4 มี.ค. 2023 เวลา 12:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

'สตีฟ ไอส์แมน' ชี้หมดยุค หุ้นเทคฯ ถึงเวลา 'พลังงานสะอาด-โครงสร้างพื้นฐาน'

สตีฟ ไอส์แมน นักลงทุนชื่อดังจาก ‘The Big Short’ ฟันธงหมดยุคซื้อหุ้นเทคฯ ที่ปรับตัวขึ้นสูงแต่ไม่มีรายได้ รวมทั้งมีอัตรามัลติเพิลแตะ 200 เท่า ถึงเวลาปรับโฟกัสไปที่หุ้นพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐาน ย้ำแค่บอนด์รัฐบาลที่ไม่มีความเสี่ยงและให้ผลตอบแทน 4.8% ก็พอแล้ว
[ เรื่องโดย สาธิต สูติปัญญา ]
สตีฟ ไอส์แมน นักลงทุนชื่อดังจากภาพยนตร์ ‘The Big Short’ และ Neuberger Berman บริษัทให้บริการทางการเงิน สัญชาติอเมริกัน ระบุว่า คู่มือการซื้อขายหุ้นแบบเก่าที่มักแนะนำให้ลงทุนในหน้าหุ้นเทคโนโลยีที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว (Hyper Growth) แต่ไม่มีรายได้อาจใช้ไม่ได้ผลในยุคปัจจุบันแล้ว
“หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไปและคงไว้ในระดับสูง ผมมองว่าในอนาคตหุ้นเทคฯ อาจไม่สามารถเอาชนะตลาดได้ ซึ่งต่อๆ ไปนักลงทุนอาจหันไปให้ความสนใจหุ้นเกี่ยวกับพลังงานสะอาด การเปลี่ยนผ่านไปสู่กรีนเอนเนอร์จี รวมทั้งหน้าหุ้นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น”
“ทั้งนี้หากต้องการเข้าซื้อหุ้นเทคฯ ก็ควรคัดเลือกอย่างระมัดระวัง ไม่ควรกวาดซื้อหุ้นดังกล่าวแบบเหมาแข่ง”
ไอส์แมน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี หุ้นเทคฯ ที่น่าสนใจอาจยังพอมีเหลืออยู่ในตลาดบ้าง ทว่าแนวคิดเรื่องการลงทุนในบริษัทเทคฯ ที่ไม่มีรายได้ หรืออัตราส่วนมัลติเพิล (Multiples) แตะ 200 เท่าอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ไอส์แมนเป็นที่รู้จักจากการคาดการณ์วิกฤติฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐในช่วงกลางทศวรรษ 2000 จนท้ายที่สุดเรื่องราวดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านภาพยนตร์เรื่อง ‘The Big Short’ โดยครั้งนี้ไอส์แมนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งนักลงทุนจำนวนมากไม่ต้องการทำธุรกรรมทางการเงินใดที่มีความเสี่ยง
ไอส์แมน กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทของเขาหันไปให้ความสนใจกับการซื้อพันธบัตรมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธบัตรรัฐบาล
“แค่พันธบัตรรัฐบาลที่ไม่มีความเสี่ยงและให้ผลตอบแทนคงที่ 4.8% ก็เป็นสินทรัพย์ที่น่าเข้าซื้อแล้วในช่วงนี้ ผมมองว่าลูกค้ามีความต้องการที่แตกต่างกันดังนั้นไม่ต้องอายที่จะเอาเงินพวกเขาไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนแค่ 4.8%”
เมื่อถามว่าท่ามกลางสภาวะปัจจุบันที่มีความเป็นไปได้ที่ทั้งโลก รวมทั้งสหรัฐอาจเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย แล้วเหตุใดเขาไม่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแบบระยะยาว 10 ปี ซึ่งมีความปลอดภัยสูง ไอส์แมน ระบุว่า
“10 ปียาวเกินไป และที่สำคัญการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในระยะ 10 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ระหว่างนั้นเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา”
“เอาจริงๆ ในโลกการเงินปัจจุบัน 2 ปีก็ยาวนานจะแย่อยู่แล้ว นักวิเคราะห์บางคนเข้ามาแล้วก็ฟันธงว่าเกิด Recession แน่นอน สักพักมาก็มาบอกใหม่ว่าเริ่มไม่แน่ใจแล้ว เวลาผ่านไปนักวิเคราะห์อีกสำนักก็เข้ามาแล้วชี้ชัดว่าไม่เกิด Recession แน่นอน แล้วก็กลับมาบอกว่าเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ที่ผมต้องการจะสื่อคือ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างซับซ้อนและยากที่จะทำนายอนาคตภาพรวมเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะในระยะเวลาในหน่วยปี” ไอส์แมน ทิ้งท้าย
โฆษณา