3 มี.ค. 2023 เวลา 13:57 • นิยาย เรื่องสั้น

คุณยายสายแบ๊วและนางสาวแป๋วแหวว

jutama_story ขอเสนอ
คุณยายสายแบ๊วและนางสาวแป๋วแหวว
: นวนิยาย โดย ปิ่นกุสุมาลย์
บทที่ 1 พรหมลิขิต
เวลาประมาณ 6 โมงเช้าของวันจันทร์ ณ.บ้านไม้คอทเทจสีขาว (off white) ตกแต่งสไตล์มินิมอล ที่มองดูเรียบง่ายและอบอุ่น ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ มีเจ้าของเป็นหญิงวัยชรา ที่น่าจะปลูกสร้างมาไม่น้อยกว่า 20 ปี ถ้าดูตามอายุของเนื้อไม้ ทว่าเจ้าของคงจะดูแลเป็นอย่างดีเพราะไม่มีร่องรอยของความทรุดโทรมให้ได้เห็น ถัดออกไปด้านหลังใกล้ ๆ กันมีบ้านสไตล์เดียวกันอีก 1 หลังที่ปลูกไว้สำหรับแม่บ้านและคนสวนพักอาศัย
มองออกไปด้านหน้าไม่ไกลมากนัก มีบ้านพักหลังเล็ก ๆ สไตล์เดียวกัน อีก 5-6 หลัง พร้อมกับคาเฟ่หลังสีขาว (off white) ซึ่งแวดล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสีสัน ที่เพิ่งปลูกสร้างใหม่ได้ไม่นาน
“คุณย่าขา นุ่มลานะคะ สัปดาห์หน้านุ่มไม่ได้กลับมาเยี่ยมนะคะ นุ่มต้องไปทัศนศึกษาช่วงเสาร์-อาทิตย์ค่ะ คุณย่าอยู่คนเดียวไม่เหงานะคะ”
หญิงสาวอายุย่าง 22 ปีที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยชื่อดังในตัวจังหวัดบอกกับคุณย่าของเธอ
“ไม่เหงาจ้ะ ตั้งแต่หนูแป๋วกับพี่สาวเขาย้ายมาอยู่ข้าง ๆ บ้านเรา ย่าก็ไม่รู้สึกเหงาอีกเลย โฮมสเตย์ของเขามีแขกมาพักเต็มตลอด คนไปมาตลอด ทำให้ย่าหายเหงาไปด้วยเลยจ้ะ”
เมื่อต้นปีมีหญิงสาว 2 คนพี่น้องเจ้าของคาเฟ่และโฮมสเตย์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากที่นี่มากนักได้ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยและเปิดกิจการเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเธอจะขับรถไปกลับในตัวเมืองทุกวัน เพราะพวกเธอมาเช่าบ้านอยู่ในตัวเมืองระหว่างที่รอการก่อสร้างบ้านพัก
“ดีเลยค่ะ นุ่มจะได้หายห่วง ยิ่งคุณย่าผูกปิ่นโตกับเขา เขาก็ต้องมาส่งอาหารให้กับคุณย่าทุกเช้า แบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณย่ามีคนคอยดูแลประจำเพิ่มจากพี่ใจแล้วนะคะคุณย่า”
ระหว่างที่กำลังก่อสร้างบ้านพักหญิงสาว 2 คนพี่น้องได้มาทำความรู้จักกับคุณย่าของนุ่ม และคุณย่าของนุ่มก็ได้คอยช่วยเหลือได้คอยแนะนำและให้คำปรึกษาทั้งเรื่องของคนงานทั้งเรื่องความปลอดภัยทั้งเรื่องอันตรายต่าง ๆ เพราะคุณย่าของเธอเป็นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน  และคุณย่าของเธอยังยกใจที่เป็นแม่บ้านของท่านให้ไปคอยช่วยงานที่โฮมสเตย์ด้วย หญิงสาว 2 คนพี่น้องเลยขออาสาดูแลเรื่องอาหารในมื้อเช้าให้กับคุณย่าของเธอแทนใจแม่บ้านที่ตอนนี้ได้ไปช่วยงานที่โฮมสเตย์
“เดี๋ยวก่อนที่นุ่มจะออกไป นุ่มจะแวะไปทักทายและจะไปฝากให้เขาช่วยดูแลคุณย่าแทนนุ่มด้วย นุ่มสังเกตดู นุ่มว่า 2 พี่น้องเขาเป็นคนที่นิสัยดีมาก ๆ เลยนะคะคุณย่า นุ่มดูแล้วน่าจะไว้ใจได้ นุ่มไปก่อนนะคะคุณย่า”
