Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
jutama_story
•
ติดตาม
7 มี.ค. 2023 เวลา 08:26 • นิยาย เรื่องสั้น
คุณยายสายแบ๊วและนางสาวแป๋วแหวว
jutama_story ขอเสนอ
คุณยายสายแบ๊วและนางสาวแป๋วแหวว
: นวนิยาย โดย ปิ่นกุสุมาลย์
บทที่ 6 ความอ่อนแอ
“ยัยปุณณ์พี่กลับมาแล้ว ดูสิพี่มีอะไรมาฝาก อ้าว แล้วแม่ล่ะยัยปุณณ์”
“แม่เอาผักไปให้บ้านข้าง ๆ เรานี่แหละค่ะ”
วันนี้แม่ของปริญเก็บผักได้เยอะมาก เลยเอาไปแจกเพื่อนบ้านข้างเคียง
“พี่ปริญไปโฮมสเตย์ของพี่ปานวาดมาเหรอคะ”
ปุณณ์เห็นโลโก้ของถุงใส่ขนมก็รู้ว่ามาจากโฮมสเตย์ของปานวาด
“ใช่จ้ะ ที่โฮมสเตย์เขามีปัญหานิดหน่อย พี่เลยไปดูเผื่อว่าจะมีอะไรที่พอจะช่วยเหลือกันได้ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรเเล้วจ้ะ”
“เหรอคะ ปุณณ์อยากจะไปเที่ยวที่นั่นอีกค่ะพี่ปริญ”
“เดี๋ยวพี่ค่อยพาไปนะ ช่วงนี้เป็นฤดูฝน พี่ว่าจะไม่สะดวกกับปุณณ์ ไปแล้วอาจจะไม่สนุกเพราะเป็นช่วงที่ฝนกำลังตกชุก คงออกไปดูอะไรไกล ๆ ไม่ได้”
“ค่ะพี่ปริญ ปุณณ์ได้กินขนมฝีมือพี่ปานวาดก็เหมือนได้ไปที่โฮมสเตย์ของเขาแล้วค่ะ แล้วพี่ปวริศาล่ะคะเป็นไงบ้าง”
ปุณณ์ถามพี่ชาย เพราะปุณณ์รู้ว่าปริญรู้สึกอย่างไรกับปวริศา
“คุณปวริศากำลังวุ่นวายอยู่กับแปลงผักของเขาอยู่จ้ะ ช่วงนี้ฝนตกหนักทำให้พืชผักในแปลงเสียหายบ้างบางส่วน”
“อะไรของใครเสียหายเหรอจ๊ะ แม่ได้ยินแว่ว ๆ”
แม่ของปริญเดินเข้ามาได้ยินสองพี่น้องคุยกันเลยส่งเสียงถามมาแต่ไกล
“แม่มาดูนี่ซี พี่ปริญไปโฮมสเตย์ของพี่ปานวาดมา และพี่ปานวาดเขาก็ฝากขนมมาให้เราด้วย”
ปุณณ์พูดกับแม่ด้วยความดีใจ
“ลูกไปหาหนูปวริศามาเหรอจ๊ะ”
แม่ของปริญถามเพราะรู้ว่าลูกชายของเธอรู้สึกอย่างไรกับปวริศา
“ครับแม่ ที่โฮมสเตย์ของเขามีปัญหานิดหน่อยครับ ฝนตกหนักทำให้น้ำหลากจนถนนเส้นที่จะไปโฮมสเตย์ขาดครับ ผมเลยไปดูว่ามีปัญหาอะไรที่พอจะช่วยได้บ้างครับ”
“แล้วเป็นไงจ๊ะ ได้ช่วยอะไรเขาไหม”
“ไม่ได้ช่วยครับแม่ คุณปวิริศาเขาจัดการของเขาเองได้เรียบร้อยแล้วครับ”
“อย่างนั้นเหรอจ๊ะ แม่เห็นหนูปวริศาตั้งแต่วันแรกแม่ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่ฉลาดรอบคอบสามารถที่จะดูแลตัวเองและเป็นที่พึ่งให้กับคนอื่น ๆ ได้ แล้วแม่ก็สนับสนุนนะจ๊ะ หากลูกชายคนเดียวของแม่จะหาสะใภ้แบบหนูปวริศามาให้กับแม่"
