4 ก.พ. 2023 เวลา 15:38 • การตลาด

เมื่อธุรกิจอาหารแข่งกันด้วย Brand Portfolio

การมี Brand Portfolio ที่แข็งแกร่ง ยังจะช่วยตอบโจทย์พฤติกรรมการบริโภคของคน เพราะจะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร ขณะเดียวกันยังเป็นตัวช่วยในการเพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่มอีกด้วย
1
เริ่มกันที่ CRG ยักษ์ใหญ่ใน Food Chain Industry ของไทยเดินหน้าเติม Brand Portfolio โดยเซ็กเมนต์ร้านอาหารที่ CRG จะเข้าไปลงทุนส่วนใหญ่จะเป็น Mass Target ซึ่งปัจจุบันมีทั้งกลุ่ม Casual Dining และ QSR
โดยครอบคลุมทั้งมื้อหลัก และมื้อรอง ไม่ว่าจะเป็น KFC, Pepper Lunch, Ootoya, Chabuton, Tenya, Yoshinoya, Katsuya, Shinkanzen Sushi, Senma Sushi, Thai Terrace, Aroi dee, Somtamnua, Kowlune, Salad Factory, Mister Donut, Auntie Anne’s, Cold Stone Creamery, Arigato, Brown Cafe’ และ Fezt Premium Ice Cream เจาะตลาด B2B เช่น โรงแรม, ร้านอาหาร และทำตลาด B2C ขายผ่านช่องทาง Modern Trade
ถัดมา Brand Portfolio ของ Minor Food ที่ทำตลาดในไทย มีหลากหลายกลุ่ม เช่นอาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก ของหวาน และ QSR เพื่อตอบโจทย์ความสะดวก และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น เบนิฮานา, เบซิล, โกอ่าง ข้าวมันไก่, ThaiExpress, Poulet, Sizzler, The Coffee Club, Pizza Company, Burger King, Bonchon, Swensens, Dairy Queen, Coffee Journey และ กาก้า
จะเห็นได้ว่าการเพิ่มแบรนด์ใหม่เข้ามาใน Portfolio ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญเพื่อเติมเต็มโอกาสในการบริโภค เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ตลาดใหม่ ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งมื้อหลัก และมื้อว่างในชีวิตประจำวัน ซึ่งทิศทางหลังจากนี้ เกมการแข่งขันของธุรกิจอาหารในไทย จะแข่งในด้าน “Brand Portfolio” ใครแข็งแกร่ง มีสาขาครอบคลุม ย่อมได้เปรียบในการเข้าถึงทุกช่วงเวลาการรับประทานอาหารของผู้บริโภค
แบรนด์ต่อไปของ CRG และ Minor จะเป็นอาหารประเภทไหน กลุ่มไหน เราต้องมาคอยจับตาดูกัน
อ่านเพิ่มเติม https://www.brandage.com/article/34201
#CRG #Minor #ธุรกิจอาหาร #Food #BrandAgeOnline
โฆษณา