16 ก.พ. 2023 เวลา 05:30 • ธุรกิจ

6 วิธีเลือกใช้โปรแกรม OCR ให้ตอบโจทย์กับธุรกิจ

เทคโนโลยี OCR เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน เนื่องจากได้เข้ามาทำให้การดึง และกรอกข้อมูลจากเอกสารทำได้อย่างสะดวก และรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้นจากแต่เดิมที่ต้องใช้ระบบแมนนวล หรือคนในการกรอกข้อมูล
หากธุรกิจต้องการจะนำโปรแกรม OCR มาใช้งานจะมีวิธีการเลือกอย่างไรเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจให้ได้มากที่สุด วันนี้ AIGEN มีคำตอบให้ในบทความนี้
6 วิธีการเลือกใช้โปรแกรม OCR ให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ
แต่ธุรกิจย่อมมีโจทย์ ความต้องการ และวัตถุประสงค์การนำโปรแกรม OCR ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกระบบ OCR ไปใช้งานจึงขึ้นอยู่กับโจทย์ของแต่ละธุรกิจเป็นสำคัญ แต่โดยพื้นฐานแล้วจะมี 6 ปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจนั้นสามารถใช้ในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม OCR ได้ เพราะปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ระบบ OCR ควรจะต้องทำได้ เพื่อตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ
1. ความแม่นยำ
แน่นอนว่าความแม่นยำเป็นปัจจัยแรกที่ธุรกิจมักจะนำมาใช้ในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม OCR ซึ่งในปัจจุบันเองนั้นธุรกิจสามารถทดสอบความแม่นยำของผู้ให้บริการ OCR ได้ด้วยตัวเองผ่านทางระบบ Web portal หรือผ่านทางการทำ POC เพื่อเป็นการทดสอบว่าเอกสารที่ต้องการทำ OCR นั้นความแม่นยำผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ธุรกิจได้กำหนดไว้หรือไม่ รวมทั้งมีระบบ Support อื่นๆ ที่ทำให้ขั้นตอนการทำงานของธุรกิจสะดวก และง่ายขึ้นหรือไม่
เช่น มีระบบการรีวิว หลังจากที่ได้ทำการ OCR แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ก่อน ก่อนที่จะส่งข้อมูลเข้าไปในระบบ เป็นต้น แต่ก็ต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่าความแม่นยำนั้นไม่มีเจ้าไหนที่ทำได้ 100% อย่างแน่นอน เพราะ AI เองนั้นก็ไม่ได้เพอร์เฟคเหมือนกับมนุษย์ ซึ่งมนุษย์เองนั้นยังต้องมีการเทรนโมเดล AI อย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาให้ AI นั้นเก่ง และอ่านข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
2. ฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ
แน่นอนว่าแต่ละธุรกิจย่อมมีสิ่งที่ต้องการจากโปรแกรม OCR ที่อาจจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และโจทย์ของการนำ OCR มาใช้งานของธุรกิจ แต่การพิจารณานำระบบ OCR มาใช้งานนั้นจะมีฟีเจอร์ OCR ที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้อย่างราบรื่นที่ธุรกิจควรคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการจัดประเภทของข้อความได้แบบอัตโนมัติว่าข้อความนี้เป็นชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
โดยถ้าหากเป็นโปรแกรม OCR ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี AI เป็นตัวขับเคลื่อนจะไม่สามารถจัดประเภทของข้อความได้แบบอัตโนมัติ จะทำได้แค่ดึงข้อมูลจากเอกสารออกมาทั้งหมด และพนักงานจะต้องเป็นคนมาจัดประเภทของข้อความเอง ทำให้เสียเวลา และเปลืองทรัพยากร อีกทั้งทำให้ขั้นตอนการทำงานไม่สามารถทำได้แบบอัตโนมัติทั้งหมดเหมือนกับ AI-Powered OCR
นอกจากนั้นการพิจารณาว่าโปรแกรม OCR นั้นมีการอัปเดตโมเดล AI อยู่เสมอหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ธุรกิจควรนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกใช้ระบบ OCR เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าการดึง และประมวลผลข้อมูลจากเอกสารประเภทต่างๆ ของธุรกิจจะทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากยิ่งโมเดล AI ประมวลผลเอกสารมากขึ้นเท่าไหร่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของโมเดล AI ดีมากยิ่งขึ้น และเมื่อธุรกิจมีเอกสารใหม่ที่เป็นเอกสารเฉพาะสามารถที่จะปรับแต่งโมเดล AI เพียงไม่กี่วันก็สามารถใช้งานได้เลย รวมถึงฟีเจอร์ Workflow automation เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถกำหนดขั้นตอนในการดึงข้อมูลจากเอกสารได้ด้วยตนเอง ลดการทำงานแบบแมนนวล และยกระดับการทำงานให้เป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น
3. รองรับเอกสารได้หลากหลายประเภท
การมองผู้ให้บริการ OCR ที่รองรับเอกสารที่ธุรกิจต้องการใช้งานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการ OCR มีโมเดล AI ที่พร้อมใช้งานสำหรับเอกสารประเภทนั้นๆ อยู่แล้ว ทำให้ขั้นตอนการทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องมาเทรนโมเดล AI เพื่อใช้ในการอ่านเอกสารประเภทนั้นๆ ใหม่
ในขณะเดียวกันหากธุรกิจของคุณมีเอกสารเฉพาะของธุรกิจ ให้มองหาผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ OCR ที่สามารถ Customize หรือปรับแต่ง และเทรนโมเดล AI ให้เข้าใจ และใช้งานได้ภายในเวลาไม่กี่วัน เรียกได้ว่าหมดห่วงเรื่องเอกสารใหม่ๆ ได้เลย
