#MainStand : 5 นักฟุตบอลเพศสภาพชาย ที่เปิดเผยตัวยอมรับว่าเป็น LGBTQ+
"ผมก็เหมือนพวกคุณ คือมีหัวใจ คิดได้ และเจ็บเป็น ผมมีครอบครัว มีเพื่อน มีอาชีพที่ต้องทำงานหนักและทำให้เต็มที่ที่สุดด้วยแพชชั่นและความเป็นมืออาชีพ และก็เหมือนทุกคน ผมต้องการดำเนินชีวิตแบบปกติด้วยเสรีภาพและการปลอดอคติจากสายตารอบข้าง แต่ด้วยความจริงใจเลย ผมเป็นเกย์ ผมรักเพศเดียวกัน ผมไม่อาจปิดกั้นความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป"
ข้างต้นคือคำเปิดหมดเปลือกของ ยาคุบ ยานค์โต โฮลดิงมิดฟิลด์เลือดเช็ค ที่ออกมาเปิดเผยว่าตนนั้นเป็นเกย์ ในช่วงชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์มากที่สุดกับการเป็นกำลังหลักให้ทีมชาติเช็คมาตั้งแต่ยูโร 2020 รวมถึงสโมสรสปาร์ตา ปราก
แม้หลายครั้งจะบังเกิดปัจเจกที่มีทัศนคติแบบโลกแคบ ไม่เปิดใจ หรือไม่ยอมรับความเห็นต่าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกปัจจุบัน อะไรต่าง ๆ ที่ถูกกดทับ กดขี่ หรือซุกไว้ใต้พรมก็สามารถที่จะมีสิทธิ์มีเสียงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง อย่างการอนุญาตให้เกิดการสมรสเท่าเทียม การเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ การออกมาชุมนุม Pride Month ได้โดยเสรี หรือแม้กระทั่งการแต่งกายแบบไม่ระบุเพศ โดยที่ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐมาจับฉีดยาที่ทำให้ไข่ฝ่อเพื่อเป็นการบำบัดเหมือนครั้งอดีตกาล
แน่นอนว่าในวงการฟุตบอล กีฬาที่ครั้งหนึ่งได้สมญาว่า “กีฬาแห่งเยนเติลแมน” ได้มีเรื่องราวการเปิดตัวเปิดใจจากบรรดาพ่อค้าแข้ง LGBTQ+ เช่นกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็มีความแตกต่างกันออกไป
และนี่คือ 5 นักฟุตบอลที่มีจิตใจแข็งแกร่ง อาจหาญในการเปิดตัวว่าเป็น LGBTQ+ ที่ Main Stand ได้หยิบยกมานำเสนอให้ท่าน ณ บัดนี้
1. จัสติน ฟาชานู
เป็นสิ่งที่ต้องให้เครดิตสำหรับการกระทำใด ๆ ก็ตาม นั่นคือ การเป็นคนบุกเบิก ริ่เริ่ม หรือภาษาวัยรุ่นอาจเรียกว่า “เปิดก่อนตลอด” เพราะหากไม่มีบุคคลนี้ก็จะไม่มีการกรุยทางเส้นทางสุดสว่างไสว หรือสร้างการตระหนักรู้บางอย่างในกาลต่อมา แน่นอนว่าการเปิดตัวว่าเป็น LGBTQ+ ก็เช่นกัน โดย จัสติน ฟาชานู (พี่ชายของ ยอห์น ฟาชานู อดีตเครซี แกงค์) ถือเป็นคนแรกสุดที่กล้าเปิดอกยอมรับว่าตนนั้นเป็นเช่นนี้ในหนังสือพิมพ์ เดอะ ซัน ปี 1990
แต่หลังจากนั้น ผลกระทบที่ตามมากลับเป็นไปในด้านของการต่อต้าน แม้กระทั่งน้องชายของเขาเองก็ยังแสดงท่าทีรังเกียจ ถึงขนาดทำให้จัสตินหมดอนาคตในวงการฟุตบอล รวมถึงการใช้ชีวิตในสังคมเลยทีเดียว “ผมอยากให้สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น แม้ผมจะซื้อสัตย์และจริงใจในการเปิดเผยก็ตาม” จัสติน กล่าวไว้กับบีบีซี ก่อนที่ไม่นานจะตัดสินใจจบชีวิตตนเองลงในปี 1998