“จ้ะ เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะหลานรักของย่า ย่ารักและเป็นห่วงหนูมากนะจ๊ะ
……………
เวลาประมาณ 8 โมงเช้า ณ.คาเฟ่สไตล์คอทเทจหลังสีขาว ( off white ) ที่ปลูกสร้างด้วยไม้และตกแต่งสไตล์มินิมอลที่ดูเรียบง่ายและคงไว้ซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อย ของหญิงสาวผู้ที่รักความเป็นอิสระและรักธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ
“น้องแป๋วจ๊ะ ปิ่นโตของคุณยายเสร็จเรียบร้อยแล้วจ้ะ”
“ค่ะพี่ปานเดี๋ยวแป๋วเอาไปส่งตอนนี้เลยค่ะ”
หญิงสาวเดินเข้ามาในบริเวณบ้านที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของผู้ที่อยู่อาศัย ลมเย็น ๆ พัดโชยกลิ่นหอมละมุนของดอกไม้มาแตะจมูกเธอ หญิงสาวหลับตาอ้าแขนรับลมเย็น รู้สึกถึงกลิ่นอายของฤดูหนาว
“คุณยายคะ แป๋วเอาอาหารมาส่งค่ะ”
“อ๋อจ้ะ นั่งคุยกันก่อนสิจ๊ะหนูแป๋ว”
“ค่ะคุณยาย”
“แป๋วต้องขอขอบพระคุณคุณยายมากเลยนะคะที่ไว้ใจผูกปิ่นโตกับร้านของแป๋ว แป๋วจะพยายามคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบที่ดีที่เหมาะกับวัยของคุณยายนะคะ แป๋วอยากให้คุณยายเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของแป๋วไปนาน ๆ ค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ อยู่กินอาหารด้วยกันก่อนสิจ๊ะ”
“ขอบพระคุณค่ะคุณยาย วันนี้แป๋วกินมาเรียบร้อยแล้วค่ะ เป็นพรุ่งนี้นะคะ เดี๋ยวแป๋วจะเตรียมอาหารส่วนของแป๋วมาด้วยค่ะ”
“ดีจ้ะ ยายรู้สึกเหงา ๆ อยากมีเพื่อนคุย”
คุณยายอ่อนอาศัยอยู่กับใจที่เป็นแม่บ้านและมนูญที่เป็นคนงานเก่าแก่ตั้งแต่สมัยคุณพ่อของเธอ โดยมนูญมีหน้าที่ดูแลสวนผลไม้ที่มีเนื้อที่จำนวนทั้งหมด 20 ไร่ ซึ่งสามีของเธอที่ตอนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วเป็นคนปลูกเอาไว้ ในเนื้อที่ 20 ไร่มีผลไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ขนุน กระท้อน ชมพู่มะเหมี่ยว ละมุด ลำใย ฯลฯ
"แป๋วขอตัวกลับก่อนนะคะคุณยาย" หลังจากมื้ออาหารปวริศาได้อยู่เป็นเพื่อนพูดคุยกับคุณยายอ่อนสักพักใหญ่ ๆ ก็ขอตัวกลับโฮมสเตย์
……………
"นี่ค่ะคุณแป๋วปิ่นโตกับโถข้าว"
นอมคนงานที่ช่วยงานอยู่ในโรงครัวเดินหิ้วปิ่นโตกับโถข้าวมาวางลงบนโต๊ะให้กับปวริศาที่เพิ่งกลับมาจากในแปลงผัก
ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ปวริศาจะรับหน้าที่ส่งปิ่นโตให้กับคุณยายอ่อนในตอนเช้าเวลาประมาณ 8 โมงครึ่ง
“สวัสดีค่ะคุณยาย” ปวริศาพร้อมกับโถข้าวและปิ่นโตเถาใหญ่เดินเข้ามาในบริเวณตัวบ้านสวัสดีทักทายคุณยายอ่อนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหน้าบ้าน
“เช้านี้คุณยายเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“สบายดีจ้ะ”
"วันนี้พี่ปานทำบัวลอยน้ำขิงฝากมาให้คุณยายลองชิมด้วยนะคะ"
