💰FINANCE - ปริศนาค่าเงินโลกจะไปทางไหนต่อ !?
⚠️“จุด Peak ของเงินดอลลาร์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และหลังจากนี้คือการอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ” นั่นคือมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์หลายคนทั่วโลกในขณะนี้ หลังจากดัชนีเงินดอลลาร์ (USD INDEX) พุ่งอย่างรวดเร็วแตะระดับเกือบ 115 หน่วยในช่วงปลายปี 2022 และอ่อนฮวบลงมาเกือบหลุด 100 หน่วยในต้นปี 2023
ปัจจุบันดัชนีเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาราว 105 หน่วยอีกครั้ง แต่หากมองตามหลักเศรษฐศาสตร์คลาสสิกที่เราใช้กันอยู่ในตำราแล้ว แทบจะไม่มีเหตุผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าต่อไปได้อีกแล้ว ตามมุมมองข้างต้นที่กล่าวมา
เหตุผลที่ Support การอ่อนค่าของดอลลาร์นั้นมีอยู่เยอะมาก โดยเฉพาะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าจีน-รัสเซียกำลังจะดันระบบสกุลเงินของตัวเองซึ่งเกี่ยวข้องกับทองคำ, Crypto, หยวน, รูเบิล ขึ้นมาเพื่อทุบอำนาจของเงินดอลลาร์ ซึงมีแนวโน้มจะทำให้ Demand เงินดอลลาร์ลดลงไปเรื่อย ๆ ในอนาคต และนั่นทำให้หลายคนมองว่าค่าเงินดอลลาร์จะเสื่อมลงในระยะยาว
นอกจากนี้ ทาง FED เองก็ดูเหมือนจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปได้อีกไม่มากนัก ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่ามันคือ “เหตุผลหลัก” ที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายที่เชียร์จีน-รัสเซีย กล่าวว่าสหรัฐฯ พิมพ์เงินออกมามากขนาดนี้ ดอลลาร์มันควรจะไร้ค่าไปตั้งนานแล้ว แต่ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะการเล่นแร่แปรธาตุปั่นค่าเงิน ??
Janet Yellen ขุนคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังลดลงแต่ดูเหมือนว่าหน่วยงานกำกับดูแลทั้งหลายโดยเฉพาะกระทรวงการคลังและ FED ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อขจัดเงินเฟ้อ นั่นหมายความว่าดอกเบี้ยของ FED อาจสูงขึ้นได้อีกสักระยะ ขณะที่สหรัฐฯ แตะเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ และยังมีการคุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี ? ซึ่งหลายคนมองเป็นความตึงเครียดต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์
กราฟดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดวันนี้ (ที่มา : Trading View)
📌ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์และสื่อหลายแห่งออกมาเผยว่าหุ้นกำลังกลายเป็นตลาดกระทิงแล้ว (แม้มีคนบางส่วนมองตรงข้ามว่าตลาดหมียังไม่สิ้นสุดลง) แต่ดูเหมือนว่าจะมีนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มีมุมมองแบบ Bullish ต่อหุ้นและสินทรัพย์โลก (พร้อมกับที่มองว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าลงเรื่อย ๆ)
แม้แต่ Mike Wilson จาก Morgan Stanley ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นคนที่มีมุมมองเชิงลบ (Bearish) ต่อตลาดมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง ก็ยังมองว่าตลาดหุ้นจะทำระดับ All Time High ใหม่ในปีนี้ ขณะที่สื่อระดับโลกอย่าง The Motley Fool ก็พาดหัวข่าวว่า “A Bull Market Is Coming” (แปลว่าตลาดกระทิงกำลังมา)
George Boubouras ผู้คร่ำหวอดในตลาดมา 30 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Hedge Fund K2 Asset Management กล่าวข้อความที่น่าสนใจเอาไว้ว่า
“จุดสูงสุดของเงินดอลลาร์อยู่ข้างหลังเราอย่างแน่นอน และเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในเชิงโครงสร้างรออยู่ข้างหน้า ใช่ อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ค่อนข้างตึงตัว ใช่ ตลาดอัตราดอกเบี้ยกำลังส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะสูงขึ้นอีกเป็นเวลานานกว่าที่คาด แต่นั่นไม่ได้ทำให้ข้อเท็จจริงที่ว่าเศรษฐกิจอื่น ๆ ในโลกกำลังไล่ตามสหรัฐฯ อยู่”
(The dollar’s peak is behind us for sure and a structurally weaker dollar lies ahead, Yes inflation in the US is stubborn, yes the rates market is signaling higher-for-longer US rates but that doesn’t take away the fact that other economies in the world are catching up with the US.)
