยอันหนึ่งแขวนกับเสาไว้ไม่ไกล ดูจากสภาพโดยรวมก็ถือว่าเก่าอยู่นะ อาจจะเป็นเพราะมันอยู่มานานตั้งแต่สมัยทวดแต่มันก็ไม่ได้โทรมมากถึงขั้นผุพังอย่างที่ฉันคิด
“มานั่งตรงนี้สิ”
พี่ฟ้าที่ไปนั่งโต๊ะไม้สักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เธอตบลงที่ว่างข้างๆเธอ ฉันเดินลงไปนั่งพลางกวาดตามองไปรอบๆด้วยความสงสัย จะว่าไปตั้งแต่เข้ามาที่บ้านของพี่ฟ้าฉันก็รู้สึกได้ว่าบ้านมันเงียบผิดปกติ ไม่วี่แววของคนในบ้านแม้แต่น้อย
“พี่ฟ้า คนที่บ้านหายไปไหนกันหมด”
พี่ฟ้าค่อยๆหันหน้ามาหาฉันอย่างช้าๆแววตาของเธอนิ่งสนิทก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงเนือยๆ
“พี่อยู่กับตายาย ท่านก็อยู่ที่นี่แหละ ไม่ได้ไปไหน”
เมื่อได้คำตอบฉันก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ หลังจากถามไถ่เล็กๆน้อยๆเสร็จเราก็นั่งเล่นกันอยู่สักพัก จู่ๆหางตาก็เหลือบเห็นอะไรบางอย่างคล้ายกับคนเดินผ่านไปที่หลังบ้าน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันพยายามชะเง้อมองครั้งแล้วครั้งเล่า
“มีอะไรรึเปล่า”
พี่ฟ้าที่เห็นฉันกำลังชะเง้อมองหาอะไรสักอย่างเธอก็ถามขึ้น ฉันหันมามองเธอสลับกับหลังบ้านที่ฉันเห็นคนเดินผ่านเมื่อกี้ก่อนจะบอกเธอไป
“หนูเห็นคนเดินไปหลังบ้าน”
พี่ฟ้าหันไปมองตามก่อนเธอจะหันกลับมาหาฉัน
“คงเป็นยายพี่นั่นแหละ แกชอบไปนั่งเล่นที่หลังบ้าน”
ฉันที่ได้ยินดังนั้นก็ตอบเออออไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากก่อนจะหันกลับมานั่งดังเดิม
เวลาผ่านไปนับชั่วโมงตอนนั้นฉันรู้สึกเริ่มเบื่อแล้ว อยากจะหาอะไรเล่นตามประสาเด็ก ฉันหันไปบอกกับคนข้างๆว่าอยากจะหาอะไรเล่น ทันใดนั้นพี่ฟ้าก็ลงจากโต๊ะไม้สักก่อนจะหันมาพูดกับฉันว่า
“หลังบ้านพี่มีชิงช้าอยู่ ไปเล่นมั้ย”
ฉันที่ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารัวๆด้วยความตื่นเต้น ในตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรนอกจากความคิดที่อยากจะเล่นชิงช้าเท่านั้น ฉันเดินตามพี่ฟ้ามาที่หลังบ้านก่อนจะใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ บริเวณหลังบ้านไม่มีอะไรมากนอกจากกระท่อมที่ทำจากใบจากและชิงช้าที่ผูกกับต้นไม้ใหญ่
พี่ฟ้าดึงฉันให้มานั่งบนชิงช้าก่อนเธอจะเดินอ้อมไปด้านหลังและเริ่มไกวมันอย่างเบาๆ เสียงเชือกสีกับกิ่งไม้ดังครืดคราดแข่งกับเสียงลมโชยพัดเอื่อยๆ ขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับชิงช้านั้นจู่ๆสายตาฉันก็เห็นอะไรบางอย่างที่หน้าต่างชั้นสอง ฉันเงยหน้าขึ้นไปดูพบว่าเป็นคุณยายที่กำลังจ้องมองมาทางนี้ด้วยแววตาที่จ้องเขม็ง
วินาทีนั้นฉันรู้สึกกลัวมากเลยหันไปบอกกับพี่ฟ้าที่อยู่ด้านหลังแต่พอฉันหันไปด้านหลังกลับไม่พบใครอยู่เลย ฉันมองซ้ายมองขวาพร้อมกับตะโกนหาพี่ฟ้าดังลั่นแต่ก็ไม่มีวี่แววที่พี่ฟ้าจะโผล่ออกมาให้เห็นแถมพอมองขึ้นไปที่หน้าต่างก็พบว่าคุณยายยังคงจ้องมองมาอยู่