โดยบริการ aiScript OCR จาก AI GEN นั้นรองรับประเภทเอกสารมากกว่า 15 ประเภท ทั้งเอกสารที่มีเทมเพลตที่แน่นอน เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารที่ไม่ได้มีเทมเพลตที่แน่นอน เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารเฉพาะของแต่ละธุรกิจ เรามีทีมงานที่พร้อมให้บริการสามารถ Customize ปรับแต่ง และเทรนโมเดล AI เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
4. รองรับทั้งเอกสารภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
การมองหาผู้ให้บริการ OCR ที่สามารถอ่าน และประมวลผลเอกสารได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน แน่นอนว่าธุรกิจไทยย่อมต้องใช้ทั้งเอกสารภาษาไทยเป็นส่วนใหญ่ แต่หากธุรกิจไหนที่ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติก็ต้องใช้เอกสารภาษาอังกฤษ ดังนั้นการมองหาโปรแกรม OCR ที่รองรับได้ทั้ง 2 ภาษาจึงตอบโจทย์ธุรกิจในไทยได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นผู้ให้บริการ OCR ที่เป็นของคนไทยจะยิ่งตอบโจทย์
เนื่องจากคนไทยย่อมเข้าใจในภาษาไทย และความต้องการของธุรกิจไทยแบบเชิงลึกมากกว่าโปรแกรม OCR ที่มาจากต่างประเทศอยู่แล้ว อีกทั้งยังสามารถให้คำปรึกษา และความช่วยเหลือได้อย่างใกล้ชิด ทำให้มั่นใจได้ว่านอกเหนือจากฟีเจอร์การทำงานที่จะได้รับแล้ว ยังมีทีมงานที่พร้อมจะซัพพอร์ตในช่วงเวลาที่ธุรกิจต้องการอีกด้วย
5. ราคา และการให้บริการ
ราคาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ธุรกิจให้ความสำคัญในการเลือกใช้งานโปรแกรม OCR แต่ราคานั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ทั้งในเรื่องของฟีเจอร์การทำงาน OCR การให้บริการ การเชื่อมต่อระบบ และอื่นๆ เพื่อให้เห็นเป็นภาพรวมที่จะพิจารณาว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับธุรกิจหรือไม่อย่างไร โดยแต่ละเจ้าจะมีแพ็คเกจราคาที่นำเสนอที่แตกต่างกันออกไป
อย่าง AIGEN เองนั้นเราจะมีแพ็คเกจราคาให้ลูกค้าเลือกทั้งแบบรายเดือน และรายปี เพื่อเป็นทางเลือกให้กับแต่ละธุรกิจสามารถเลือกแพ็คเกจที่ตอบโจทย์กับธุรกิจตัวเองได้ นอกจากนั้นการให้บริการก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ธุรกิจควรนำมาพิจารณาว่าแต่ละเจ้ามีทีมที่คอยให้คำปรึกษา และซัพพอร์ตในเรื่องต่างๆ หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการนำโปรแกรม OCR มาใช้งานจะเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้
6. การเชื่อมต่อระบบ
การเชื่อมต่อระบบเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ธุรกิจจะต้องนำมาพิจารณา โดยเฉพาะหากคุณวางแผนที่จะเชื่อมต่อโปรแกรม OCR กับระบบ หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ฐานข้อมูล ระบบจัดการเอกสาร หรือระบบบัญชี โดยจะต้องเลือกผู้ให้บริการ OCR ที่มีบริการ API ที่จำเป็นต้องใช้ หรือการเชื่อมต่อแบบอื่นๆ เพื่อที่ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงควรนำโปรแกรม OCR ไปใช้งาน
การนำโปรแกรม OCR ไปใช้งานมีประโยชน์กับธุรกิจในหลากหลายด้าน ได้แก่
1. ยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน
โปรแกรม OCR จะช่วยประหยัดเวลา และทรัพยาการที่ต้องใช้ในการดึง และกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบได้เป็นอย่างมากจากแต่เดิมต้องทำแบบแมนนวล ทำให้พนักงานมีเวลาที่จะมาโฟกัสกับงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
2. ความแม่นยำที่เพิ่มมากขึ้น
OCR ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดความผิดพลาดจากการใช้ระบบแมนนวลในการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ ยกระดับให้ขั้นตอนการทำงานของธุรกิจถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
3. ประหยัดค่าใช้จ่าย
ด้วยการกรอกข้อมูล และจัดการข้อมูลจากเอกสารแบบอัตโนมัติทำให้ธุรกิจประหยัดทรัพยากรบุคคลที่ต้องใช้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในภาพรวมได้เป็นอย่างดี
4. ยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล
ระบบ OCR ช่วยให้ธุรกิจเก็บ และจัดการกับข้อมูลที่อ่อนไหวได้อย่างปลอดภัย ด้วยการเก็บเอกสารให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล
5. ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
โปรแกรม OCR ทำให้ธุรกิจสามารถดึงข้อมูลจากอีเมลลูกค้า และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ทำให้ธุรกิจสามารถที่จะตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี
Think AI Think AIGEN
อ่านบทความฉบับเต็มคลิก : https://bit.ly/3GTUwCP
ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการนำโซลูชัน AI-Powered OCR ไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIGEN ได้ที่
· Facebook : AI GEN : ไอเจ็น
· Line : @aigen
โฆษณา