"เหรอจ๊ะหนูแป๋ว ยายฝากขอบใจหนูปานด้วยนะจ๊ะ"
"มาค่ะคุณยายทานอาหารเช้ากันค่ะ"
จัดอาหารเสร็จแล้วปวริศาก็เดินมาประคองคุณยายอ่อนไปนั่งที่โต๊ะอาหารเพื่อกินอาหารมื้อเช้า วันนี้อาหารบนโต๊ะมีแกงจืดเต้าหู้ไข่ใส่วุ้นเส้น ไข่ตุ่นทรงเครื่อง ผัดผักรวมใส่กุ้งสด และชุดน้ำพริกกะปิที่มีปลาทูทอด ถั่วฝักยาวและมะเขือยาวชุบแป้งทอด
"ทานเยอะ ๆ นะคะคุณยาย อาหารทุกอย่างพี่ปานทำด้วยตัวเองทั้งหมดเลยนะคะ"
"จ้ะหนูแป๋ว หนูปานเขาทำอาหารรสชาติถูกปากยายมากเลยจ้ะ ยายฝากขอบใจหนูปานเขาด้วยนะจ๊ะ"
"ค่ะคุณยาย นี่บัวลอยน้ำขิงค่ะคุณยาย เหมาะกับอากาศเย็น ๆ แบบนี้นะคะ"
ปวริศายกถ้วยบัวลอยน้ำขิงวางให้กับคุณยายอ่อนเมื่อเห็นคุณยายอ่อนรวบช้อนอาหาร
"ขอบใจจ้ะหนูแป๋ว"
หลังจากที่กินอาหารมื้อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปวริศาก็ประคองคุณยายอ่อนออกมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านเหมือนเดิม
"คุณยายนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวแป๋วขอไปจัดเก็บโต๊ะอาหารก่อนนะคะ"
"จ้ะหนูแป๋ว"
ปวริศาประคองคุณยายอ่อนมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านแล้วเธอก็เดินกลับเข้าไปจัดเก็บโต๊ะอาหาร
"นั่งคุยกันก่อนซิจ๊ะหนูแป๋ว"
คุณยายอ่อนบอกกับปวริศาเมื่อเธอเดินหิ้วปิ่นโตกับโถข้าวออกมาจากในบ้าน
"ค่ะคุณยาย"
ปวริศาวางปิ่นโตกับโถข้าวลงบนโต๊ะแล้วขยับเก้าอี้เพื่อที่จะนั่ง
"ช่วงนี้ที่โฮมสเตย์งานยุ่งมากหรือเปล่าจ๊ะ"
"ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ค่ะคุณยาย จะวุ่น ๆ หน่อยก็จะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์และวันหยุดยาวค่ะ เพราะจะมีลูกค้าจากข้างนอกมาใช้บริการที่คาเฟ่มากเป็นพิเศษ"
"ดีแล้วจ้ะ ขาดเหลืออะไรก็บอกยายนะ เผื่อมีอะไรที่ยายพอจะช่วยได้"
"ค่ะคุณยาย"
คุณยายอ่อนถามไถ่ปวริศาด้วยความเป็นห่วงเป็นปกติทุกวัน
“หลายเดือนมานี้แป๋วสังเกตเห็นว่าคุณยายเดินไปตรงเนินฝั่งโน้นอยู่บ่อย ๆ คุณยายไปทำอะไรเหรอคะ
แป๋วต้องขอโทษคุณยายนะคะหากแป๋วละลาบละล้วง แป๋วแค่สงสัยว่าคุณยายเดินไปทำไม”
ปวริศาสังเกตเห็นว่าคุณยายอ่อนจะเดินไปกลับตรงเนินชายเขาอยู่เป็นประจำจึงเกิดความสงสัยและรู้สึกห่วงใย
“อ๋อ ยายเดินไปคุยกับคุณตาจ้ะ ทุก ๆ เช้ายายจะเดินไปคุยกับคุณตา ร่างคุณตาฝังอยู่ตรงนั้นจ้ะ ห้าปีแล้วที่ยายเดินไปตรงนั้นทุกเช้า”
“อ๋อ ค่ะคุณยาย ถ้าหากแป๋วอยากจะไปทำความรู้จักกับคุณตาด้วยจะได้ไหมคะ”
“ได้สิจ๊ะ” คุณยายอ่อนตอบรับคำของปวริศาด้วยน้ำเสียงที่ยินดี
“แป๋วมาอยู่ที่นี่ ได้มาเจอกับคุณยาย แป๋วรู้สึกอบอุ่น รู้สึกเหมือนกับอยู่ที่บ้านของแป๋ว อยู่กับคุณยายของแป๋ว ถึงจะไม่กี่เดือนแต่แป๋วก็รู้สึกผูกพันกับคุณยายมาก ๆ เลยค่ะ ต่อไปแป๋วจะมาเดินเป็นเพื่อนคุณยายนะคะ ทุก ๆ เช้าเราจะเดินไปที่บ้านของคุณตาด้วยกันนะคะคุณยาย”
