9 ก.พ. 2023 เวลา 09:35 • ข่าวรอบโลก

บอลลูนปริศนาสะเทือนจีน-สหรัฐฯ - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

บอลลูนของจีนที่รุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าสหรัฐฯ มีขนาดใหญ่เท่ารถบัส 3 คัน ทางสหรัฐฯ มองว่าเป็นบอลลูนสอดแนมลูกมหึมา ส่วนทางจีนบอกว่าเป็นบอลลูนของเอกชน ใช้สำรวจสภาพอากาศ และด้วยเหตุสุดวิสัย ลมพัดผิดทิศ จึงลอยผิดทางล้ำเข้าไปในดินแดนสหรัฐฯ โดยไม่ตั้งใจ
5
ปริศนาบอลลูนลูกนี้มีมากมาย ตกลงแล้วเป็นบอลลูนของหน่วยสอดแนมของรัฐบาลจีนหรือเป็นของภาคเอกชน บอลลูนลูกนี้ผู้ปล่อยมีกลไกสามารถควบคุมทิศทางได้ไหม และผู้ปล่อยรู้แผนที่การเคลื่อนของบอลลูนหรือไม่ ที่สำคัญ บอลลูนยักษ์สามารถเก็บข้อมูลอะไรได้บ้าง
3
แล้วที่ล้ำเข้าไปในน่านฟ้าสหรัฐฯ จนถึงมลรัฐมอนทาน่า ซึ่งเป็นพื้นที่ของฐานทัพนิวเคลียร์ที่สำคัญของสหรัฐฯ นับว่าเป็นเส้นทางที่ตั้งใจ หรือหลุดเข้าไปโดยอุบัติเหตุอย่างที่จีนยืนยัน
3
ปริศนาเหล่านี้ต้องรอข้อมูลเพิ่มเติม สุดท้ายเราอาจไม่มีทางรู้ความจริงครบถ้วนก็ได้ แต่ข้อพิพาทเรื่องบอลลูนครั้งนี้สะท้อนปัญหาใหญ่ 3 ข้อ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างถึงแก่น
2
ข้อแรกคือ ความไม่ไว้วางใจกันที่สูงมาก สาเหตุที่บอลลูนยักษ์เป็นกระแสใหญ่โตในสหรัฐฯ ได้ถึงระดับนี้ เป็นเพราะนี่เป็นของจริงใหญ่โตที่เห็นด้วยตา ซึ่งกระตุ้นต่อมความกังวลและความหวาดระแวงของสหรัฐฯ ว่าจีนเป็นภัยคุกคาม
2
กระแสข่าวในสหรัฐฯ เรื่องนี้ร้อนแรงมาก นักการเมืองของทั้งสองพรรคต่างออกมาเรียกร้องให้ยิงบอลลูนทิ้ง และเรียกร้องความรับผิดชอบจากจีน จนกองทัพสหรัฐฯ ต้องส่งเครื่องบินรบขึ้นปล่อยขีปนาวุธไปทำลายบอลลูน เรื่องร้อนไปจนถึงแอนโธนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ต้องประกาศเลื่อนการเดินทางไปจีนออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากที่เดิมมีกำหนดจะเยือนจีนและเข้าพบสีจิ้นผิงในสัปดาห์นี้
2
การเลื่อนการเดินทางของบลิงเคนนับว่าน่าเสียดายมาก ก่อนหน้านี้ โลกกำลังจับตามองว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มกลับมาดีขึ้น หนังสือพิมพ์ทางการของจีนปูข่าวด้วยบทความต่อเนื่องหลายวันมาโดยตลอดเรียกร้องให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับมาร่วมมือกันในเส้นทางที่สร้างสรรค์ สีจิ้นผิงยังมีกำหนดการให้บลิงเคนเข้าพบ ซึ่งเป็นการให้เกียรติบลิงเคนในฐานะแขกของรัฐบาลจีนเป็นพิเศษ
1
การยกเลิกทริปของบลิงเคนแสดงให้เห็นความจำเป็นที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีน เพื่อสนองต่อกระแสและความรู้สึกของประชาชน และทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ ถึงแม้ไบเดนอาจจะอยากให้ความสัมพันธ์กลับมาเสถียรมากขึ้นเช่นเดียวกับสีจิ้นผิง แต่กระแสภายในสหรัฐฯ ที่ต่อต้านและหวาดระแวงจีนสูงมาก ก็ทำให้ไม่ง่ายที่จะกลับมาสู่เส้นทางของความปรองดอง
2
ข้อสอง ปัญหาบอลลูนสะท้อนว่า ช่องทางการสื่อสารระหว่างสองประเทศยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หากเรื่องบอลลูนยังเกิดความเข้าใจผิดและต่างฝ่ายต่างพูดไปคนละทิศถึงเพียงนี้ แล้วหากเกิดอุบัติเหตุหรือข้อพิพาทใหญ่โตกว่าเรื่องนี้ ไม่ยิ่งน่าวิตกว่าจะเข้าใจผิดจนอาจลุกลามไปสู่สงครามได้หรือมีข้อชวนสงสัยมากมาย
3