ฉันจึงตัดสินใจลงจากชิงช้าเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาจู่ๆก็มีมือของใครบางคนมากระชากแขนของฉันจนเกือบจะหงายหลังลงไปเลย ฉันหันไปมองด้วยความหวาดกลัวก็พบว่าเป็นชายชราผิวซีดคล้ำใส่กางขาสั้นเปลือยท่อนบนที่คาดว่าน่าจะเป็นคุณตาของพี่ฟ้าเป็นคนดึงฉันเอาไว้นั่นเอง
ฉันค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไปจนถึงใบหน้าก็ถึงกับช็อคเพราะไม่มีลูกตา ตอนนั้นฉันร้องไห้หนักมากเรียกได้ว่ากรีดร้องเลยด้วยซ้ำ ทั้งขาสั่นอ่อนแรงทรุดลงไปกับพื้นเลย
ขณะที่ฉันกำลังร้องไห้เรียกหาพี่ฟ้าด้วยความอ่อนแรงจู่ๆคุณตาก็ตะโกนด่าด้วยภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่องพร้อมกับฟาดไม้เรียวลงมาที่หลังของฉันอย่างเต็มแรง ฉันกรีดร้องด้วยความกลัวความเจ็บอย่างสุดเสียงพร้อมกับตะโกนบอกให้เขาหยุดตีฉันแต่คุณตาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย มีแต่จะฟาดฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฉันร้องไห้จนเหนื่อยหอบทรุดลงไปกับพื้นดวงตาที่พร่ามัวเหลือบเห็นพี่ฟ้ายืนอยู่ตรงหน้า ฉันร้องเรียกหาเธอด้วยเสียงที่สั่นเครือแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะสภาพของพี่ฟ้าที่ฉันเห็นเธอตามตัวเธอมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมดข้อเท้าของเธอมีโล่ขนาดใหญ่ใส่เอาไว้
“พี่ฟ้า ฮือ~~~ ช่วยหนูด้วย”
พี่ฟ้ายืนมองฉันนิ่งใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาพร้อมพูดขอโทษอย่างนั้นซ้ำๆ
“พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ…”
ฉันในตอนนั้นไม่เข้าใจหรอกว่าเธอขอโทษฉันทำไม ฉันแค่ต้องการให้เธอมาช่วยฉันก็เท่านั้น
วินาทีที่ฉันกรีดร้องด้วยความทรมานและกำลังจะสลบจู่ๆก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังเข้ามาในหัว
“ริน!!! หนูอยู่ไหนลูก”
ฉันจำได้ว่านั่นเป็นเสียงของป้า ตอนนั้นฉันดีใจมากที่ในที่สุดก็มีคนมาช่วยฉัน ฉันนอนลงกับพื้นด้วยความอ่อนแรงในขณะเดียวกันคุณตาก็หยุดตีฉันแล้ว เสียงฝีเท้าของคนหลายคนเข้ามาใกล้มากขึ้นและภาพทุกอย่างก็ตัดไป
ฉันตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันจันทร์ฉันยังคงอยู่ที่บ้านลุง ตื่นมาฉันก็อาบน้ำอาบท่ากินข้าวตามปกติแต่ตอนที่อาบน้ำนั้นฉันรู้สึกแสบที่หลังมาก มันแสบจนไม่สามารถโดนน้ำได้เลย
หลังจากที่ทำกิจเสร็จฉันก็ออกมาทานข้าวกับลุงกับป้าแต่คราวนี้มียายกับผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักอยู่ด้วย ป้าพาฉันมานั่งก่อนจะให้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง หลังจากเล่าจบป้าเจ้าของร้านค้าก็เล่าเรื่องครอบครัวของพี่ฟ้าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อนในตอนนั้นที่บ้านของพี่ฟ้ายังเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความสุข มีคุณตาคุณยายมีพ่อแม่ลุงป้าและพี่ฟ้า จนกระทั่งวันหนึ่งลุงกับป้าก็ย้ายออกไปเหลือเพียงคุณตาคุณยายกับพ่อแม่ของพี่ฟ้า ผ่านไปได้ไม่นานพ่อแม่ของพี่ฟ้าก็ต้องย้ายไปทำงานในเข้ากรุงเทพบวกกับพี่ฟ้ายังคงเรียนอยู่ด้วยพี่ฟ้าเลยต้องอยู่กับคุณตาคุณยายแทน ตอนแรกก็เหตุการณ์ทุกอย่างก็เหมือนจะปกตินั่นแหละ