⚠️การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์นั้นมีแนวโน้มจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก ? ตามเหตุผลที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ต้นทุนการนำเข้าสำหรับประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่ก็จะลดลง ซึ่งช่วยลดอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกได้ (จริงหรือ ?)
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังมีแนวโน้มจะทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกเช่น ทองตำ หุ้น และ Crypto ปรับตัวสูงขึ้น เพราะทั้งหมดซื้อขายเทียบกับเงินดอลลาร์ ดังนั้นทางที่ดีจึงเป็นการที่ดอลลาร์ต้องอ่อนค่าลงพร้อมกับดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพราะไม่อย่างนั้นหลายประเทศอาจลำบาก ?
ซึ่งตามเหตุผลข้างต้นนั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นจริงในระยะสั้นนี้ เพราะนักลงทุนเทเงินเข้าตลาดพันธบัตร หุ้น ทองคำ และคริปโตมากขึ้นในช่วงที่ดอลลาร์อ่อค่าและราคาสินทรัพย์เหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้น
และถ้าดอลลาร์ยิ่งเสื่อมค่าต่อจากนี้ โดยเฉพาะเมื่อจีน-รัสเซียดันระบบการเงินของตัวเองขึ้นมาทุบอำนาจสหรัฐฯ ทำให้นักเศรษฐศาสตร์มองว่าจะเป็นผลดีให้ราคาสินทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น
📌ทั้งหมดนี้เป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่เราร่ำเรียนกันมาตามตำรา ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหลายสกุลเงินทั่วโลกแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ดอลลาร์ร่วงจากเกือบ 115 หน่วย โดยเงินเยนญี่ปุ่นแข็งขึ้นถึง +12% แม้ว่า Bank of Japan จะยังคงทำ Yield Curve Control และดอกเบี้ยพันธบัตรต่ำกว่าสหรัฐฯ มากก็ตาม
สื่อระดับโลกอย่าง Bloomberg รายงานว่านักลงทุนหลายคนกำลังมองดอลลาร์จะเสื่อมค่าในอนาคต
นักลงทุนบางคนเชื่อมั่นมากกว่าเดิมว่า “การครองโลกของดอลลาร์เริ่มสิ้นสุดลงแล้ว” โดยมีการ Bet Against Dollar (Short เงินดอลลาร์เทียบกับสินทรัพย์อื่น) มากขึ้นเรื่อย ๆ
⚠️โดยเฉพาะตลาดทองคำที่มีการ Bullish ขึ้นอย่างมาก แม้แต่ธนาคารกลางทั่วโลกก็เข้าซื้อทองคำในพอร์ตสูงมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะมีข่าวว่าจีน-รัสเซียเตรียมดันทองคำขึ้นมาและผลักดันให้ดอลลาร์เสื่อมค่าไป
นอกจากนี้ ยังมีความน่าสนใจอีกว่าตลาด Crypto จะเป็นอีก 1 เหตุผลที่ทำลายอำนาจของเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะสาวก Bitcoin ที่มีการกล่าวว่าเหรียญตัวนี้จะแทนที่ระบบการเงินโลก ทั้งทองคำและดอลลาร์เลยทีเดียว
ดังนั้นหากดอกเบี้ย FED ถึงจุด Peak แล้ว มันก็จะยิ่งไม่มีเหตุผลใดตามหลักเศรษฐศาสตร์สนับสนุนอีกเลยว่าดอลลาร์จะแข็งค่าต่อไปได้ และนั่นอาจหมายถึงการเสื่อมค่าอย่างรวดเร็วของดอลลาร์ ?? ในขณะที่จีนก็เตรียมเปิดตัวดิจิทัลหยวนและขยายการใช้งานไปยังนานาชาติ
📌อย่างไรก็ตาม หากมองจากทฤษฎี Contrarian (หรือทฤษฎีผลประโยชน์เช่นเดียวกับคุณพิชัย จาวลา) เราอาจได้มุมมองคนละเรื่องกันเลยกับหลักเศรษฐศาสตร์ที่กล่าวมาทั้งหมด
เพราะหลัก Contrarian นั้นมีความเชื่อเพียงง่าย ๆ แค่ว่า “ระบบทุนนิยมส่วนใหญ่จะไม่ยอมให้คนรวยพร้อมกันอย่างแน่นอน” และแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะถูกตามเหตุผล แต่ถ้าทุกคนทำเหมือน ๆ กันหมด สิ่งที่เรียกว่า “มูลค่า” ก็จะไม่มีและเสื่อมไปทันที แม้ว่ามันจะถูกตามเหตุผลก็ตาม
นั่นหมายความว่ายิ่งคนไม่เชื่อในเงินดอลลาร์และเททิ้งไปมากแค่ไหน เงินดอลลาร์ก็จะยิ่งแข็งค่าอย่างโดดเด่นในอนาคต แต่สินทรัพย์ไหนที่มีเงินไปกองอยู่มาก มันจะพังถล่มลงมาแทนในอนาคต !