“สวัสดีค่ะคุณยาย แป๋วมาแล้วค่ะ” ปวริศาพร้อมกับโถข้าวและปิ่นโตเถาใหญ่เดินมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะหน้าบ้าน
“เข้ามาในบ้านก่อนสิจ๊ะหนูแป๋ว ฝนตกปรอย ๆ ทั้งวันทั้งคืนเลย” ปวริศาได้ยินคุณยายอ่อนบ่นพึมพำ
“เป็นไงบ้างที่โฮมสเตย์ แขกกลับกันหมดแล้วเหรอจ๊ะหนูแป๋ว”
“กลับหมดแล้วค่ะคุณยาย เจ้าหน้าที่เขาซ่อมสะพานเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ปวริศาจัดอาหารพร้อมกับตอบคำถามของคุณยายอ่อนไปด้วย
"มาค่ะคุณยายทานอาหารกัน" ปวริศาเดินเข้าไปประคองคุณยายอ่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรดมาที่โต๊ะอาหารหลังจากที่เธอจัดอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“หนูแป๋วเบื่อที่จะหิ้วปิ่นโตมาให้ยายแล้วยังจ๊ะ นี่ก็ปีกว่าแล้วนะ”
“ไม่เบื่อหรอกค่ะคุณยาย แป๋วขอรับหน้าที่นี้ไปตลอดจนกว่าคุณยายจะสั่งให้แป๋วหยุดค่ะ”
“ยายไม่สั่งให้หนูแป๋วหยุดหรอกจ้ะ นอกเสียจากว่ายายจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนกับคุณตา”
“ขอบพระคุณค่ะคุณยาย แป๋วยังไม่ยอมให้คุณยายจากไปไหนหรอกค่ะ คุณยายต้องอยู่กับแป๋วกับลูก ๆ หลาน ๆ ของคุณยาย ไปอีกนาน ๆ นะคะ
นี่ค่ะคุณยาย วันนี้พี่ปานทำแกงเลียงผักรวมใส่กุ้งสด น้ำพริกกะปิ ผักลวก ปลาทูทอด ไข่ต้ม และบัวลอยน้ำขิงมาให้คุณยายค่ะ บัวลอยน้ำขิงจะไม่ค่อยหวานนะคะ พี่ปานบอกว่าไม่อยากให้คุณยายทานรสหวานเยอะค่ะ”
“ยายฝากขอบใจหนูปานด้วยนะจ๊ะหนูแป๋ว”
“ได้ค่ะคุณยาย”
หลังจากมื้ออาหารคุณยายอ่อนชวนปวริศาออกมานั่งคุยที่โต๊ะหน้าบ้าน
“ช่วงนี้ฝนตกชุกยายเลยไม่อยากที่จะเดินไปที่บ้านของคุณตา ยายกลัวว่าหากทางเดินเปียกแฉะอยู่อย่างนี้ เดี๋ยวจะพาลให้หกล้มหัวคะมำทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เดือดร้อนคนอื่น ๆ เขาไปอีก”
“ค่ะคุณยาย”
“หนูแป๋วจ๊ะ หากวันหนึ่งที่ยายต้องไปอยู่เป็นเพื่อนกับคุณตาตลอดไป หนูแป๋วอย่าลืมเดินไปเยี่ยมยายกับคุณตาบ้างนะจ๊ะ ยายรู้สึกมีความผูกพันกับหนูแป๋วมากเลยนะ หากต้องจากกันจริง ๆ อย่าลืมเดินไปเยี่ยมยายบ่อย ๆ นะจ๊ะ”
