7 ก.พ. 2023 เวลา 11:18 • การตลาด

การตัดราคาสินค้าออนไลน์จะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าตัวในปี 2566 นี้

ช่องทางการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ที่ผ่านมา แต่ละแพลตฟอร์มจะแยกวิธีการทำการตลาดที่ชัดเจน รูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่น
Facebook, LINE, Instagram, YouTube:
Credit: Matrix Consultant
เป็นช่องทางในการนำเสนอขายสินค้าในรูปแบบการไลฟ์ขาย การทำวีดีโอคลิป การนำเสนอสื่อภาพนิ่ง หากต้องการให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้นก็ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ระบบนำส่งสื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็น แต่การปิดการขายจะเป็นหน้าที่ของผู้ขายแต่ละคนเอง
Website และ Application ของเจ้าของสินค้า
ต้องทำการตลาดหนักหน่อย เพราะต้องนำเสนอผ่าน Web และ Application ของตนเอง การนำ Web และ Application ไปนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ รายจ่ายก็จะสูงกว่าการเข้าไปใช้แพลตฟอร์มต่างๆ แต่จะมีความอิสระและปลอดภัยมากกว่า หากเกิดกรณีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของแต่ละแพลตฟอร์ม ที่เพจอาจจะถูกลบหรือเงินที่ลูกค้าชำระมาอาจจะถูกยึดไปทั้งหมดก็เป็นได้
Market Place:
Shopee, Lazada, NocNoc, Line My Shop, Facebook Marketplace, Lnw.shop, WELOVESHOPPING, Tarad.com, Kaidee.com, Pantip Market, Shop at 24-hour และอื่นๆ
ที่มา:  Google Play
กลุ่มนี้ก็จะทำการตลาดโดยการนำสินค้าจากผู้ค้ารายต่างๆ (Suppliers) ที่ต้องการนำสินค้ามาขาย มาลงในแพลตฟอร์มของตนเอง มีราคาในการนำเสนอขายอย่างชัดเจน ลูกค้าสามารถคลิ๊กสั่งซื้อได้โดยตรง ทั้งยังมีโค้ดส่วนลดส่วนแถมให้ด้วย
ซึ่งทั้งหมดข้างต้นจะมีรูปแบบการนำเสนอที่แยกจากกันอย่างชัดเจน ใครถนัดรูปแบบไหนก็ไปใช้ได้ตามถนัด
1
แต่รูปแบบการนำเสนอขายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้ถูกรวบมาเป็นหนึ่งเดียวในรูปแบบการขายสินค้าผ่าน TikTok Shop และ TikTok Creators
ที่มา: Nextrix Online Marketing บริการทำการตลาดออนไลน์ Social Media | Ads
เพราะผู้ขายสามารถนำสินค้าลงไปขายหรือจะนำสินค้าจากคลัง Affiliate ไปขายต่อก็ได้ พร้อมทั้งไลฟ์ขายสินค้าได้ด้วย หรือสะดวกจะทำคลิปรีวิวก็ได้
นอกจากนี้แล้วยังสามารถปิดขายได้ผ่านระบบของ TikTok ที่มีการให้ส่วนลดส่วนแถมที่ยั่วยวนมาก รวมถึงฟรีค่าขนส่งด้วยอีกต่างหาก โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยซื้อสินค้าผ่าน TikTok ยิ่งจะได้ส่วนลดเป็นพิเศษ โดยการคำนวณจาก AI ที่จะคัดเลือกว่าใครจะให้ส่วนลดเท่าไหร่
ที่มา: TikTok Shop
วิธีการที่ TikTok ทำอยู่ในปัจจุบันก็คือการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้มากขึ้น ทั้งยังเพิ่มประสบการณ์ในการซื้อสินค้าที่มีกับ TikTok (User Experience) ที่จะทำให้เกิดความถี่ในการเข้ามาใช้บริการมากขึ้นในอนาคต
“ยุคใหม่ฯ” ก็มีตระกร้าสินค้าใน TikTok ทั้งยังได้ทำการ Review ผ่านการไลฟ์สด การทำ Clip VDO โดยการนำสินค้าจากผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้ค่า Commission ผ่านระบบ Affiliate เพียงลองทำให้ครั้งแรก พบว่ามีการขายเครื่องชั่งน้ำหนักได้ถึง 49 ตัว เพราะนอกจากราคาไม่ถึง 200 บาท ยังสามารถเชื่อต่อ Bluetooth และคำนวนดัชนีร่างกายได้อย่างใกล้เคียงกับเครื่องราคาแพงๆด้วย
ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆที่เคยนำ Affiliate มาทำการโปรโมท ปัจจุบันยังไม่สามารถเบิก Commission ได้ เพราะมีลูกค้าเข้ามาซื้อน้อยมาก
TikTok จะทำให้การแข่งขันราคาที่เดิมก็สูงอยู่แล้วต้องสูงขึ้นไปอีก เพราะหากแพลตฟอร์มอื่นๆไม่ปรับราคาลงก็จะถูก TikTok ดึงลูกค้าไปเป็นจำนวนมาก สุดท้ายก็จะต้องให้เจ้าของสินค้ารายต่างๆจำใจลดราคาลงมาอีก เชื่อว่าหากอยากขายต่อก็อาจจะเข้าเนื้อก็ได้
นอกจากนี้แล้วในการนำเสนอขายผ่าน TikTok ยังจะต้องเจอการเข้ามานำเสนอขายเองจากคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ ที่เป็นทั้งตัวแทนรายใหญ่จากจีนหรือเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเอง สินค้าที่ผู้นำเข้าชาวไทยที่เคยมีกำไร ในอนาคตนอกจากจะขายได้ยากแล้ว เผลอๆอาจจะต้องขายในราคาต่ำกว่าทุนด้วยซ้ำ
ดังนั้นรูปแบบการนำเสนอขายด้วยสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน คงไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ผู้ประกอบการออนไลน์ของไทยนำไปประกอบอาชีพได้ง่ายๆแล้วหากไม่สร้างความแตกต่าง
แต่ผลกระทบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เป็นผู้ที่ Content ได้น่าสนใจ เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะยังไงลูกค้าก็เชื่อถือในการซื้อสินค้าจากผู้ค้ากลุ่มนี้ต่อไป
Credit: Arizona Alumni - University of Arizona
สถานการณ์ขึ้นขึ้นอยู่กับว่า “เราจะยังคงทำแบบเดิมต่อไปแล้วค่อยหาทางออกในตอนที่ขายไม่ได้ หรือจะปรับตัวหาช่องทางและวิธีการที่สร้างคุณค่าให้ลูกค้า”
โฆษณา