2. โทมัส ฮิทเซิลส์แพร์เกอร์
ผลกระทบของ จัสติน ฟาชานู นั้นร้ายแรงต่อการเป็น LGBTQ+ ในโลกฟุตบอลมาก ๆ ต่อให้มีการเปิดเผยตามมาภายหลังก็เป็นไปในลักษณะลับ ๆ เป็นนักเตะที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ก็เป็นในฝั่งของอเมริกาที่เปิดกว้างและไม่สนใจฟุตบอลมากเท่าไรนัก หรือเปิดเผยหลังจากแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่หนึ่งในยอดพ่อค้าแข้งที่มีอิมแพ็กต์ต่อการเปิดตัวมากที่สุดคนหนึ่ง นั่นคือ โทมัส ฮิทเซิลส์แพร์เกอร์ ยอดกองกลางสารพัดประโยชน์สัญชาติเยอรมัน
โดยเขาได้กล่าวไว้ในปี 2014 ความว่า “ในที่สุดผมก็ได้เข้าใจแล้วว่าผมอยากที่จะอยู่กินกับผู้ชาย” ซึ่งเขาเปิดเผยใน เดอะ การ์เดียน ว่าจริง ๆ แล้วเขาอยากเปิดตัวตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เล่นให้โวล์ฟบวร์ก เมื่อปี 2011 แต่บรรดาเพื่อนร่วมทีม (บางคน) ได้ออกมาเตือนว่า อย่าเลยพวก นายรับมือไม่ไหวแน่นอน เขาเลยต้องข่มจิตข่มใจ รอแขวนสตั๊ดแล้วค่อยประกาศ แน่นอนว่าการใช้ชีวิตในเยอรมนี เป็น LGBTQ+ ถือว่าปกติ ตรงนี้กระทบชิ่งมายังอังกฤษแบบอ้อม ๆ ว่า “นี่คุณอยู่ยุคไหนกัน ?”
3. จอช คาร์วัลโญ
"มีเรื่องส่วนตัวบางอย่างที่ผมจำเป็นต้องแชร์ต่อทุก ๆ คน ผมเป็นนักฟุตบอล และผมเป็นเกย์"
ประโยคข้างต้นคือคำกล่าวของกองกลางวัยรุ่นชาวออสเตรเลียของสโมสรแอดิเลด ยูไนเต็ด นามว่า จอช คาร์วัลโญ ซึ่งการออกมาประกาศดังกล่าวทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่บนลีกสูงสุดคนเดียวในโลกที่กล้าเปิดเผยตน และที่สำคัญเขายังถือได้ว่ามีจิตใจห้าวหาญอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ที่เปิดเผยมักเลือกทำในวัยที่สมควร ใกล้แขวนสตั๊ด หรือแขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่ใช่กับหนุ่มน้อยจากมลรัฐวิกตอเรียคนนี้ เพราะหลังจากที่เขาขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ได้ไม่นาน เขาก็ออกมาเปิดตัวในวัยเพียง 21 ปี ซึ่งทำให้มีข้อครหาว่า แท้จริงแล้วเขามีชื่อเสียงจากการใช้ฝีเท้าหรือจากการเปิดตัวว่าเป็น LGBTQ+ กันแน่ เพราะเขาถือได้ว่าเป็นกำลังหลักในการ Call Out ประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ ทั้งในออสเตรเลียและระดับโลก
"ในการเป็นนักฟุตบอลเกย์ เราต้องสงบปากสงบคำ ผมต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ เพราะไม่ควรมีใครต้องปกปิดในสิ่งที่เป็น" สิ่งนี้คือปณิธานของเขา
4. เยก แดเนียลส์
อย่างที่เน้นย้ำ อังกฤษถือว่ามีความอนุรักษ์นิยมทางด้านเพศวิถีอย่างมาก ภายหลังจากโศกนาฏกรรมของ จัสติน ฟาชานู ในอังกฤษแทบไม่มีใครกล้าออกมาเปิดเผยตัวอีกเลย แต่ในสังคมย่อมต้องมีคนที่ลุกขึ้นมากระทำการบางอย่างที่แหวกออกไปจากสิ่งที่เคยเป็นมา แน่นอนว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับ เยก แดเนียลส์