“คุณยายยังแข็งแรงอยู่เลยค่ะ ยังอยู่กับแป๋วกับลูก ๆ หลาน ๆ ของคุณยายไปได้อีกนานเลยค่ะ คุณยายอย่ากังวลไปนะคะ”
ปวริศาเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคุณยายอ่อนเพราะพักหลัง ๆ มานี้คุณยายอ่อนจะพูดถึงการจากการพรากอยู่บ่อย ๆ
“หากวันนึงที่หนูแป๋วมีคนที่หนูแป๋วรัก หนูแป๋วต้องดูแลคนรักของหนูแป๋วให้ดี ๆ นะจ๊ะ การที่เราได้อยู่กับคนที่เรารักและเราต่างทำแต่สิ่งที่ดี ๆ ให้แก่กัน มันจะทำให้เราลืมวันลืมเวลาไปเลยนะจ๊ะหนูแป๋ว”
“ค่ะคุณยาย”
“ยายมาอยู่ที่นี่กับคุณตาตอนที่คุณตาเกษียณรวมแล้ว 15 ปีเต็ม แต่ยายรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมาก กลับกันกับตอนนี้ที่คุณตาจากไปได้ 6 ปีกว่า แต่ยายกลับรู้สึกว่าเวลาในแต่ละวันมันผ่านไปช้ามาก
เมื่อตอนที่คุณตายังอยู่ ทุก ๆ วันเขาจะตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเดินดูต้นไม้ ดูพืชผักที่เขาปลูก คุณตาชอบที่จะปลูกพืชผักกินเอง หนูแป๋วรู้ไหมจ๊ะ 15 ปีเต็มที่ยายไม่เคยซื้อพืชผักข้างนอกกินเลย
หนูแป๋วดูซีที่ดินจำนวนเนื้อที่ 20 ไร่ที่มีแต่ต้นไม้มีแต่ผลหมากรากไม้ คุณตาเขาขยันปลูกจนลูกผลเต็มไปหมด ใครมาใครไปก็ให้เขาได้ติดไม้ติดมือกลับไปตลอด
อยู่กัน 2 คนตายายเวลาในแต่ละวันผ่านไปไวมาก เดี๋ยวเช้าเดี๋ยวค่ำจนทำให้ลืมโลกภายนอกไปเลยจ้ะหนูแป๋ว
ปี ๆ นึงยายจะเข้าไปในตัวเมืองแค่ไม่กี่ครั้ง เพราะเราไม่ได้ขาดเหลืออะไร ใช้ชีวิตในแต่ละวันอยู่กันอย่างสบาย สุขภาพใจสุขภาพกายก็แข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยอะไร
ตอนที่คุณตาเขาเสียเขาก็นอนหลับไปเฉย ๆ ไม่ได้มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรนะจ๊ะหนูแป๋ว ยายก็ขอให้เป็นเหมือนกันกับคุณตา ขอให้นอนหลับไปเฉย ๆ จะได้ไม่เป็นภาระให้ใครต้องมาคอยดูแลปรนนิบัติยาย”
“คุณยายยังแข็งแรง ยังอยู่คุยกับแป๋วไปได้อีกนานค่ะ คุณยายอย่ากังวลไปเลยนะคะ แป๋วกับพี่ปานก็ไม่ได้มีญาติที่ไหน หากคุณยายเจ็บไข้ได้ป่วยแป๋วกับพี่ปานก็จะช่วยกันดูแลคุณยายด้วยค่ะ”
วันนี้หลังมื้ออาหารฝนตกหนักมาก ทำให้ปวริศากลับโฮมสเตย์ไม่ได้ เลยมีเวลาคุยกับคุณยายอ่อนนานกว่าปกติ
“ฝนเริ่มซาแล้วนะจ๊ะหนูแป๋ว ยายว่าหนูแป๋วกลับก่อนดีกว่าจ้ะ เดี๋ยวเผื่อว่าฝนจะตกหนักขึ้นมาอีก”