วันนึงพี่ฟ้าได้พาเพื่อนไปที่บ้านเล่นกันเหมือนอย่างจนกระทั่งตกเย็นจู่ๆคุณตาก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาดื้อซะอย่างนั้น เขาจับพี่ฟ้าเฆี่ยนตีจนตามตัวของเธอช้ำไปหมด มิหนำซ้ำยังจับพี่ฟ้ามัดกับเสาใต้ถุนบ้านด้วย วันไหนที่พี่ฟ้าร้องไห้หรือพยายามที่แกะโซ่นั่น คุณตาก็จะมาเฆี่ยนตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนสุดท้ายพี่ฟ้าก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและก็จากไปในที่สุด
คุณยายเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างและพยายามจะห้ามแกแล้วนะแต่สุดท้ายคุณยายก็สู้แกไม่ไหว ไม่พอแกยังโดนลูกหลงถูกคุณตาทำร้ายไปอีกด้วย หลังจากที่พี่ฟ้าเสียคุณยายก็ทำใจไม่ได้ สุดท้ายแกก็เลือกที่จะจบชีวิตลงโดยการผูกคอตายกับเหล็กขอบหน้าต่างในห้องของตัวเอง
หลังจากที่พี่ฟ้าและคุณยายจากไปนิสัยของคุณตาก็เปลี่ยนไป แกก้าวร้าวขึ้น ด่ากราดทุกคนที่ขับรถผ่านหรือหนักสุดปาก้อนหินใส่ชาวบ้านคนอื่นก็มี จนวันนึงแกไปมีเรื่องกับวัยรุ่นเข้าและสุดท้ายแกก็โดนพวกวัยรุ่นพวกนั้นทำร้ายจนตายที่หน้าบ้านของตัวเอง
หลังจากเสร็จงานศพก็มีหลายคนที่วิญญาณของพวกเขานะ ไม่ว่าจะทั้งในบ้านบ้างหรือนอกบ้านบ้าง แต่เคสที่หนักสุดก็คงจะเป็นฉันนี่แหละ ที่ถึงขั้นพาเข้าบ้านและโดนเฆี่ยนตีด้วย
ในวันถัดมายายของฉัน เพื่อนบ้านในละแวกรวมถึงญาติคนอื่นๆของพี่ฟ้าต่างรวมตัวกันนิมนต์หลวงพ่อเพื่อมาทำพิธีส่งวิญญาณและพาฉันมาขอขมาที่บ้านพี่ฟ้า
หลังจากที่ทำพิธีเสร็จสรรพทางคุณป้าของพี่ฟ้าก็ได้ทำลายบ้านหลังนั้นทิ้งจนเหลือแต่ที่ดินเปล่าๆ ขณะที่รถแม็คโครกำลังรื้อบ้านสายตาของฉันเหลือบไปเห็นพี่ฟ้ายืนอยู่ด้านหลังของคุณแม่ของเธอ พี่ฟ้าในชุดเดรสสีขาวสวยเธอยิ้มส่งให้ฉันพร้อมกับโบกมือลา ฉันที่เห็นดังนั้นความรู้สึกกลัวในตอนแรกมันหายไปหมดเหลือแต่เพียงความสงสารและความเห็นใจที่มีต่อเธอ ฉันโบกมือลาตอบเธอกลับจะเอ่ยด้วยเสียงเบาๆว่า
“ไปดีมาดีนะพี่ฟ้า ถ้าชาติหน้ามีจริงไว้เรามาเป็นเพื่อนกันใหม่นะ”
จากนั้นพี่ฟ้าก็ค่อยๆจางหายไป ฉันยกมือเล็กๆเช็ดน้ำตาที่เอ่อออกมา มองบ้านของพี่ฟ้าตรงหน้าที่ตอนนี้กลายเป็นแค่เศษไม้ผุพังกองถมกันเป็นชั้นๆ
เรื่องราวของครอบครัวพี่ฟ้าทุกวันนี้ฉันยังจดจำไม่เคยลืม ทุกวันนี้มันกลายเป็นลานกว้างที่มีเครื่องเล่นให้คนในหมู่บ้านมาออกกำลังกายไปแล้ว และมีร้านค้าเล็กๆที่เป็นของคุณลุงคุณป้าของพี่ฟ้ามาเปิดให้บริการกับคนในหมู่บ้านหรือคนที่สัญจรไปมา ไม่มีวิญญาณหรือผีใดออกมาให้ผู้คนได้เห็นอีก ทุกครั้งเวลาฉันไปเยี่ยมลุงกับป้าฉันก็มักจะไปแวะหาคุณลุงกับคุณป้าของพี่ฟ้าเสมอ
นึกย้อนไปถ้าในตอนนั้นพี่ฟ้าไม่โดนทำร้ายและมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ เธอจะเป็นแบบไหนนะ เธออาจจะเป็นเพื่อนสนิทของฉันหรืออาจจะเป็นพี่ฟ้าที่น่ารักของทุกคนอย่างที่พวกเขาอยากให้เป็นเหมือนตอนนี้ก็ได้
โฆษณา