15 ก.พ. 2023 เวลา 07:54 • การตลาด

Nike “นวัตกรรม + การตลาด” ต่อยอดสู่ “Personalization” ตอนสุดท้าย

Nike สามารถทำได้ดีทั้งผลการดำเนินงาน และผลตอบแทนจากราคาหุ้นที่ทำได้ดีกว่าดัชนี S&P 500 - Total Return และ S&P 500 APPAREL Accesories & Luxury goods
สำหรับงบการเงินที่ประกาศออกมาล่าสุด ปี 2022 ก็ทำให้เห็นอะไรได้หลายอย่างถึงสิ่งที่ Nike เดินกลยุทธ์ในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง Personalization เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานปี 2022 กับปี 2019 พบว่าในตลาดหลัก ๆ ของ Nikeได้แก่ อเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกลาง และแอฟฟริกา มีรายได้และกำไรต่อต้นทุนดีขึ้น
3
ซึ่งเป็นผลจากการที่ Nike สามารถทำ Digital marketing ได้ดี และส่งผ่านไปที่ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับช่องทางขายผ่าน Wholesale ที่ปรับลดลงมา
Nike เดินหน้าผ่านสื่อ Social media จนทำให้มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 15 - 40 ปี โดยมีจำนวนชายและหญิงในสัดส่วนใกล้เคียงกัน และยังมีแผนที่จะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นให้มากขึ้นเพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่มี Brand loyalty ซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทในระยะยาว
นอกจากการสร้าง Personalization marketing ตามที่กล่าวมาในตอนที่ 2 Nike ยังเลือกที่จะให้กลุ่มนี้ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ล่าสุด Nike ประกาศซื้อกิจการ RTFKT สตาร์ทอัปสตูดิโอออกแบบของสะสม ประเภทรองเท้าและแฟชั่น NFT สำหรับ Metaverse เพื่อที่จะทำให้ ร้าน Nike ในโลก Metaverse สามารถส่งมอบประสบการณ์ให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมร้านที่จำนวนเกือบ 7 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร Nike ก็มีคอมเม้นท์ในงบการเงินที่ห่วงถึง อุปสรรคของห่วงโซ่อุปทาน ระยะเวลาส่งมอบสินค้าที่ใช้เวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึง ต้นทุนที่ต้องจ่ายมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ยังเห็นว่า Nike ยังกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากภูมิภาคเดียวมากเกินไป โดยยอดขายส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาเหนือถึง 40% ซึ่งสัดส่วนนี้ไม่ได้ต่างไปจากปี 2019 เลย
“Nike” เป็นอีกหนึ่ง Premium Brand ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าจนเกิด “Brand Loyalty” ซึ่งนำมาสู่ความแข็งแกร่งของธุรกิจ
เมื่อ “Brand Loyalty” เป็น keyword สร้างความมั่งคั่งให้แก่ธุรกิจ B-PREMIUM ใหม่จาก BBLAM เด่นที่ลงทุนในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จาก “Brand loyalty” จัดเต็มกับโอกาสที่มากับ “สินค้า Brand ดังจากทั่วโลก”
โฆษณา