นับจากวันที่ Steve Jobs เปิดตัว iPhone เครื่องแรก โลกก็เปลี่ยนไป เทคโนโลยีเติบโตขึ้น คนพากันติดมือถือ มี Micro-moment หรือ distraction เกิดขึ้นตลอดเวลา เรายกมือถือดูตลอดเวลาไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไร
การทำงานร่วมกันระหว่าง Bio and Tech >> Slow and Fast จึงน่าสนใจมาก … เพราะในขณะที่พฤติกรรมของเราเปลี่ยนไป ข้างในของเราไม่เปลี่ยนเลย … ตอนยกมือถือดู Dopamine ยังหลั่ง เหมือนเวลาที่เรารักอะไร ชอบอะไรในโลกข้างนอกมือถือ
💖 พี่โจ้ยกคำของ Nelson Mandela ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ มาเป็น How to ให้พวกเราค่ะ ท่านบอกว่าเคล็ดลับมาจากพ่อของท่านซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าพื้นเมืองเผ่าหนึ่ง ทุกครั้งที่พ่อของท่านประชุม
1. พ่อจะนั่งเป็นวงกลม ความหมายคือทุกคนเท่ากัน
2. พ่อจะพูดเป็นคนสุดท้ายเสมอ ท่าน “ฟังก่อน” ซึ่งทำให้ท่านได้ฟังความคิดครบทุกคน สามารถเอา idea มาผสานกันได้ และสุดท้ายแม้จะเป็นไอเดียของท่าน แต่ท่านก็จะได้ฉันทามติ
และข้อ 3 เป็น practice ที่พี่โจ้ทำตั้งแต่อยู่ DTAC ค่ะ
ก็เนาะผู้หญิงผู้ชายมาจากดาวคนละดวงกัน มันจึงต้องใช้ Theory of Relativity เย้อออออ 555 ตัวอย่างเช่น Theory of Relativity ในโลก shopping 🤣 ถ้าผู้ชายไม่เข้าใจว่าในร้าน Zara แรงดึงดูดมันสูงกว่าข้างนอก เวลาจึงเดินช้ากว่าปกติ ก็ทะเลาะกันตาย คุณผู้ชายต้องเข้าใจว่า 30 นาทีใน Zara คือ 3 ชั่วโมงในโลกปกติ เมียบอกขอ shop 30 นาที ให้รู้เลยว่าอีก 3 ชั่วโมงเจอกัน อ่ะ อยู่กันได้ 5555
#จงเข้าใจ
-----------------------------------
11.
#ทักษะที่สองความสามารถในการเรียนรู้
Ability to learn
Empathy ว่าสำคัญแล้ว แต่ทักษะที่สำคัญกว่า และพี่โจ้ยกให้เป็นอันดับหนึ่งของ skill ที่เราต้องการใน VUCA world คือการเอาชนะ “curse of knowledge” หรือความ “รู้แล้ว”
Curse of knowledge ก็คืออาการน้ำเต็มแก้วนั่นเองค่ะทุกคน มันจะปิดกั้น Ability to learn ในโลกยุคนี้เราต้องสามารถปลด Heaviness of successful (legacy) ออก วางความสำเร็จและความรู้ที่สั่งสมมาลงได้ ไม่งั้นเราจะคุยกะมนุษย์เผ่าพันธ์ใหม่ไม่รู้เรื่อง
แม้แต่ Steve Jobs ก็บอกว่าช่วงที่โดนไล่ออกจาก Apple เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ทำให้เค้ากลับมามี creative สูงที่สุด เพราะเค้าได้ปลดแอกจากความสำเร็จเดิม ๆ และได้ความเบาของการเป็นเด็กใหม่กลับคืนมา :)