15 ก.พ. 2023 เวลา 10:00 • ธุรกิจ

'ทายาทเจ้าสัว' เคลื่อนธุรกิจครอบครัวเติบโตมั่งคั่ง

“ทายาท” องค์กรธุรกิจครอบครัว 2 น้ำเมายักษ์ใหญ่ “บุญรอดบริวเวอรี่” มีเจนเนอเรชั่น 4 เป็นแม่ทัพ ขณะที่ “ไทยเบฟเวอเรจ” เจน 2 รับไม้ต่อ สานความมั่งคั่ง เบ่งรายได้ “แสนล้าน” กำไรหลัก “หมื่นล้าน” สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
“ธุรกิจครอบครัว” หรือกงสี ในประเทศไทยมีอยู่มากมาย ทั้งเล็กใหญ่ หากเจาะ “บิ๊กคอร์ป” เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ยกให้ 2 ยักษ์ใหญ่
“ไทยเบฟเวอเรจ” ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” และ “บุญรอดบริวเวอรี่” ของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ต่างสร้างอาณาจักรเติบโตใหญ่มีรายได้ระดับ “แสนล้านบาท” ทำ “กำไร” ระดับ “หมื่นล้านบาท”
ไทยเบฟ ทายาทรุ่น 2 สานต่อความมั่งคั่ง
ตระกูลธุรกิจแถวหน้าของเมืองไทย “ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น” หรือทีซีซี กรุ๊ป ก่อร่างสร้างอาณาจักรจาก “เจ้าสัวเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” ภายใต้ทีซีซี กรุ๊ป มี 5 เสาหลักธุรกิจ และ 5 ทายาท ถูกแบ่งบ้าน(ธุรกิจ) ให้ดูแลอย่างลงตัว
หนึ่งในเสาหลักสำคัญ คือ ไทยเบฟเวอเรจ ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่ม ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปติดท็อป 10 ของเอเชีย จากผู้ก่อตั้ง “รุ่นแรก” สร้างธุรกิจจากการ “ซื้อกิจการ” โรงงานสุราบางยี่ขัน ต่อยอดอาณาจักรให้ยิ่งใหญ่
1
เมื่อไม้ต่อส่งถึง “ทายาท” ลำดับที่ 3 ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” อย่าง “ฐาปน สิริวัฒนภักดี” กลยุทธ์การซื้อและควบรวมกิจการ(M&A) ยังมีให้เห็นตลอดเส้นทาง เช่น การทุ่มเงินหลัก “แสนล้านบาท”​ เข้าครอบครองหุ้นในบริษัท เฟรเซอร์แอนด์นีฟ(เอฟแอนด์เอ็น) หรือไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ คอร์ปอเรชั่น(SABECO) เป็นต้น
1
ภายใต้การนำทัพของ “ฐาปน” สร้างไทยเบฟเติบโตแบบ “ก้าวกระโดด” ผ่านมรรควิธี “ทางลัด” ข้างต้น จากสินค้าในพอร์ตโฟลิโอ มีเหล้าเบียร์ไม่กี่แบรนด์ ขยายสู่เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาหาร ผ่านแบรนด์ดังทำตลาด เช่น น้ำอัดลมฮันเดรดพลัส ซาสี่ สตาร์บัคส์ เคเอฟซี สก๊อตวิสกี้ Old Putlteney ฯ บริษัทจากมีกว่า “ร้อย” ขณะนี้มีมากกว่า 200 บริษัท และรายได้ที่เคยอยู่ระดับ “หมื่นล้านบาท” ในอดีต ทะยานสู่ 272,000 ล้านบาท ในปี 2565(ปีงบประมาณ ต.ค.64-ก.ย.65) กำไรสุทธิ 34,505 ล้านบาท
แม้ไทยเบฟจะเป็นธุรกิจครอบครัวแต่บริษัทถูกจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ทำให้มีความเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภาพความเป็นกงสีอาจดูเลือนลาง แต่หากดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ตระกูล “สิริวัฒนภักดี”ยังถือครอง 45% ผ่านบริษัท สิริวนา จำกัด
โฆษณา