7 ก.พ. 2023 เวลา 05:38 • ความคิดเห็น
ในคำว่าสงสาร ..มันก็เป็นจิตที่ดี ที่เรารู้จัก รู้สึกเห็นออกเห็นใจ แม้ร่างกายแก่เฒ่าชรา ก็ยังต้องอาสัยสังขาร มีเสาะแสวงหาปัจจัย หาเงินทอง เพื่อให้ได้มา ..หล่อเลี้ยง เรือนกาย ..ค่าใช้จ่าย ค่าอะไรมากมาย .เราก็มองลึกลงไปต่างคนก็ต่างมีกรรม
เมื่อแก่เฒ่าชรา .บ้างก็มีทรัพย์สินเงินทอง บ้างก็ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร แม้แต่ที่อยู่ที่อาศัย บ้านช่อง กไม่มีเป็นของตัวเอง บ้างมีสมบัติยกให้ลูกหลานไปหมด หวังให้เค้าเป็นที่พึ่งยามแก่เฒ่าชรา เค้าก็ไม่ดูแล หาว่า แบ่งไม่เท่ากัน รักคนนั่นคนนี้มากกว่า
..เหมือนตลกที่ว่า ลูกที่อยู่เมืองจันทร์ บอกให้ไปอยู่กับลูกที่เชียงใหม่ คนที่เชียงใหม่ก็บอกให้ไปอยู่กับลูกที่อยู่เมืองจันทร์ เรื่องจริงๆก็มีมีนาเป็นร้อยไร่ แบ่งให้ลูกทุกคน ..ก็มีการเกี่ยงงอนกัน ว่าให้ไม่เท่ากัน ..แม่ก็เลยต้องไปอยู่วัด ..เพราะของที่เคยเป็นของตัว เปลี่ยนชื่อไปหมดแล้ว นั่นก็เป็นเรื่องของเวรกรรม ที่เค้าเกิดมาทวงกรรมกัน ถึงเวลากรรมเค้าทวง มันก็ต้องทุกข์ทรมานชำบากกายลำบากจิต ยิ่งมาเกิดตอนแก่เฒ่าชรา ก็ยิ่งชอกช้ำทั้งกายทั้งจิต
เมื่อเรามองเค้า เราก็ดูเป็นตัวอย่าง วันหนึ่งกายเรามันต้องแก่ต้องเจ็บป่วยเหมือนกัน ก็ขอให้เราอย่าทุกข์ยากลำบากกาย เราก็ไม่ประมาท เพราะเรื่องกรรม..นั่นต้องแก้ไขด้วยตัวเอง เราไปแก้ไขช่วยเค้าให้พ้นทุกข์ไม่ได้
เราก็หันมาดูตัวเรา เรามีความประมาท ละเลยในเรื่องราวอะไร ที่จะทำให้กายเรานั่นมีบุญ กายที่มีบุญ ก็แข็งแรง ทำอะไรก็ไม่เหน็ดเหนื่อยง่าย โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ค่อยรบกวน ถึงจะมีรบกวน กายที่มีบุญ ก็เปลี่ยนแปลงฝ่าฟันอุปสรรคได้ ไม่ลำบาก นั่นก็คือ ไม่ประมาก นำาชกายวาจาใจ มาสร้างบุญกุศล บารมี คลี่คลายกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ที่อาศัย ให้กายมีบุญ จิตเข้มแข็ง จิตก็เข้มแข็งต่ออารมณ์ ไม่ไปรับทุกข์รับอารมณ์ของคนอื่นมาเป็นของตน ..กายก็เป็นสุข จิตก็เป็นสุข
โฆษณา