เช่น เมื่อสหรัฐฯ ทราบว่าบอลลูนล้ำเข้าน่านฟ้าสหรัฐฯ แล้ว ได้มีการสื่อสารกับจีนทันทีหรือไม่ หรือรอหลายวันจนไปโผล่ที่มอนทาน่าจนเรื่องแดงในสื่อจึงค่อยพูดคุยกัน เช่นเดียวกัน หากหน่วยงานจีนที่ได้รับสัญญาณจากบอลลูนทราบว่าบอลลูนล้ำเข้าน่านฟ้าสหรัฐฯ โดยไม่ได้ตั้งใจ เหตุใดฝั่งจีนจึงไม่รีบแจ้งเตือนให้สหรัฐฯ ทราบในทันที
2
สหรัฐฯ และจีนมักย้ำความจำเป็นที่จะต้องมีสายตรงสายด่วนถึงกันเพื่อลดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะหากเกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องที่ไม่คาดคิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง แต่มีคำถามว่าสายด่วนสายตรงที่กดต่อสายไปนั้น สุดท้ายปลายทางจะมีคนรับสายหรือไม่
6
ข้อสาม กรณีบอลลูนยังชวนให้สงสัยว่า ภายในจีนเองนั้น ได้มีการสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพียงพอหรือไม่ หลายคนมองว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่สีจิ้นผิงจะสั่งให้ส่งบอลลูนบินเข้าสหรัฐฯ ไม่กี่วันก่อนที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ จะมีกำหนดมาเยือนจีนและพบสีจิ้นผิง โดยที่ทางจีนเองก็มีแนวโน้มพยายามผลักความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ไปในเชิงบวกในช่วงที่ผ่านมา
1
ความเป็นไปได้คือฝ่ายความมั่นคงของจีนอาจปฏิบัติการตามภารกิจการสอดแนมที่เคยได้รับมอบหมาย โดยไม่ได้แจ้งรายงานต่อสีจิ้นผิง หรือไม่ได้มีการประสานกับหน่วยอื่น จนอาจเกิดความเข้าใจผิด และไม่มีการประสานแนวทางร่วมกันที่ชัดเจนเมื่อเกิดปัญหาขึ้น
มีคำถามว่า เพราะเหตุใดจีนต้องใช้บอลลูนในการสอดแนม ทั้งที่จีนก็มีดาวเทียมหรือวิธีสอดแนมอื่นที่น่าจะไฮเทคแถมแนบเนียนกว่า นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอธิบายว่า ระดับความสูงของบอลลูนนอกจากจะเก็บภาพคมชัดได้แล้ว ยังสามารถจับหรือแทรกคลื่นสัญญาณเสียงที่มีการสื่อสารทางวิทยุสื่อสารหรือโครงข่ายโทรคมนาคมได้ด้วย หากเป็นดาวเทียมจะอยู่ในระดับที่สูงเกินไปที่จะจับหรือสอดแนมสัญญาณคลื่นเสียงเหล่านี้ได้
2
สหรัฐฯ แถลงว่า จีนส่งบอลลูนสอดแนมหลายลูกไปหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมทั้งบอลลูนของจีนก็เคยล้ำเข้ามาในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ 2-3 ครั้ง เพียงแต่ไม่ได้เรื่องแดงใหญ่โตอย่างในครั้งนี้ ส่วนจีนเองก็บอกว่าสหรัฐฯ นั่นแหละที่เชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องปฏิบัติการสอดแนมและจารกรรมข้อมูลทั่วโลกมากที่สุด
2
ที่แน่ๆ คือ บัดนี้นอกจากสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยีแล้ว ยังมีสงครามสอดแนมอีกหนึ่งแนวรบ นั่นคือปฏิบัติการเก็บและช่วงชิงข้อมูลของอีกฝ่าย โดยหน่วยความมั่นคงของทั้งสองฝ่าย
2
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดจึงสะท้อนสภาพความเปราะบางของความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ฝรั่งมีคำพูดหนึ่งว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจค่อยๆ สะสมขึ้นทีละหยด แต่เวลาหายทีนั้นหมดทีละถังใหญ่ๆ (Trust is built in drops but lost in buckets)
1
เมื่อขาดพื้นฐานความเชื่อใจระหว่างกันแล้ว อุบัติเหตุ และความเข้าใจผิดก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก แต่ละครั้งก็สามารถเป็นเสมือนสะเก็ดไฟเล็กๆ ที่อาจปะทุลุกลามใหญ่โตจนเป็นความขัดแย้งใหญ่ระหว่างประเทศได้เลยทีเดียว
โฆษณา