“ค่ะคุณยาย คุณยายพักผ่อนนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้แป๋วมาใหม่ค่ะ”
หลังจากบอกลาคุณยายอ่อนปวริศาในชุดคลุมกันฝนก็เดินกลับโฮมสเตย์ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปราย
“สินค้าแปรรูปของเราขายดีมากเลยนะจ๊ะน้องแป๋ว ไม่ว่าจะเป็นพืชผักหรือผลไม้ นี่วันนี้พี่ก็ให้จอมขับรถเข้าไปส่งให้ร้านค้าในตัวเมือง ลูกค้าเจ้าประจำของเราเขาสั่งเพิ่มจำนวนสินค้าทุกอย่างเลยจ้ะ”
“เหรอคะพี่ปาน ดีเลยค่ะ ผลไม้ในสวนของคุณยายก็ยังมีเยอะอยู่ค่ะ หากผลไม้ชนิดไหนมีไม่พอ เดี๋ยวเราไปติดต่อขอซื้อในสวนของชาวบ้านแถวนี้เพิ่มก็ได้ค่ะ พืชผักชนิดไหนที่ขายดีเดี๋ยวแป๋วจะให้คุณลุงเขาปลูกเพิ่มค่ะพี่ปาน”
“จ้ะน้องแป๋ว ช่วงนี้ฝนตกทุกวันน้องแป๋วต้องระวังเรื่องสุขภาพร่างกายด้วยนะเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้นะจ๊ะ”
ปานวาดเห็นน้องสาวเดินไปโน่นมานี่ท่ามกลางสายฝนอยู่บ่อย ๆ เลยเตือนให้ดูแลตัวเองให้ดี ๆ
“ค่ะพี่ปาน แป๋วก็ใส่ชุดคลุมกันฝนตลอดค่ะ แป๋วว่าอีกไม่นานก็จะผ่านช่วงฝนตกชุกแล้วค่ะพี่ปาน
อ๋อ มีอีกอย่างนึงค่ะพี่ปาน แป๋วอยากให้พี่ปานได้ดูต้นไม้ของเราที่ปลูกไปเมื่อปีก่อนค่ะ ตอนนี้ต้นไม้โตขึ้นมากเลยนะคะพี่ปาน ว่าง ๆ ช่วงไหนที่ไม่มีฝนเดี๋ยวแป๋วจะพาพี่ปานไปดูนะคะ”
“ได้จ้ะน้องแป๋ว”
ปานวาดไม่ค่อยได้ออกไปไหนไกลตัวคาเฟ่ เธอยุ่งอยู่กับเรื่องในร้านในครัวและเธอก็ไม่ค่อยชอบที่จะออกไปเจอแดดเจอฝนเหมือนกับน้องสาว
“เดี๋ยวแป๋วจะเดินเข้าไปในแปลงผักนะคะพี่ปาน”
“จ้ะ”
“เป็นไงบ้างคะคุณลุง วันนี้พืชผักของเรามีอะไรเสียหายบ้าง
“มีเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับคุณแป๋ว ทุกอย่างเป็นปกติครับ นี่ลุงก็เร่งให้คนงานเขาเก็บพริกกับถั่วฝักยาวอยู่ครับ ช่วงนี้พริกกับถั่วฝักยาวออกเยอะจริง ๆ เลยครับคุณแป๋ว”
“เหรอคะคุณลุง งั้นแป๋วขอเดินไปดูพืชผักในเพิงพักเลยนะคะ”
“ครับคุณแป๋ว”
ถามไถ่พูดคุยอยู่กับคุณลุงมนูญสักพักใหญ่ ๆ ปวริศาก็ขอตัวเดินไปที่เพิงพักพืชผักเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย
“เป็นไงบ้างคะพี่หนู พริกของเราเก็บได้เยอะไหม”
“เยอะอยู่ค่ะคุณแป๋ว”