“จ้ะ ขอบใจหนูแป๋วมากนะที่น่ารักกับยาย ขอบใจมากที่อยู่คุยเป็นเพื่อนยาย ยายก็รักและเอ็นดูหนูมากนะจ๊ะ”
ปวริศาเข้าใจถึงความรู้สึกของคุณยายอ่อนที่มีต่อบุคคลอันเป็นที่รัก เพราะเธอก็มีความรู้สึกแบบนี้ต่อพ่อกับแม่และคุณยายของเธอ เธอรู้ว่าการที่ต้องพรากจากกันกับบุคคลอันเป็นที่รักโดยที่ไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกันอีกเลยเป็นอย่างไร
"วันนี้แป๋วขอตัวกลับไปช่วยพี่ปานที่ร้านก่อนนะคะคุณยาย"
หลังจากมื้ออาหารปวริศาได้อยู่เป็นเพื่อนพูดคุยกับคุณยายอ่อนสักพักใหญ่ ๆ เธอก็ขอตัวกลับโฮมสเตย์ เพราะต้องการให้คุณยายอ่อนได้พักผ่อนตามปกติของทุกวัน
"กลับมาแล้วเหรอจ้ะน้องแป๋ว" ปานวาดที่นั่งอยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ส่งเสียงถามน้องสาว เมื่อเห็นปวริศาเดินเข้ามาในคาเฟ่
"ค่ะพี่ปาน"
"วันนี้ทำไมกลับมาช้าล่ะจ๊ะ" ปานวาดเกิดความสงสัยเพราะปกติน้องสาวจะกลับมาเร็วกว่านี้ประมาณเกือบจะเป็น 1 ชั่วโมง
"พอดีวันนี้คุณยายชวนคุยเรื่องกิจการของโฮมสเตย์และเรื่องราวในอดีตของท่านค่ะพี่ปาน"
"งั้นเหรอจ๊ะ แล้วคุณยายท่านเป็นไงบ้าง สบายดีไหม"
"สบายดีค่ะพี่ปาน"
"อากาศเย็นลงเรื่อย ๆ แล้วนะจ๊ะ ออกไปข้างนอกน้องแป๋วก็ต้องใส่เสื้อผ้าหนา ๆ นะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะ พวกเรายังไม่ชินกับอากาศช่วงนี้มากสักเท่าไหร่"
"ค่ะพี่ปาน"
ปานวาดเตือนน้องสาวเพราะรู้ว่าปวริศาสุขภาพร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงมากสักเท่าไหร่
"เดี๋ยวแป๋วจะเข้าไปในแปลงผักนะคะพี่ปาน"
"จ้ะน้องแป๋ว"
ปานวาดกับปวริศามีอายุห่างกัน 5 ปี ปานวาดดูแลปวริศามาตั้งแต่ปวริศายังตัวเล็ก ๆ เลยทำให้ 2 พี่น้องรักใคร่ปรองดองกันเป็นอย่างดี พ่อแม่ของพวกเธอเสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มเมื่อหลายปีก่อน ครั้งที่ไปดูงานทางภาคใต้ 2 พี่น้องเลยต้องใช้ชีวิตอยู่กับคุณยายจนกระทั่งคุณยายมาจากไปอีกคน
จึงทำให้ปานวาดกับปวริศาสัญญากันว่าจะไม่แยกจากกันไปอยู่ที่ไหนที่ห่างไกลกัน หลังจากที่ปวริศาเรียนจบพวกเธอเลยตัดสินใจย้ายมาทำธุรกิจที่นี่ ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของคุณยายที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่คุณยายปลูกเอาไว้ในเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่เศษ
ปกติตอนเช้าของทุกวันปวริศาจะตื่นมาช่วยพี่สาวเปิดครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าสำหรับแขกที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์ เสร็จแล้วเธอก็จะเดินเข้าไปในแปลงผักเพื่อดูคนงานจนได้เวลาที่จะต้องไปส่งปิ่นโตให้กับคุณยายอ่อนเธอจึงจะออกจากแปลงผักกลับมาที่คาเฟ่เพื่อรับปิ่นโตที่ปานวาดเตรียมไว้ให้เป็นปกติทุกวัน