⚠️หลัก Contrarian นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหรือต้องอธิบายสาวความให้ยาว ๆ เพียงแค่เชื่อในการเป็นคนส่วนน้อย แต่มันเป็นหลักที่ปฏิบัติจริงได้ยากมาก และบางคนต่อให้ฟังแล้วก็ทำใจเชื่อไม่ได้ หรือไม่มีทางเข้าใจได้เลย เพราะแม้ว่าค่าเงินหรือราคาสินทรัพย์โลกจะเป็นไปตามหลัก Contrarian แต่เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปแล้ว ก็จะมีหลักเศรษฐศาสตร์ทั่วไปมาใช้อธิบายได้ตลอด
คงไม่มีใครสามารถการันตีให้คุณแบบ 100% ว่าในระยะสั้น กลาง หรือยาว ค่าเงินดอลลาร์หรือสินทรัพย์โลกจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางไหนต่อไปกันแน่ และสุดท้ายมันก็อยู่ที่ว่าคุณเชื่อในหลักอะไรกันแน่ ? เพราะนักลงทุนหรือคนทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการเป็นอิสระทางการเงิน แต่ต่างคนต่างก็มีความเชื่อแตกต่างกันไปในการลงทุนและบริหารสินทรัพย์
📌ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเชื่อในทฤษฎีไหน ก็ขอให้โชคดี แต่ที่สำคัญคืออย่าปรมาท และหมั่นบริหารความเสี่ยงของพอร์ตเอาไว้เสมอ เพราะไม่ว่าคุณจะเชื่อในทฤษฎีไหน แต่หากประมาทแล้ว ก็มักจะเกิดความเสียหายครั้งใหญ่ต่อพอร์ตของคุณได้เสมอ
#WorldMaker
References :
1. The World’s Most Painful Trade Is Finally Ending as Dollar Peaks
2. The Strong Dollar Is Wreaking Havoc Globally — And It’s Just Getting Started
3. Yellen says U.S. inflation coming down but core measures remain elevated
4. 'This is not the end of the world': One of Wall Street's biggest bears says stocks will sputter this year but soar to record highs in 2024
5. Here's why Wall Street's top analysts don't think the bear market is over
6. A Bull Market Is Coming. Here's How to Prepare in 2023.
🔥สามารถติดตามทุกข่าวสารและสาระสำคัญด้าน #การเงิน #การลงทุน และ #เศรษฐกิจโลก กับทีม World Maker ได้ผ่านช่องทางเลือก Blockdit, Line, Telegram และ Twitter : https://linktr.ee/worldmaker 👍😊
#เศรษฐกิจ #การเงิน #ลงทุน #หุ้น #ข่าวหุ้น #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวรอบโลก #เศรษฐกิจโลก #จีน #ข่าวหุ้น #หุ้นจีน #สหรัฐ #การเมือง #การเมืองโลก #หุ้นสหรัฐ #หุ้นเมกา #รัสเซีย #ยูเครน #ยุโรป #เทคโนโลยี
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