ปวริศามองออกไปที่แปลงพริก ซึ่งตอนนี้มีดอกสีส้มสีแดงละลานตาเต็มไปหมด
“แล้วถั่วฝักยาวล่ะคะ มีฝักที่พองเยอะไหม”
“เยอะเหมือนกันค่ะคุณแป๋ว แต่ว่าครั้งนี้ถั่วฝักยาวของเราออกฝักเยอะมากจริง ๆ ค่ะ นี่พรุ่งนี้ก็คงจะเก็บได้เยอะแบบนี้อีกค่ะ”
“แล้วพืชผักอื่น ๆ ล่ะคะ”
“อย่างอื่นก็ปกติค่ะ คะน้า กวางตุ้ง พวกผักสลัด ขึ้นฉ่าย ผักชี ก็เก็บได้ตามปกติค่ะ”
“เดี๋ยวแป๋วขอเข้าไปดูในแปลงมะเขือก่อนนะคะ”
“ค่ะคุณแป๋ว”
ปวริศาตรวจตราพืชผักที่เเพ็คเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในแปลงที่ปลูกมะเขือชนิดต่าง ๆ
“เป็นไงบ้างคะคุณลุงมะเขือของเราวันนี้เก็บได้เยอะไหม”
“ได้เยอะอยู่ครับคุณแป๋ว” คุณลุงสุขตอบปวริศาพร้อมกับวางลังพลาสติกที่แบกอยู่บนบ่าลงกับพื้น
ปวริศาตรวจตราดูลังพลาสติกที่วางเรียงรายกันอยู่ 7-8 ลัง ทุกลังเต็มไปด้วยผลของมะเขือแต่ละชนิด มีทั้งลังมะเขือยาวสีม่วง ลังมะเขือยาวสีเขียว ลังมะเขือเปราะสีม่วง ลังมะเขือเปราะสีเขียว ลังมะเขือเปราะพวงหยก ลังมะเขือเปราะดาวขาว ลังมะเขือเปราะลายคางกบ และลังมะเขือตอแหล
“แล้วพวกฟักทอง ฟักแฟงล่ะคะคุณลุง วันนี้เป็นไงบ้าง ได้เยอะไหม”
“พอได้อยู่ครับ แต่ยังวางอยู่ในแปลงครับ ลุงยังไม่ได้ขนมาครับคุณแป๋ว”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณลุง ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแป๋วกลับก่อนนะคะ อีกสักพักจอมก็จะกลับมาจากในตัวเมือง แล้วเดี๋ยวแป๋วจะให้จอมเข้ามาช่วยขนนะคะ”
“ครับคุณแป๋ว”
"นี่ก็จะหมดหน้าฝนแล้วนะคะพี่ปริญ ปุณณ์อยากจะไปเที่ยวที่โฮมสเตย์แล้วค่ะ ปุณณ์อยากจะกินเค้กอร่อย ๆ ฝีมือของพี่ปานวาดอีกค่ะ”
“แม่ก็ว่าดีนะ ลูกจะได้ไปพักผ่อนด้วย ช่วงนี้แม่เห็นลูกวุ่นวายอยู่แต่กับงาน วันหยุดนี้เราไปกันดีไหม”
“ผมขอเคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อนนะครับแม่ แล้วเดี๋ยวเราค่อยจองบ้านพัก ช่วงนี้งานผมยุ่งมากครับ วันหยุดที่จะถึงนี้คงจะไปไม่ได้ครับแม่”
“งั้นเหรอจ๊ะ”
“เดี๋ยวรอให้หมดหน้าฝนก็ได้ค่ะพี่ปริญ ปุณณ์คอยได้ค่ะ”
“ดีจ้ะปุณณ์ ปุณณ์กับแม่จะได้ออกไปเห็นอะไรไกล ๆ บ้าง ปุณณ์กับแม่ยังไม่ได้ไปดูดอกไม้ที่ศูนย์วิจัยเลยนะ ไปคราวนี้เดี๋ยวพี่จะพาไปนะจ๊ะ”
