24 ก.พ. 2023 เวลา 14:51 • ความคิดเห็น

วิเคราะห์ ทำไมจีนพัฒนาเทคโนโลยี ได้ไวเท่าทันโลก และสรุปเหตุผลทำไมแบน ChatGPT

มีคนเคยถามผมว่า ทำไมจีนทำนู่นทำนี่ พัฒนาได้ไวมาก พออเมริกา ตะวันตก หรือโลกนี้กำลังมีเทรนด?เทคโนโลยีอะไร หลังจากนั้นไม่นานนัก จีนก็จะมีสิ่งนั้นเป็นของตนเอง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ ก็กรณีล่าสุด "บริษัทจีนพัฒนาระบบ AI ลักษณะเดียวกันกับ ChatGPT" ตัวอย่างเช่น Baidu, Alibaba, JD.com และ NetEase บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในจีน โดยหลายบริษัทในนี้ก็จะเริ่มเปิดตัวระบบของตนเองในเดือนมีนาคม 2566 นี้แล้ว
1
ต้องยอมรับครับว่า "ภาพลักษณ์ของจีนในสายตาของคนไทยและชาวต่างจำนวนไม่น้อยในสิบปีก่อนหน้านี้ คือ เทคโนโลยีอาจไม่พัฒนาก้าวหน้าเท่าอเมริกาและชาติตะวันตก หรือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นัก"
1
แล้วทำไมตอนนี้เราจึงได้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของจีนอย่างต่อเนื่อง?
หากเราดูตามแผนพัฒนาระดับชาติของจีน จะมีแผนพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาโดยตลอดครับ ทั้งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมโดยตรง และเอาไปรวมกับภาคส่วนอื่น
อย่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เมื่อการประชุมใหญ่ของจีนเมื่อตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา "สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เผยว่า จีนจะพัฒนาเทคโนโลยีโดยขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเป็นการพัฒนาที่แท้จริง ไม่ฉาบฉวย"
ถ้าดูงบประมาณที่จีนทุ่มเทลงมาในสายพัฒนาเทคโนโลยีของจีน ผมต้องบอกเลยว่า เยอะมากครับ
1
โดยจีนจะเน้นที่ "การพัฒนาตั้งแต่การวิจัย เพื่อให้ได้องค์ความรู้พื้นฐาน สำหรับต่อยอดเป็นเทคโนโลยีและผลผลิตที่ใช้งานได้ในระดับอุตสาหกรรมและธุรกิจจริงๆ"
3
โดยข้อมูลเมื่อเร็วๆนี้ ปี 2566 ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีน เราได้เห็นการจัดทำแผน 10 ปี สำหรับการทำวิจัยพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ โดยจะมีการให้ทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และร่วมมือกับองค์กรอื่นๆในภาคสังคมจีน โดยการสนับสุดก็จะเป็นไปในรูปแบบ "บนลงล่าง" คือจากส่วนกลาง ไปยังส่วนท้องถิ่นต่างๆ ตั้งแต่มณฑล เมืองไปยังส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง
โดยตัวเลขของงบประมาณการใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ของจีน ในปี 2565 ที่ผ่านมา ทะลุเกิน 3 ล้านล้านหยวน (3.09 ล้านหยวน) โดยเพิ่มจาก 1 ล้านล้านหยวน ในปี 2555 หรือ 10 ปีก่อนหน้า
ถ้าดูแค่งบประมาณสำหรับ "การวิจัยขั้นพื้นฐาน" ที่บ้านเราอาจบอกว่าเป็นการวิจัยขึ้นหิ้ง ก็มีการใช้งบไปถึง "1.95 แสนล้านหยวน" ในปี 2565 และตลอดระยะเวลา 10 ปี (ตั้งแต่ปี 2555) โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นปีละ 15% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การวิจัยขั้นพื้นฐาน หรือการวิจัยระดับทฤษฎี หาองค์ความรู้ต่างๆ ในจีน เท่าที่อ้ายจงสัมผัสมา ก็ถูกเอามาใช้ต่อนยอดจริงๆนะครับ อย่าง 5G ตามประสบการณ์ที่ผมเคยอยู่ในแลปด้านนี้ที่จีน
3
เมื่อเรามองในแง่ของ "การจ้างงาน" ในสายวิจัยและพัฒนาในจีน เราก็ได้เห็นตัวเลขที่น่าจะสนับสนุนสิ่งที่อ้ายจงกล่าวไปจ้างต้นว่า "จีนมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาจริงๆ" โดย ตัวเลขกำลังคน R&D ในจีน เกิน 6 ล้านคน ในปี 2565
2
"การพัฒนาของตนเอง และไม่ใช้ของต่างชาติ โดยเฉพาะอเมริกา (โดยส่วนใหญ่)" ถือเป็นอีกหนึ่งคีย์สำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีนวัตกรรมของจีนพัฒนาต่อเนื่อง เพราะมีการนำไปใช้จริง
2
ข้อนี้เราก็ได้เห็นมาตลอด ตั้งแต่จีนแบนการใช้งานโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Twitter,Instagram และบริการออนไลน์อื่นๆ เช่น Google และพัฒนาของตนเองเพื่อทดแทน
1
ซึ่งกรณี ChatGPT จีนก็สนับสนุนให้บริษัทและหน่วยงานจีนพัฒนาขึ้นมาเอง ไม่ใช้ "ChatGPT" โดยตรง เนื่องจากให้เหตุผลเรื่องข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากฝั่งที่ไม่หวังดีต่อจีน อาจเข้าสู่จีน และนำไปสู่ประเด็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ พูดง่ายๆก็เรื่องของความมั่นคงด้วยนั่นเองครับ
1
แม้จีนจะมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองเป็นหลัก เพื่อทดแทนแพลตฟอร์มต่างประเทศที่อาจใช้ไม่ได้ในจีน รวมทั้ง
Facebook LINE Twitter Instagram Google Gmail
แต่ไม่ต้องห่วงครับ หากใครไปจีน ทำงาน เรียน ใช้ชีวิตในจีน เรามีตัวช่วยจาก "BullVPN" บริการ VPN สัญชาติไทย ช่วยให้พวกเราใช้บริการโซเชียลมีเดียและบริการออนไลน์ต่างๆ ได้เหมือนอยู่ไทย และ เข้าถึงเว็บไซต์ได้ทั้งในและต่างประเทศ ใช้งานง่ายแค่คลิกเดียว
ทดลองใช้ BullVPN ได้ฟรีที่ www.bullvpn.com
อ้ายจงเล่าเรื่องจาก
ขอขอบคุณภาพจาก
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #จีน #เทคโนโลยี
โฆษณา