และหลังกลับมาจากบ้านของคุณยายอ่อนเธอก็จะเข้าไปในแปลงผักอีกรอบและจะกลับมาที่คาเฟ่อีกทีในช่วงเที่ยงเพื่อกินอาหารมื้อเที่ยง เสร็จแล้วในช่วงบ่ายหลังจากที่แขกเช็คเอาท์เธอก็จะไปช่วยใจที่เป็นแม่บ้านจัดเก็บและตรวจตราความเรียบร้อยของบ้านพัก
……………
“สวัสดีค่ะคุณยาย แป๋วมาแล้วค่ะ"
วันนี้ปวริศามาถึงบ้านคุณยายอ่อนเร็วกว่าปกติเช่นทุกวันเพราะมีนัดกับคุณยายอ่อนว่าจะเดินไปที่บ้านของคุณตากันก่อนที่จะกินอาหารมื้อเช้า
"เราไปกันเลยไหมคะ วันนี้รู้สึกว่าอากาศจะหนาวมากขึ้นนะคะคุณยาย"
“จ้ะหนูแป๋ว ยายเตรียมผ้าคลุมไว้ให้หนูด้วยนะ นี่จ้ะ”
คุณยายอ่อนยื่นผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ให้กับปวริศา แล้วเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ
"ขอบพระคุณค่ะคุณยาย" ปวริศารับผ้าแล้วนำมาคลุมไหล่เสร็จแล้วก็ประคองคุณยายอ่อนและชวนกันเดินไปที่เนินชายเขา
"ดอกไม้สวยและหอมมากเลยนะคะคุณยาย"
วันนี้คุณยายอ่อนตื่นลุกขึ้นมาตัดและจัดแต่งดอกไม้ที่สามีของเธอชอบเป็นช่อใหญ่สวยงามตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อนำไปวางที่หน้าหลุมศพของบุคคลอันเป็นที่รักของเธอ
“คุณยายคะ คุณตากับคุณยายมาอยู่ที่นี่นานแล้วยังคะ”
ระหว่างทางเดินไปที่บ้านของคุณตาปวริศาได้ชวนคุณยายอ่อนพูดคุยไปด้วยตลอดทาง
“อ๋อ ยายมาอยู่ได้ 20 ปีแล้วจ้ะ หลังจากที่คุณตาเกษียณราชการจากกรมป่าไม้จ้ะ
เมื่อก่อนตอนที่ยายย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ที่นี่น่ากลัวมากเลยนะจ๊ะ ตอนนั้นมีบ้านพักไม่กี่หลัง แต่ละหลังก็อยู่ห่าง ๆ กัน ไม่ค่อยมีผู้คนไปมาหาสู่กันหรอก เพราะการเดินทางมันยากลำบาก"
ปวริศาฟังคุณยายอ่อนเล่าถึงเรื่องราวของพื้นที่แถวนี้ในอดีตเมื่อ 20 ปีก่อนอย่างสนใจใคร่รู้
"ตอนนั้นต้นไม้ใหญ่คงจะมีเยอะมากนะคะคุณยาย เพราะแป๋วเห็นต้นไม้ในที่ดินของแป๋วมีแต่ต้นใหญ่ ๆ ทั้งนั้น"
"ใช่จ้ะหนูแป๋ว บ้านของยายก็สร้างจากต้นไม้ในที่ดินแปลงนี้นี่แหละจ้ะ"
“คุณยายแต่งงานอยู่กินกับคุณตากี่ปีคะ ก่อนที่คุณตาจะเสีย”
“30 ปีจ้ะ ยายแต่งงานกับคุณตาตอนอายุ 45 คุณตาเสียตอนอายุ 75 ถ้าหากคุณตายังมีชีวิตอยู่ก็อายุ 80 ปีเท่ากันกับยายนี่แหละจ้ะ”
“ทำไมคุณยายถึงแต่งงานช้าคะ” ปวริศาเกิดความสงสัย
“อ๋อ ยายแต่งงานกับคุณตาเป็นครั้งที่สองจ้ะ ยายเป็นหม้าย แต่คุณตาเป็นหนุ่มโสดจ้ะ คุณตาบอกกับยายว่าไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับใครเลย จนได้มาเจอกับยาย
คุณตาบอกว่าเขาแอบหลงรักลูก ๆ ของยายเลยขอยายแต่งงาน คุณตาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ๆ เลยนะจ๊ะหนูแป๋ว”
ปวริศาสังเกตเห็นแววตาของคุณยายอ่อนเวลาพูดถึงคุณตาแล้วรู้สึกสัมผัสได้ถึงความรัก
“แล้วตอนนี้ลูก ๆ ของคุณยายอยู่ที่ไหนกันคะ”
“ลูกยายอยู่ในตัวเมืองจ้ะ พวกเขาทำธุรกิจอยู่ที่นั่น”
“แล้วทำไมคุณยายไม่ไปอยู่ในตัวเมืองด้วยกันกับลูก ๆ ละคะ”
