สังคม “ไร้” เงินสด
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วเราคงมองภาพกันไม่ออกว่า จะสามารถใช้จ่ายกันโดยไม่ใช้เงินสดให้ต้องเมื่อยถือเหมือนในปัจจุบันนี้ได้อย่างไร
สมัยนั้นการจะเอาเงินออกมาใช้เงินแต่ละที จำเป็นต้องไปกดไปถอนออกมาจาก ATM (Automatic teller machine) ที่ว่าไปแล้วก็สะดวกกว่าการถือสมุดบัญชีเดินเข้าธนาคาร และหอบเงินเป็นฟ่อนไปไหนมาไหน
ตู้ ATM รวมถึงตู้ฝากเงิน ADM (Automatic cash deposit machine) ในขณะนั้นสามารถทำธุรกรรมได้หลายอย่างมากแล้ว ทั้งกดเงิน ฝากเงิน โอนเงิน เติมเงินโทรศัพท์ ฯลฯ
สักระยะจึงเริ่มมีการให้บริการของอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้งเข้ามา ถึงอย่างนั้นโดยภาพรวมเรายังคงใช้จ่ายกันในรูปของเงินสดเป็นหลัก
แต่การมาถึงของยุคใหม่ ยุคสมัยของแอปพลิเคชันและสมาร์ทโฟนเป็นก้าวสำคัญของสังคม “ไร้” เงินสดอย่างแท้จริง
แม้ ณ เวลานี้จะยังมีการใช้จ่ายเป็นเงินสดอยู่บ้างก็ตาม แต่เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนแล้วคงน้อยลงไปมาก
นอกจากการใช้จ่ายง่าย ๆ เพียง สแกน QR code จิ้ม ๆ ปุ๊บปั๊บ 2 – 3 ที เสร็จ ยังมีอีกหลายธุรกรรมที่เราสามารถทำได้โดยไม่ต้องไปที่ธนาคาร ประหยัดเวลา สะดวกสบาย ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน
ผมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมอุดมการณ์ที่ยกเลิกการใช้บัตร ATM เพราะค่าธรรมเนียมรายปี แถมพกใส่กระเป๋าไปสักพักบัตรก็มักจะแตกหัก หันมาใช้บริการของแอปพลิเคชันที่ให้ความสะดวก แถมหากว่าจำเป็นต้องใช้เงินสดจริง ๆ ก็สามารถกดออกมาได้เช่นกัน
โลกสดใสหัวใจชื่นบาน ชีวิตดีที่ลงตัว ไม่ต้องพกเงินสด นับเงินทอนให้เมื่อย แต่ผมมาเข้าถึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคม “ไร้” เงินสดเข้าซะจริง ๆ เมื่อไม่นานมานี้เอง
ตอนที่โทรศัพท์อันเป็นอวัยวะที่ 33 หล่นพื้นนะซิครับ… ไปกลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีิ หนีไม่พ้น ซ้ำดันมาหล่นตอนอยู่ต่างจังหวัดซะด้วย สมุดบัญชีก็โน้นครับอยู่บ้าน โลกมืดมิดชีวิตติดลบอย่างฉับพลัน
อห. (โอ้โห) ผมอุทานในใจ
โชคยังดีที่ไม่ได้ไปคนเดียว และเหตุเกิดในช่วงกลางวันไม่ใช่กลางคืน จึงพอจะมีทางให้ไปต่อ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้ามีเหตุด่วนต้องใช้เงินขึ้นมาจะทำอย่างไร
เอาเข้าจริงผมก็ไม่เคยคิดถึงมุมนี้มาก่อนเลย ทุกวันนี้ผมจึงต้องถือคติว่า ไปไหนมาไหนต้องพกบัญชีธนาคารไปด้วย อย่างน้อยสักหนึ่งบัญชีเพื่อความอุ่นใจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
