11 มี.ค. 2023 เวลา 00:02 • หนังสือ

เลิกหวังให้คนอื่นเข้าใจ ในสิ่งที่เราก็ยังไม่เข้าใจมันดีได้แล้ว

เวลาระบายปัญหาชีวิตให้ใครฟัง แล้วไม่ได้รับการตอบสนองที่ดีนี่เหมือนตกหลุมดำที่ไม่มีอยู่จริงเลย เรารู้ตัวนะว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก แต่ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เรากำลังเห็นเลยสักคน ราวกับเรื่องที่เราเจอมันไม่มีอยู่จริง
ยิ่งคนอื่นตอบสนองต่อเราไม่ดีเท่าไร เช่น เบะปาก แล้วบอกว่า “ใคร ๆ ก็เจอปะ?” ก็ยิ่งทำให้เราถูกดูดลึกลงไปเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็ไม่อยากระบายปัญหาอะไรกับใครแล้ว
ผมเองก็กำลังตกหลุมดำที่ไม่มีอยู่จริงนี้เช่นกัน แต่ในส่วนที่ลึกที่สุด ผมก็พบว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่อยู่ในสถานการณ์เลวร้าย อย่างน้อยก็มีคุณ กิตติศักดิ์ คงคา ผู้เขียนหนังสือ “อยากตายแต่ตายไม่ได้” รออยู่ก่อนแล้ว
ผู้เขียนเล่าให้ฟังว่า ครั้งนึงเขาเคยตกลงรับงานสำคัญงานนึงไว้ แต่พอใกล้ถึงวันจริงเขากลับมีปัญหาบางอย่างทำให้สภาพจิตใจไม่พร้อม จนไม่สามารถรับมืองานนั้นได้ โดยให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมหัวใจสลาย”
แน่นอนว่าผู้ว่าจ้างก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่สำหรับผู้เขียนแล้ว “หัวใจสลายคือภาวะสูงสุดของความเจ็บปวดแล้ว” หากใครเคยหัวใจสลาย ไม่ว่าจะจากการเลิกรา สูญเสียคนรัก โดนหักหลัง หรือแม้แต่จมอยู่ในความเหงา ก็จะเข้าใจว่ามันสาหัสมากทีเดียว
ผู้เขียนบอกว่าหลายครั้งเขาก็อยากให้ปัญหาสุขภาพจิต มีแผลที่สังเกตเห็นได้ชัดเหมือนอาการบาดเจ็บทางกายบ้าง เวลาติดไวรัสจนเป็นหวัด พักไม่นานก็หายแถมขอลางานง่ายด้วย แต่โรคซึมเศร้าที่คิดถึงความตายตลอดเวลา ลุกจากเตียงก็ยาก การอยู่ท่ามกลางผู้คนก็รู้สึกราวกับโศกนาฎกรรม กลับยากที่จะสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจ
ประสบการณ์ที่ผมเคยเจอเวลาบอกว่าผมไม่มีแรงลุกจากเตียง มักจะถูกหลายคนทำเหมือนเป็นเรื่องตลกว่า “เห้ย แค่ขี้เกียจป่าว ใครก็เป็น” ซึ่งไม่ตลกเลยครับ หากใครเคยเป็นก็จะทราบว่าแม้อาการจะเหมือนกับขี้เกียจ แต่มันไม่ใช่ความขี้เกียจแน่ ๆ
แม้ผู้ว่าจ้างของผู้เขียนจะไม่เข้าใจ แต่ผู้เขียนก็ลางานได้สำเร็จ โดยแลกมากับการสูญเสียมิตรภาพ และการว่าจ้างทั้งหมดหลังจากนั้นไป
ซึ่งผู้เขียนเข้าใจดี แล้วก็ได้แต่ภาวนาให้โรคซึมเศร้ามีบาดแผลให้เห็นชัด… แต่คิดอีกทีก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคนที่รู้สึกก็จะรู้สึกอยู่แล้วโดยไม่ต้องทำให้แผลมันชัดขึ้น แต่ตรงข้าม ต่อให้กรีดข้อมือจนเลือดไหลหมดตัว คนจะไม่เข้าใจ ยังไงเขาก็จะไม่เข้าใจอยู่ดี
ต้องบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเพื่อนที่มาอยู่เคียงข้างเราในวันเลวร้ายจริง ๆ ครับ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมต่อยอดออกมาเป็นข้อคิดด้วยว่า “เลิกหวังให้คนอื่นเข้าใจ ในสิ่งที่เราก็ยังไม่เข้าใจมันดีได้แล้ว”
ผมเชื่อว่าเราทุกคนมีปัญหาในแบบของตัวเอง ที่ไม่มีทางเหมือนคนอื่นเป๊ะ 100% ครับ แม้จะมีคนเคยเจอปัญหาใกล้เคียงกับเรามาก่อน แต่มันย่อมมีบางอย่างที่ต่างกับเราเสมอ
ดังนั้นเวลาเราอธิบายอะไรให้ใครฟัง จึงไม่แปลกที่จะมีคนไม่เข้าใจเรา เพราะเขาคิดว่าปัญหาที่เราเจอก็เหมือนกับที่เขาเคยเจอนั่นแหล่ะ เขาก็เลยเอาวิธีที่เคยใช้มาโยนใส่เราแล้วบอกว่า “นี่ไงวิธีแก้” แต่เราผู้กำลังเผชิญกับปัญหาอยู่ก็รู้ดีว่า “มันทำไม่ได้”
บางทีลึก ๆ แล้วเราก็ไม่แน่ใจหรอกว่าสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างปัญหาของเรากับเขามันคืออะไร มันอาจเป็นนิสัย การเลี้ยงดู ฐานะ ความรู้ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกว่า “เขาไม่เข้าใจเราเลย”
แต่ถ้าเรามัวแต่หาวิธีอธิบายว่าจะทำให้เขาเข้าใจได้อย่างไร บทสนทนามันอาจพาเราไปสู่ปลายทางที่ไม่สวยงามนักก็ได้
สุดท้ายนี้ผมไม่ได้บอกให้เลิกฟังคำแนะนำของคนอื่น หรือเลิกระบายกับคนอื่นไปเลยนะครับ เรายังคุยได้ ฟังได้ แต่ถ้าถึงจุดนึงที่อีกฝ่ายตอบสนองออกมาชัดเจนแล้วว่าไม่เข้าใจเราเลย ก็ไม่จำเป็นต้องตะแบงอธิบายเสมอไปครับ
ชื่อหนังสือ: อยากตายแต่ตายไม่ได้
ชื่อสำนักพิมพ์: 13357 Publishing
#igotthisfromthatbook #ฉันได้สิ่งนี้จากหนังสือเล่มนั้น
โฆษณา