“ไม่เอาหรอกจ้ะ ยายไม่อยากรบกวนพวกเขา และยายก็ไม่ชอบบรรยากาศในตัวเมืองด้วย แล้วยายก็เป็นห่วงบ้านและเป็นห่วงคุณตาด้วย ยายรักและผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก ยายตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่จะตายและฝังร่างที่นี่”
“โอ้ว คุณยายไม่เบื่อที่จะเล่าให้แป๋วฟังใช่ไหมคะ”
“ไม่เบื่อหรอกจ้ะ” คุณยายอ่อนยิ้มอย่างเอ็นดูในความช่างซักของปวริศา
ระหว่างทางเดิน คุณยายอ่อนจะเล่าถึงเรื่องราวชีวิตคู่ของเธอให้ปวริศาฟังตลอดจนทำให้ปวริศาเคลิ้มฝันแอบจินตนาการไปถึงชีวิตคู่ของตัวเองในอนาคต
……………
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะน้องแป๋ว” ปานวาดที่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ส่งเสียงถามน้องสาว เมื่อเห็นปวริศาหิ้วโถข้าวและเถาปิ่นโตเดินเข้ามาในคาเฟ่
“กลับมาแล้วค่ะพี่ปาน”
“เดี๋ยวตอน 4 โมงเย็นจะมีแขกที่เป็นคณะนักศึกษาปริญญาโทที่เขามาดูงานที่ศูนย์วิจัยใกล้ ๆ กับโฮมสเตย์ของเราเข้ามาพักจำนวน 20 คนนะจ๊ะ น้องแป๋วอย่าลืมบอกให้พี่ใจมาอยู่ช่วยดูแลความเรียบร้อยด้วยนะ คณะนักศึกษาเขาจองเอาไว้ 5 หลังรวมทั้งหมด 3 คืนนะจ๊ะ ดีนะที่บ้านพักของเรามี 2 ห้องนอนรับรองได้ครบคนพอดี”
“ค่ะพี่ปาน เดี๋ยวแป๋วจะไปบอกกับพี่ใจและช่วยพี่ใจเขาจัดเก็บความเรียบร้อยในห้องพักด้วยเลยค่ะ” ปวริศาวางปิ่นโตกับโถข้าวลงบนโต๊ะแล้วเดินออกจากคาเฟ่ตรงไปที่บ้านพัก
"เป็นไงบ้างคะพี่ใจ ข้าวของเครื่องใช้สำหรับใช้ในห้องพักมีอะไรขาดเหลือบ้าง" ปวริศาถามใจที่ตอนนี้กำลังจัดเก็บเครื่องใช้สำหรับใช้ในห้องพักเข้าตู้ที่อยู่ในโรงเก็บของ
"ไม่ขาดเหลืออะไรค่ะคุณแป๋ว ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยหมดค่ะ" ใจตอบกลับปวริศาพร้อมกับเดินไปที่โซนซักล้างเพื่อเอาผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า
"เดี๋ยววันนี้ตอน 4 โมงเย็นจะมีแขกเข้ามาพักจำนวน 20 คนนะคะพี่ใจ หลังจากที่แขกเช็คเอาท์หมดแล้วเดี๋ยวแป๋วจะมาช่วยพี่ใจจัดเก็บห้องพักนะคะ"
"ค่ะคุณแป๋ว เดี๋ยวพี่จะซักรีดผ้าพวกนี้ไปพลางก่อนค่ะ"
"ค่ะพี่ใจ งั้นแป๋วขอเข้าไปดูในแปลงผักก่อนนะคะ"
หลังจากที่พูดคุยนัดแนะกับใจแม่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วปวริศาก็เดินเข้าไปในแปลงผักที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก
“เป็นไงบ้างคะคุณลุง พรุ่งนี้ผักที่เราจะเก็บในช่วงเช้ามีเยอะไหม”
“เยอะอยู่ครับคุณแป๋ว พืชผักของเราสมบูรณ์มากเลยครับ ลุงว่าบางทีเราต้องแบ่งเอาไปขายด้วยนะครับ”
“เหรอคะ ลองดูค่ะ ถ้าใช้ในครัวของเราไม่หมดก็เอามาวางขายในร้านได้ เดี๋ยวแป๋วจะจัดเตรียมพื้นที่สำหรับวางขาย พรุ่งนี้เรามาลองวางขายกันดูนะคะ”
“ครับคุณแป๋ว เดี๋ยวลุงจะจัดแยกให้เรียบร้อยครับ” คุณลุงสุขคนงานประจำที่ทำหน้าที่ดูแลแปลงผักออร์แกนิกรับคำของปวริศาแล้วตั้งหน้าตั้งตาเอาต้นกล้าของพริกชี้ฟ้าลงปลูกในแปลงที่ได้ขุดหลุมเตรียมดินไว้เรียบร้อยแล้ว