คาร์วัลโญว่าอายุน้อยแล้ว แต่แดเนียลส์นั้นน้อยกว่ามาก โดยศูนย์หน้าแบล็คพูลในวัย 17 ปี ณ ขณะนั้น ได้ออกมาประกาศ ความว่า
“ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่มหัศจรรย์สำหรับผมในสนาม … แต่นอกสนามแล้วผมต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงของผมว่าผมเป็นใครกันแน่ ผมรู้มาตลอดชีวิตว่าผมเป็นเกย์ และตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมพร้อมแล้วที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้และเป็นตัวของตัวเองเสียที”
“ผมหวังว่าการที่ผมออกมาเปิดเผยครั้งนี้ผมจะสามารถเป็นแบบอย่างที่จะช่วยคนที่อยากจะเปิดตัวอีกแต่ยังไม่กล้า ผมเพิ่งจะอายุ 17 ปี แต่ผมรู้ตัวดีว่าผมอยากทำอะไร และถ้าการที่ผมออกมาครั้งนี้จะทำให้คนที่ได้เห็นรู้สึกว่าพวกเขาก็น่าจะทำได้เหมือนกันก็จะเป็นสิ่งที่ดีมาก”
แน่นอนว่าหนทางยังอีกยาวไกลที่จะตอบได้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมีอิมแพ็กต์ขนาดไหน แต่อย่างน้อยแบล็คพูลก็ให้โอกาสเขาได้สัมผัสบรรยากาศในทีมชุดใหญ่ และได้ลงสนามในระดับอาชีพไปเรียบร้อยแล้ว
5. ริชาร์ลิสัน
“หมดชีวิตผมคิดมาตลอดว่าผมเป็นเกย์ไหม คือผมได้หมดทั้งผู้ชายผู้หญิง แต่พอมาคิดอีกทีผมไม่ได้ประหลาด ผมแค่จัดได้หมด ไม่มีเกี่ยง และหลายคนก็บอกให้ผมลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง เอาล่ะ ผมจะกล่าวในวันนี้ ผมเป็นเสือไบ (ไบเซกชวล) ผมจะไม่มาจำกัดความเพศของผมอีกต่อไป”
คำกล่าวข้างต้นเป็นของยอดกองหน้าต่ำและกองกลางรุกทีมชาติบราซิล เซา เปาโล และ แอตเลติโก มิเนโร นาม ริชาร์ลิสัน ที่ได้กล่าวไว้กับเดลีเมลล์ เมื่อปี 2021 แต่อย่าเข้าใจผิด เขาไม่ใช่ยอดศูนย์หน้าหัวทองอัลฟ่าเมลของสเปอร์สและทีมชาติบราซิลที่มีชื่อเดียวกัน และชื่อของเขามีการสะกดต่างกันเล็กน้อย
โดยการเปิดเผยของเขาถือได้ว่าเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญของวงการฟุตบอลบราซิล ที่ถือได้ว่าการเป็น LGBTQ+ ยังเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ตามวิถีประชา ยังคงมีการประนาม ประจาน ไปจนถึงประชาทัณฑ์ และทำให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมากพอสมควร
“โชคไม่ช่วย โลกเรายังรับไม่ได้กับเรื่องนี้ จริง ๆ คนควรหันมาสนใจมากกว่านี้ได้แล้ว อย่างในบราซิลพวกที่เป็นแบบผมตายห่ากันจำนวนมาก แน่นอนว่าแค่พูดในวงการฟุตบอลไม่พอต้องขยายขนาดออกไปให้ตระหนักรู้กัน คุณช่วยได้แค่ไม่ช่วยเฉย ๆ”
แต่อย่างน้อย ๆ อดีตต้นสังกัดของเขาอย่าง เซา เปาโล และ แอตเลติโก มิเนโร ยังได้ออกมาให้กำลังใจด้วยข้อความประมาณเดียวกันว่า “เราเคารพวิถีของคุณ ขอให้คุณโชคดี”
แหล่งอ้างอิง
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
