ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ของแบรนด์ที่นำเอา “ความมีส่วนร่วม” ไปใช้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Emotional Marketing คือ Apple
เพราะนับตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน Apple เป็นแบรนด์ที่จับกลุ่มผู้ใช้งาน ที่ทำงานด้านการสร้างสรรค์เป็นหลัก เช่น คนทำงานออกแบบกราฟิก คนทำงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ โดยที่มีคอมพิวเตอร์ Mac ของ Apple เป็นเครื่องมือในการทำงาน
ทำให้ในปัจจุบันนี้ คนที่ทำงานด้านการสร้างสรรค์ และการออกแบบ ต่างเลือกใช้คอมพิวเตอร์ Mac ของ Apple จนแทบจะเรียกได้ว่า Apple เป็นผู้รวมกลุ่มคนเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็นสังคมผู้ใช้งานของ Apple ขนาดย่อม ๆ ก็ว่าได้
หรือในยุคที่ iPhone ได้รับความนิยม Apple ก็สร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของผู้ใช้งาน iPhone รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Apple ขึ้นมา โดยผู้ที่อยู่ในระบบนิเวศของ Apple ก็จะสามารถใช้ฟีเชอร์ต่าง ๆ ได้มากกว่า เป็นเหมือนการสร้างความมีส่วนร่วม และการได้รับการยอมรับของผู้ใช้งาน
ในอีกทางหนึ่ง ถ้อยคำเหล่านี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภค รู้สึกถึงความ “หายาก” ของสินค้า ทำให้ผู้บริโภคไม่อยากพลาดของดี ๆ หรือที่เรารู้จักในชื่อว่า Fear of Missing Out (FOMO)