……………
“เป็นไงบ้างหลับสบายไหมคุณปริญ” ภานุถามปริญที่เพิ่งจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ
“สบายครับ” ปริญตอบกลับเพื่อนร่วมห้องนอนที่ตอนนี้เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปดูงานที่ศูนย์วิจัยฯ
“แล้วคุณล่ะเป็นไงบ้าง”
“ผมก็หลับสบายเหมือนกัน บรรยากาศแถวนี้น่าอยู่มากเลยนะผมว่า ผมชักจะชอบที่นี่เข้าแล้วล่ะ”
“ไป..เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า จะได้เดินชมธรรมชาติยามเช้าของที่นี่ด้วย ผมอยากสูดอากาศเก็บไว้ให้เต็มปอดก่อนกลับ” ปริญชวนภานุแล้วเดินนำออกมาจากห้องพัก
"ดีครับร่างกายของผมก็เริ่มที่จะฟ้องว่าต้องการกาแฟหอม ๆ แล้วครับ" ภานุบอกกับปริญพร้อมกดล็อกประตูห้องพัก
ชายหนุ่มสองคนชวนกันเดินตรงไปที่คาเฟ่เพื่อกินอาหารมื้อเช้าก่อนที่จะเดินทางไปกับคณะเพื่อดูงานที่ศูนย์วิจัยฯ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากที่นี่มากนัก
“สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะจัดอาหารเช้ามาเสริฟให้นะคะ กาแฟอยู่ตรงด้านโน้นนะคะบริการตัวเองตามสบายเลยค่ะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ปานวาดทำหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารมื้อเช้าของแขกด้วยตัวเองเป็นประจำทุกเช้า อาหารมื้อเช้าสำหรับแขกที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์จะจัดเป็นชุด ๆ เมนูจะหมุนเวียนกันไปตามวัตถุดิบที่มีในพื้นถิ่นเป็นส่วนใหญ่
“แขกไปกันหมดแล้วเหรอคะพี่ปาน”
“จ้ะ เพิ่งไปตะกี้นี่เอง มา..น้องแป๋วมาช่วยพี่ดูรายการอาหารหน่อย เดี๋ยวพี่จะไปตลาดเพื่อเตรียมวัตถุดิบของวันพรุ่งนี้”
“ค่ะพี่ปาน”
“ผักในแปลงของเราสวย ๆ ทั้งนั้นเลยนะจ๊ะน้องแป๋ว ลูกค้าที่แวะเวียนมากินอาหารซื้อกลับกันไปจนหมดเลยจ้ะวันนี้”
“เหรอคะพี่ปาน เดี๋ยวพรุ่งนี้แป๋วจะได้บอกให้คนงานจัดการแพ็คมาวางขายอีก”
“คุณยายเป็นไงบ้างจ๊ะน้องแป๋วเช้านี้” ปานวาดถามน้องสาวเพราะอากาศช่วงนี้เย็นลงเร็วมาก
“สบายดีค่ะ คุณยายแข็งแรงมาก สุขภาพจิตของคุณยายก็ดีมาก ได้คุยด้วยบ่อย ๆ แล้วทำให้แป๋วรู้สึกมีความสุขไปด้วยเลยค่ะพี่ปาน”
“ดีแล้วจ้ะ ให้คิดว่าคุณยายเป็นคุณยายแท้ ๆ ของเราก็แล้วกัน จะได้รู้สึกอบอุ่นใจ” ปานวาดสอนน้องสาว
“น้องแป๋วอย่าลืมเตือนพี่ใจให้ใส่ใจเรื่องความสะอาดของบ้านพักนะ เดี๋ยวเสร็จเรื่องนี้พี่จะไปตลาดแล้ว”
“ได้ค่ะพี่ปาน”
หลังจากที่ใจแม่บ้านทำความสะอาดบ้านพักเสร็จแล้วปวริศาก็จะเข้าไปตรวจตราดูความเรียบร้อย แล้วจึงจะกลับมานั่งดูรายการบัญชีรายรับรายจ่ายของคาเฟ่และรอรับลูกค้าที่แวะเวียนมานั่งกินอาหาร กาแฟ ขนม และเค้กฝีมือของปานวาดเป็นปกติทุกวัน
……………
“สวัสดีค่ะคุณยาย แป๋วมาแล้วค่ะ” ปวริศาพร้อมกับโถข้าวและปิ่นโตเถาใหญ่ส่งเสียงเรียกคุณยายอ่อนอยู่ที่หน้าบ้าน
