18 ก.พ. 2023 เวลา 08:58 • กีฬา

สเตฟาน ไบจ์เซติช : ดีลสุดท้ายก่อน Brexit เพชรเม็ดงามของลิเวอร์พูล | Main Stand

ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้แตกต่างจากซีซั่นก่อนอย่างชัดเจน ทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บรุมล้อม ตัวหลักที่เหลืออยู่พากันหลุดฟอร์ม จนแทบไม่น่าเชื่อว่าเวลานี้เมื่อปีที่แล้วพวกเขากำลังอยู่ระหว่างลุ้นแชมป์ทั้ง 4 รายการที่ลงแข่งขัน
แต่ในวิกฤตการณ์อันเลวร้ายและการไม่ได้เสริมทัพดึงนักเตะใหม่ในตำแหน่งกองกลางที่หลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนเข้ามาร่วมทีม ก็ยังมีฟอร์มของ สเตฟาน ไบจ์เซติช ที่ทำผลงานได้น่าประทับใจมาเป็นดั่งแสงแห่งความหวัง ท่ามกลางมรสุมต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกับทีม
มาทำความรู้จักดาวรุ่งคนสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ซื้อมาร่วมทีมตั้งแต่อายุ 16 ปี ที่อาจเป็นการลงทุนอันคุ้มค่าที่สุดชิ้นหนึ่งของสโมสรก็เป็นได้
ดีลท้าทายเดดไลน์
เที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม 2020 สหราชอาณาจักร ได้ทำการ Brexit หรือถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ ที่นอกจากจะมีผลต่อด้านเศรษฐกิจของประเทศแล้ว การซื้อขายนักเตะของสโมสรในลีกอาชีพอังกฤษก็ต้องรับแรงปะทะเข้าอย่างจัง
นั่นคือนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ดาวรุ่งอายุต่ำกว่า 18 ปีจากนอกสหราชอาณาจักรจะไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าให้เข้ามาลงเล่นกับทีมได้ และส่งผลให้ทีมงานซื้อขายของหลายสโมสรต้องหัวหมุนกันในปลายเดือนธันวาคม 2020 เพื่อเร่งปิดดีลคว้าเพชรเม็ดงามเข้ามาเจียระไนในอคาเดมีของพวกเขา
2
ลิเวอร์พูลคือหนึ่งในสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการล็อกเป้าหมายด้วยทีมงานแมวมอง ก็ได้เร่งเจรจาเพื่อปิดดีลกับ เซลต้า บีโก้ ในการคว้าตัวดาวรุ่งวัย 16 ปีในเวลานั้นให้ทันทั้งกับเส้นตายของกฎใหม่ และทันเวลาก่อนที่สโมสรอื่นจะปาดหน้าคว้าตัวไบจ์เซติชไปครอง
และด้วยความมั่นใจของทีมงานอย่าง กิโก้ เอสปินาร์ แมวมองในสเปน ผู้ชี้เป้าให้สโมสรดึงตัว ลุยซ์ ดิอาซ มาร่วมทีม ก็ทำให้ อเล็กซ์ อิงเกิลธอร์ป ผู้อำนวยการอคาเดมีของลิเวอร์พูล รุดนำทีมเจรจาไปปิดการซื้อตัวไบจ์เซติชในวัย 16 ปี ด้วยค่าตัว 240,000 ปอนด์ และเป็นผู้เล่นระดับอคาเดมีคนสุดท้ายที่ถูกดึงเข้ามาก่อนการเปลี่ยนกฎของพรีเมียร์ลีก
สำหรับแฟนบอลพันธุ์แท้ของลิเวอร์พูล ชื่อของเด็กหนุ่มคนนี้ถูกจับตามองมาตั้งแต่ช่วงที่เขาย้ายมาร่วมทีมใหม่ ๆ ในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามอง เฉกเช่นกรณีของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เคด กอร์ดอน หรือ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก แต่คงไม่มีใครคาดหวังว่าไบจ์เซติชจะใช้เวลาเพียง 2 ปี เพื่อก้าวข้ามจากนักเตะระดับเยาวชนขึ้นมาเป็นหนึ่งใน 11 ตัวจริงของทีมชุดใหญ่
