ในภาพรวมเป็นการเล่าถึงฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนา AI ประสานกับ AR ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
• Understanding information (Google Lens, Google Translate, Bard)
• Exploring the real world (Google Maps)
• Unlocking creativity (Google arts & culture)
จะว้าวแค่ไหน เราลองมาดูกัน
.
.
The age of visual search is here.
ดูจะเป็นประเด็นหลักในแถลงการณ์วันนี้ Raghavan กล่าวถึง ‘Google Lens’ ที่โดยปกติเราจะใช้รูปภาพหรือวิดีโอในการค้นหาข้อมูลที่คล้ายกัน แต่ตอนนี้เราสามารถใช้ Google Lens แปลความหมายของรูปภาพและข้อความ และสามารถนำรูปมาแสดงผลในรูปแบบ AR ได้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Multi-search ทำให้สามารถใช้รูปภาพกับการค้นหาข้อมูลในบริบทต่างๆ ได้พร้อมกัน เช่น รูปของหมวกที่คล้ายกันแต่มีสีที่แตกต่างกัน ไปจนถึง Muti-search near me ที่ช่วยให้ค้นหาร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงจากรูปภาพอาหารที่คล้ายกันได้ “If you can see it, you can search it”
.
Google Maps and AI+AR+Sustainability
ในส่วน Google Maps เอง ก็มาในเวอร์ชั่นที่สมจริงกว่าเดิม มีการนำ AR มาใช้งานร่วมกับ Google live view เพื่อเติมเต็มในส่วน Indoor live view ซึ่งเป็นการแสดงภาพภายในอาคาร มีการแสดงลูกศรบอกทางรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ โดยการใช้งาน Google maps ผ่านกล้อง Smartphone และยังพัฒนา EV map ที่ช่วยนำทางรถพลังงานไฟฟ้าสู่สถานีชาร์จได้สะดวกรวดเร็วและประหยัดพลังงานมากขึ้น
สำหรับหัวข้อสุดท้าย Google arts & culture มีไฮไลท์เป็นการปรากฏตัวของเหล่า 'Blob Opera' เป็นโปรเจ็คทดลอง Machine learning ของ David Li ร่วมกับ Google arts & culture เกี่ยวกับโครงข่ายประสาทเทียมเพื่อการสร้างเสียงโอเปร่า และกล่าวถึง AI ว่าจะช่วยให้คนเข้าถึงงานศิลปะในรูปแบบที่ดีขึ้น พร้อมสาธิตฟีเจอร์การแสดงผลงานศิลปะคลาสสิคผ่าน Arts & culture ในรูปแบบ 3D AR ที่มีความละเอียดสูงมากๆ ในระดับฝีแปรงเลยทีเดียว
Raghavan เปรยไว้ว่า “Search is still our biggest moonshot, the moon keeps moving.” เป็นการเน้นย้ำความสำคัญถึงแนวทางหลักของ Google
เขากล่าวถึง 3D generative AI, Visual search และ Generative language API อีกเล็กน้อย ก่อนประกาศว่า Google จะเปิดให้ developers, creators และ enterprises เข้ามาใช้งาน Generative AI API ในเดือนหน้า
อีกประเด็นที่ Raghavan ได้เน้นย้ำ คือ Google จะยังคงให้ความสำคัญในการสร้าง AI อย่างมีความรับผิดชอบต่อข้อมูล และมีประสิทธิภาพอันเป็นประโยชน์กับผู้คนอย่างแท้จริง
.
.
ในภาพรวม อีเวนท์ครั้งนี้มีความต่างจากของ Microsoft เมื่อวานพอสมควร ก่อนงานเริ่มผู้คนคาดหวังให้ Google เปิดหน้าสู้แบบเต็มตัวโดยการเข็น Bard ออกมาชน ChatGPT x New Bing แบบปอนด์ต่อปอนด์
แต่ Google เลือกที่จะสู้ในโซนที่ตัวเองได้เปรียบ คือการนำ Ecosystem ต่างๆ ที่ตนทำได้ดีอยู่แล้วอย่าง Google maps หรือ google translate มาเสริมพลังด้วยเทค AI ให้ใช้งานได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังไม่รีบเผยรายละเอียดไพ่เด็ดอย่าง Bard ที่ยังอยู่ในกระบวนการ ‘dogfooding’ หรือการทดสอบภายในให้เราได้เห็นมากนัก สงคราม AI เพิ่งจะจบยกแรกเท่านั้น
.
Raghavan กล่าวก่อนที่งานจะจบลงว่า “We Reinventing what it means to search and the best is yet to come, Merci” -