13 มี.ค. 2023 เวลา 00:02 • หนังสือ

จงดูแลตัวเองเพราะรักตัวเอง ไม่ใช่ดูแลเพื่อให้คนอื่นมารัก

ทุก ๆ เช้าก่อนออกจากบ้าน ผมจะส่องกระจกดูตัวเองว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเองชอบนะครับ แต่เพื่อให้คนอื่นเห็นแล้วดูดีมากกว่า เหมือนผมกำลังมองตัวเองผ่านสายตาของคนอื่นอยู่
ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าวันไหนมีใครทักว่าผมดูผิดปกติไป ผมจะเสียความมั่นใจไปตลอดทั้งวันจนไม่มีสมาธิกับงานเลย
การใส่ใจภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองเราเป็นเรื่องดีนะครับ แต่ถ้ามันมากเกินไปจนกระทบกับชีวิตประจำวันก็คงทุกข์ใจไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องของ “รูปร่าง” ที่ไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงกันง่าย ๆ ในวันสองวัน
ในหนังสือ “I ate it again” เขียนโดย คิมยุนอา เล่าให้ฟังว่าจากการให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมการกินมานาน เธอเจอคนที่เข้ามาปรึกษาเรื่องไดเอตกันมากมาย แต่ก่อนจะเริ่มให้คำแนะนำเรื่องการปรับพฤติกรรม เธอมักจะถามก่อนเลยว่า “ทำไมถึงอยากไดเอต”
หลายคนมักตอบว่า “เพราะฉันพอใจที่จะทำ คนรอบข้างไม่ได้มีผลอะไรกับฉันหรอก แค่คิดว่าถ้าผอมกว่านี้ก็คงดีค่ะ” เวลาเจอคำตอบแบบนี้ คิมยุนอามักจะแหย่กลับไปว่า “ถ้างั้นลองจินตนาการว่าตัวเองอยู่คนเดียวบนเกาะร้าง คุณจะยังอยากไดเอตอยู่ไหม”
พอเจอคำถามกระตุ้นให้คิดแบบนี้หลายคนจะชั่งใจก่อนตอบ หรือหากตอบมาทันทีก็จะตอบแบบสีหน้าครุ่นคิดเหมือนสับสนตัวเองอยู่ ผู้เขียนบอกว่าจริง ๆ แล้วมันแสดงให้เห็นว่าลึก ๆ เราต้องการการยอมรับจากสังคมนั่นเอง เราเลยอยากดูดีในสายตาของคนอื่นซึ่งไม่ได้ผิดเลยครับ
แต่สำหรับคนที่หมกหมุ่นกับการไดเอต “มากเกินไป” จนกระทบกับชีวิตประจำวัน เช่น ไม่กล้ากินของทอดเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่กล้าไปร้านอาหารกับเพื่อน หรือนั่งนับแคลลอรี่ให้คนรอบตัวฟังทั้งวัน ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรให้ได้รับการยอมรับเลย หรือไม่รู้วิธีอื่นที่จะทำให้ได้รับการยอมรับ ก็เลยคิดว่า “งั้นทำตัวให้หุ่นดีแล้วกัน” ซึ่งมันอาจนำไปสู่การลดน้ำหนักมากเกินไป ปัญหาสุขภาพกาย และสุขภาพจิตได้
มิหนำซ้ำคุณจะรู้สึกเหมือนมันเป็นหน้าที่ที่ต้องพยายามอยู่คนเดียว และเวลาเราพยายามอะไรอยู่ฝ่ายเดียวมันเหนื่อยมากนะครับ
ผู้เขียนเลยแนะนำว่า อย่างแรกต้องค้นหาก่อนว่าเราจะไดเอตไปเพื่ออะไร ถ้าจะไดเอตเพราะอยากได้รับการยอมรับหรือความรักจากคนรอบตัว ก็ลองใช้วิธีอื่นเพื่อให้ได้มันมาก็ได้ เช่น แสดงความรู้สึกต่อคนรอบข้างออกไปตรง ๆ เลย ไม่ว่ารูปร่างเราจะเป็นอย่างไรก็ขอให้รักเราในแบบที่เราเป็น
ผมเข้าใจว่ามันคงไม่ง่ายที่จะทำ (หรือยอมรับ) แต่ผมเชื่อว่ามันจะทำให้ความวิตกกังวลต่อรูปร่างหน้าตาของเราเบาลงได้ครับ
ข้อคิดที่ผมได้จากบทดังกล่าวก็คือ “จงดูแลตัวเองเพราะรักตัวเอง ไม่ใช่ดูแลเพื่อให้คนอื่นมารัก” การดูแลตัวเองมีหลายแบบ ทั้งเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต เช่น การเลือกกินอาหารให้ดี ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำงานอดิเรก ทำในสิ่งที่ชอบ เติมเต็มชีวิตได้ด้วยตัวเอง ส่วนการมีหุ่นดี สุขภาพจิตดี หน้าตาผ่องใส ให้มันเป็นผลพลอยได้ก็พอ
ถามว่าการมีคนอื่นรักเรามันดีไหม มันดีแน่นอน ผมเองก็อยากให้มีคนรักเยอะ ๆ แต่ถ้าผมจะต้องดูแลตัวเองเพื่อเรียกร้องให้คนอื่นมารัก ชีวิตผมจะไม่มีความสุขเลย เพราะทุกคนแตกต่างกันแล้วก็ต้องมีคนที่ไม่ชอบในสิ่งที่เราเป็นอยู่แล้ว
ดังนั้น จงรักตัวเองให้มาก ๆ ดูแลตัวเองให้ดี เพราะถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าใครรักเราบ้าง แต่อย่างน้อยยังมีตัวเราแล้วคนนึงที่รักตัวเอง เมื่อคิดได้แบบนี้ถึงแม้จะเผลอกินเค้ก ไอศกรีม หรือของมัน ๆ อ้วน ๆ บ้างบางครั้ง ก็จะไม่กังวลมากไปครับ
ชื่อหนังสือ: I ate it again #iateitagain
ชื่อสำนักพิมพ์: Bloom Publishing #Bloom
#igotthisfromthatbook #ฉันได้สิ่งนี้จากหนังสือเล่มนั้น #นานมีบุ๊คส์ #nanmeebooks
โฆษณา