แต่สำหรับ อเล็กซ์ โอเตโร่ ผู้ประสานงานทีมเยาวชนของเซลต้า เขาทราบดีว่านี่คือนักเตะที่โดดเด่นกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน “เขามีความเร็ว พละกำลัง กระโดดได้สูง และยังช่วยพาบอลขึ้นเกมรุกได้ ทั้งที่ตนลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งเขาสามารถใช้เท้าได้ทั้งสองข้าง นี่คือคุณสมบัติที่หาได้ยากมาก ๆ”
แม้จะเติบโตมาในฐานะเซ็นเตอร์แบ็ก แต่ดาวรุ่งชาวสแปนิชรายนี้ได้ถูกดันขึ้นมาพัฒนาต่อในตำแหน่งมิดฟิลด์ เนื่องจากทีมโค้ชเยาวชนมองว่าเขาเตี้ยเกินไปสำหรับการเป็นกองหลัง และจากเทคนิคการควบคุมบอลที่ดีเกินวัยกับการเข้าตัดเกมอย่างเฉียบขาดของเขา
เฉิดฉายได้ทันการ
12 กรกฎาคม 2022 ลิเวอร์พูล โคจรมาพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ราชมังคลากีฬาสถาน พร้อมกับการเดบิวต์ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกของไบจ์เซติช ที่แม้ผลสกอร์อาจไม่เป็นที่น่าจดจำสักเท่าไร แต่การได้มีส่วนร่วม 139 นาทีกับช่วงพรีซีซั่นของลิเวอร์พูลก็เหมือนเป็นช่วงเผยไต๋ไพ่เด็ดของทีมว่าเด็กหนุ่มรายนี้มีของดีอะไรซ่อนอยู่
ทว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่ามิดฟิลด์ตัวหลักของทีม ทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่ จะพากันหลุดฟอร์มลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลาเดียวกัน แถมยังมีอาการบาดเจ็บแบบแทบแตะมือสลับกันของ เจมส์ มิลเนอร์, ติอาโก้, เคอร์ติส โจนส์ และ นาบี้ เกอิต้า ที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เจ้าหนูดาวรุ่งรายนี้ถูกดันขึ้นทีมชุดใหญ่เร็วขึ้น
ลูกชายของ เซอร์ดาน ไบจ์เซติช อดีตมิดฟิลด์ของเซลต้า บีโก้ และเพื่อนร่วมทีมของ มาร์ซินโญ่ พ่อของเพื่อนร่วมทีมลูกชายในปัจจุบันอย่าง ติอาโก้ ได้โอกาสลงสนามพรีเมียร์ลีกเกมแรกในฐานะตัวสำรองนัดที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านถล่ม บอร์นมัธ 9-0 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2022
ดาวรุ่งวัย 17 ปีในขณะนั้นยังกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรที่ได้โอกาสลงเล่นเกมบอลถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ ติอาโก้ ในเกมพบกับ อาหยักซ์ เมื่อเดือนกันยายน 2022 ทำลายสถิติเดิมที่ บิลลี่ คูเมติโอ้ เคยสร้างไว้ในช่วงวิกฤตการณ์กองหลังบาดเจ็บ ระหว่างฤดูกาล 2020/21 ที่ผ่านมา
แม้สองนัดแรก ไบจ์เซติชจะไม่มีโอกาสโชว์ฟอร์มแบบจะแจ้ง แต่ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ดาร์บี้ เคาท์ตี้ ในฟุตบอลถ้วยคาราบาวคัพ เจ้าหนูมิดฟิลด์ตัวรับรายนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเขามีทั้งทักษะและความมั่นใจในการครอบครองบอล อีกทั้้งยังปรับตัวเข้ากับสปีดบอลของพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว จนได้รับเสียงเรียกร้องจากแฟนบอลให้ เยอร์เกน คล็อปป์ ส่งเขาลงสนามแทนที่นักเตะซีเนียร์อย่าง ฟาบินโญ่ ซึ่งกำลังฟอร์มดรอปลงในเวลานั้น
และดาวรุ่งรายนี้ก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง...
