ประวัติศาสตร์ดำมืดเบื้องหลัง “วันวาเลนไทน์”
“วันวาเลนไทน์” เป็นวันที่เฉลิมฉลองกันทั่วโลก ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี
วันวาเลนไทน์นั้นเปรียบเสมือนวันแห่งความรัก มีการแลกของขวัญ การ์ด ดอกไม้ และช็อกโกแลต
หากแต่ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์ จะพบว่าเบื้องหลังประวัติศาสตร์ของวันวาเลนไทน์ อาจจะไม่ได้โรแมนติคอย่างที่หลายคนคิด
จุดเริ่มต้นของวันวาเลนไทน์ สามารถย้อนหลังไปได้ถึงสมัยโรมันโบราณ โดยในยุคนั้น มีเทศกาลของเหล่าชนนอกรีต ชื่อเทศกาลว่า “ลูเปอร์คาเลีย (Lupercalia)” และจะมีการฉลองตั้งแต่วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์
ในเทศกาลนี้ บุรุษจะทำการจับสลากชื่อของสตรีมาจากกล่องสุ่ม และหากจับได้ใคร ชายหญิงคู่นั้นก็จะเป็นคู่กันตลอดระยะเวลาของเทศกาลนี้
ต่อมาในปีค.ศ.496 (พ.ศ.1039) คริสตจักรได้ทำการแบนลูเปอร์คาเลีย และในเวลาต่อมา “สมเด็จพระสันตะปาปาเกลาเซียสที่ 1 (Pope Gelasius I)” ได้ทรงแต่งตั้งให้ “เซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine)” เป็นนักบุญ และให้นำการฉลองเซนต์วาเลนไทน์มาแทนที่ลูเปอร์คาเลีย
เซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine)
ดังนั้นวันวาเลนไทน์ในยุคสมัยใหม่ก็มีที่มาจากนักบุญผู้นี้ นั่นก็คือเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยศตวรรษที่สาม
สำหรับเรื่องราวชีวิตของเซนต์วาเลนไทน์ ก็มีเรื่องเล่าที่แตกต่างกันออกไป หากแต่เรื่องเล่าที่แพร่หลายที่สุด นั่นก็คือเซนต์วาเลนไทน์เป็นนักบวชชาวโรมัน ผู้ที่ขัดขืนรับสั่งของ “จักรพรรดิคลอเดียสที่ 2 (Claudius II)”
จักรพรรดิคลอเดียสที่ 2 (Claudius II)
ตามประวัติศาสตร์นั้น จักรพรรดิคลอเดียสที่ 2 ทรงมีรับสั่งห้ามชายหนุ่มที่อายุยังน้อยเข้าพิธีแต่งงาน เนื่องจากพระองค์ทรงเชื่อว่าผู้ขายที่แต่งงานแล้วจะไม่เหมาะในการเป็นทหาร ไร้ความสามารถ
แต่เซนต์วาเลนไทน์ไม่เห็นด้วยกับองค์จักรพรรดิ และยังคงทำพิธีแต่งงานให้ชายหนุ่มอย่างลับๆ หากแต่ก็ถูกจับได้ในเวลาต่อมา และมีโทษประหาร
ขณะที่ถูกคุมขัง เซนต์วาเลนไทน์ได้มีปฏิสัมพันธ์ โต้ตอบทางจดหมายกับลูกสาวของผู้คุม โดยในวันที่ถูกประหารนั้น เซนต์วาเลนไทน์ได้ลงชื่อในจดหมายที่ส่งถึงลูกสาวของผู้คุมว่า
“จากวาเลนไทน์ของเจ้า (From your Valentine)”
จากนั้น เซนต์วาเลนไทน์ก็ถูกซ้อมจนเสียชีวิตก่อนนำไปตัดหัว
เชื่อกันว่าวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหาร ก็คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.270 (พ.ศ.813)
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