“เข้ามาในบ้านก่อนสิจ๊ะหนูแป๋ว เมื่อคืนอากาศเย็นมาก ยายรู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวกินอาหารด้วยกันก่อนนะ วันนี้ยายว่ายายจะเดินไปที่บ้านคุณตาตอนสาย ๆ หน่อย เดี๋ยวหนูแป๋วอยู่กินอาหารกับยายแล้วก็กลับไปดูร้านได้เลยนะ ยายว่าจะกินยาแล้วนอนพักก่อน”
“ได้ค่ะคุณยาย”
ระหว่างที่จัดเตรียมอาหารปวริศาสังเกตเห็นว่าข้าวของเครื่องใช้ของคุณยายอ่อนจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ชุดข้าราชการของผู้ชายสวมอยู่ในหุ่น รองเท้า เข็มขัด อยู่ในตู้กระจก บนโต๊ะทำงาน เอกสารต่าง ๆ จัดเรียงเหมือนมีการใช้งานอยู่เป็นประจำทุกวัน ปวริศารู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่มีต่อผู้เป็นเจ้าของ
"มาค่ะคุณยายทานอาหารมื้อเช้ากันค่ะ" เมื่อจัดอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปวริศาก็เดินมาประคองคุณยายอ่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรดไปที่โต๊ะอาหาร "ทานเยอะ ๆ นะคะคุณยาย"
"จ้ะหนูแป๋ว"
"คุณยายทานน้ำขิงอุ่น ๆ สักหน่อยนะคะ" ปวริศาบอกกับคุณยายอ่อนพร้อมกับยกถ้วยน้ำขิงวางให้หลังจากที่เห็นคุณยายอ่อนรวบช้อนอาหาร
“แป๋วกลับก่อนนะคะคุณยาย คุณยายจะได้นอนพักผ่อน”
“จ้ะหนูแป๋ว”
หลังจากมื้ออาหารปวริศาก็ประคองคุณยายอ่อนกลับมานั่งที่เก้าอี้โยกตัวโปรดและขอตัวกลับโฮมสเตย์
“อ้าว น้องแป๋วทำไมกลับมาเร็วล่ะจ๊ะ”
“พอดีวันนี้คุณยายรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะพี่ปาน เลยไม่ได้เดินไปที่บ้านของคุณตา”
“ถ้าอย่างนั้นน้องแป๋วมาช่วยพี่จัดเตรียมอาหารไว้ให้แขกหน่อยนะ”
“ค่ะพี่ปาน”
“นั่นปวริศานี่” ปริญเอ่ยขึ้น แล้วเดินเข้ามาทักทาย “ปวริศาใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“จำผมได้ไหม”
“จำได้ค่ะ”
ปริญเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย เคยร่วมทำกิจกรรมของคณะด้วยกันกับปวริศา
“คุณมากับคณะเหรอคะ”
“ใช่ครับ” พวกเรามาทัศนศึกษากัน บ้านคุณอยู่ที่นี่เหรอครับ”
“เราเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไม่ถึงปีค่ะ หลังจากที่เรียนจบ”
“ดีจังเลยครับที่นี่อากาศดีมาก”
“ค่ะ ใช่ค่ะ”
“เชิญนั่งก่อนนะคะเดี๋ยวดิฉันจะนำอาหารเช้าไปเสริฟให้”
“ครับ..ยินดีที่ได้เจอกันอีกนะครับ”
“ยินดีเช่นกันค่ะ”
ด้วยต้องต้อนรับแขกทีเดียวพร้อมกันหลายคน ปวริศาจึงไม่มีเวลาที่จะอยู่คุยกับปริญมากนัก
หลังจากที่คณะทัศนศึกษาได้เช็คเอาท์และพากันเดินทางกลับไปแล้ว ปวริศากับปานวาดก็ชวนกันตรวจตราความเรียบร้อยภายในคาเฟ่และบริเวณรอบนอก เพื่อรอต้อนรับแขกที่จองบ้านพักเอาไว้ และลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาชมแปลงดอกไม้ ชมแปลงผักและกินอาหารที่คาเฟ่
👉🏻 ตามกันต่อในบทที่ 2 นะคะ
***ฝากทุกท่านช่วยพิสูจน์อักษรให้ไปด้วยเลยนะคะ คำไหนผิดช่วยกดสติ๊กเกอร์ไว้ให้ได้สังเกตจักขอบพระคุณมากเลยค่ะ🙏🏻❤️
โฆษณา