อนาคตใหม่ของหงส์แดง
26 ธันวาคม ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ในพรีเมียร์ลีกเกมแรกหลังจากฟุตบอลโลก 2022 สิ้นสุดลง ไบจ์เซติชสังหารประตูแรกให้กับทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ หลังจากลงสนามมาในฐานะตัวสำรองได้ไม่ถึง 3 นาที
“มันน่าทึ่งมาก ผมได้ลงสนามและพยายามช่วยเล่นเกมรับตามหน้าที่เท่านั้น แต่ผมเห็นบอลยาวไปที่ ดาร์วิน (นูนเญซ) และผมรู้ว่าเขาเก่งแค่ไหน ดังนั้นผมเลยวิ่งเข้าไปรอในกรอบเขตโทษ และบอลก็กระดอนมาหาผมจนยิงเข้าไปได้” ไบจ์เซติช ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมดังกล่าว
และหลังจากการพ่ายแพ้ ไบรท์ตัน อย่างหมดรูปไป 0-3 พร้อมกับเสียงกร่นด่าถึงมาตรฐานในแดนกลางที่สู้คู่แข่งไม่ได้ เยอร์เกน คล็อปป์ จึงตัดสินใจเปลี่ยนมิดฟิลด์ยกแผงในฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพ รอบสาม ที่ทีมบุกไปเยือน วูลฟ์แฮมตัน ด้วยการดันเจ้าหนูไบจ์เซติชออกสตาร์ทในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับคู่กับ ติอาโก้ และ นาบี้ เกอิต้า จนได้เห็นการโชว์ฟอร์มที่ดีจากแผงกลางชุดใหม่นี้
จากวันนั้นมา มีเพียงไบจ์เซติชเท่านั้นที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครบทุกนัด พร้อมกับเป็นเหมือนแสงสว่างแห่งความหวัง ท่ามกลางช่วงเวลาความมืดมิดของทีมที่เจอทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บและนักเตะหลุดฟอร์ม
ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ครั้งแรกของนักเตะวัย 18 ปีรายนี้ เขาวิ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 11 กิโลเมตรตลอดทั้งเกม จากการได้ประเดิมสนามในฐานะหมายเลข 8 เป็นครั้งแรกและโชว์ฟอร์มได้ดีเกินวัย จนได้รับการยืนขึ้นปรบมือให้จากแฟนบอลทั่วสนามเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกมาพักในช่วงท้ายเกม
หนึ่งในจังหวะได้ใจแฟนบอลเกิดขึ้นในนาทีที่ 48 เมื่อไบจ์เซติชล้มตัวลงไปช่วยแย่งบอลจาก อเล็กซ์ อิโวบี้ ก่อนที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะเริ่มเกมโต้กลับในทันที และส่งผลให้ โคดี้ กักโป ทำประตูแรกในสีเสื้อลิเวอร์พูลได้สำเร็จ
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผู้ทำประตูในแมตช์ดังกล่าวให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า “นับตั้งแต่เขาได้ออกสตาร์ทตัวจริง เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในทีมเราแล้ว”
ด้าน เยอร์เกน คล็อปป์ ก็ได้เอ่ยปากชมเจ้าหนูรายนี้หลังเกมด้วยเช่นกัน “เขาเล่นได้ค่อนข้างดีนะ ผมไม่คิดว่าเขาเคยเล่นในตำแหน่งนี้มาก่อน เขาเริ่มต้นอาชีพในฐานะเซ็นเตอร์แบ็ก จากนั้นเราก็ให้เขาลงเล่นในตำแหน่งเบอร์ 6 แต่ตอนนี้เขาได้ลงสนามในเบอร์ 8 ด้วยแล้ว”
ด้วยพัฒนาการที่ก้าวกระโดด ไบจ์เซติชได้เซ็นสัญญาระยะยาวออกไปอีก 4 ปีครึ่งเมื่อเดือนมกราคม 2023 และมีโอกาสได้เป็นหนึ่งในแกนหลักสำคัญสำหรับอนาคตของทีมที่อาจเข้าใกล้ฤดูพลัดใบ เพื่อเปลี่ยนถ่ายนักเตะซีเนียร์บางรายที่อาจพ้นช่วงพีกของตนเองไปแล้ว
ไบจ์เซติชได้กล่าวถึงฟอร์มจากเกมเอาชนะเอฟเวอร์ตันไว้ว่า “มันเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดเลย เราทุกคนรู้ว่ามันเป็นชัยชนะที่สำคัญสำหรับเรา และตอนนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเดินหน้าต่อไปและเก็บชัยชนะเกมต่าง ๆ มากขึ้น”
“เมื่อหนึ่งปีก่อนที่ผมเล่นในทีมระดับยู-18 และตอนนี้ผมได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ที่แอนฟิลด์ นั่นเกิดขึ้นในปีเดียว และมันบ้ามาก ผมสนุกกับหลาย ๆ อย่างที่นี่”
และจากการลองผิดลองถูกมาตั้งแต่ยุคของ จอร์แดน รอสซิสเตอร์, คาเมรอน แบรนนาแกน, ไทเลอร์ มอร์ตัน และ เลห์ตัน คลากสัน ลิเวอร์พูลอาจได้พบเพชรเม็ดงามในแดนกลางจริง ๆ กับดาวรุ่งชาวสแปนิชรายนี้แล้วก็ได้
แหล่งอ้างอิง:
โฆษณา