“ค่ะพี่ปริญ”
“นี่ผัดผักรวมใส่กุ้งแห้งที่ลูกชอบจ้ะ”
แม่ของปริญบอกกับลูกชายของเธอพร้อมกับวางจานผัดผักรวมลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณครับแม่”
“ผักไฮโดรฯ ของเรางอกงามมากเลยนะ นี่แม่ก็เพิ่งเก็บไปแจกเพื่อนบ้านข้างเคียง”
“เหรอครับ แม่ต้องการพันธุ์ผักเพิ่มก็บอกนะครับ เดี๋ยวผมจะซื้อมาให้”
“ได้จ้ะ”
“เรื่องการเรียนของปุณณ์เป็นไงบ้างจ๊ะตอนนี้”
“ก็ดีค่ะพี่ปริญ นี่ก็ใกล้ที่จะสอบอีกแล้วค่ะ”
ปุณณ์เรียนปริญญาตรีผ่านช่องทางออนไลน์ตอนนี้ใกล้ที่จะจบปี 2 แล้ว
“ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ จบแล้วจะได้ไปทำงาน ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน”
“ค่ะพี่ปริญ”
3 คนแม่ลูกชวนกันคุยระหว่างมื้ออาหารที่บ้านพักของปริญ
“อากาศเริ่มเย็นลงบ้างแล้วนะจ๊ะน้องแป๋ว คุณยายเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะวันนี้”
ปานวาดถามน้องสาวหลังจากที่ปวริศากลับมาจากบ้านคุณยายอ่อน
“แป๋วสังเกตเห็นว่าพักหลัง ๆ มานี้คุณยายจะเหนื่อย ๆ ค่ะพี่ปาน แล้วก็ชอบพูดถึงเรื่องการจากการพรากอยู่บ่อย ๆ”
“คนวัยชราก็เป็นอย่างนั้นแหละ ในช่วงของบั้นปลายชีวิต ท่านคงจะกังวลไปต่าง ๆ นานา”
“คงจะเป็นอย่างที่พี่ปานว่าแหละค่ะ”
“ตอนเช้าน้องแป๋วก็อยู่คุยกับท่านนาน ๆ หน่อย ท่านจะได้ไม่รู้สึกเหงามากเกินไป”
“ค่ะพี่ปาน ถ้าช่วงไหนที่โฮมสเตย์ของเราไม่ยุ่งมากแป๋วก็จะอยู่เป็นเพื่อนท่านให้นานมากขึ้น”
“แต่ช่วงนี้ก็มีแขกจองบ้านพักเข้ามาเต็มตลอดนะจ๊ะ สัปดาห์ที่จะถึงนี้ก็มีแขกจองเข้ามาพักเต็มทุกวันเลยนะ”
“เหรอคะพี่ปาน”
“จ้ะ สัปดาห์ถัดไปก็ใกล้เต็มแล้วเหมือนกัน พี่ว่าหลังจากนี้ไปจนถึงปีใหม่โฮมสเตย์ของเราคงจะมีแขกเข้ามาพักเต็มตลอดนะ”
“ค่ะพี่ปาน”
“น้องแป๋วเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะวันนี้ พี่ดูเหมือนว่าน้องแป๋วจะเหนื่อย ๆ นะ” ปานวาดถามปวริศาเพราะเธอสังเกตเห็นหน้าตาของน้องสาวดูเหงาหงอยเศร้าสร้อย
“ค่ะพี่ปาน แป๋วน่าจะคิดเรื่องคุณยายมากไปหน่อยค่ะ แป๋วคิดว่าหากคุณยายต้องจากเราไปจริง ๆ ถึงตอนนั้นแป๋วคงต้องรู้สึกเศร้าเหมือนกันกับตอนที่คุณยายของเราเสียนะคะพี่ปาน”
“น้องแป๋วพูดจนทำให้พี่คิดถึงคุณยายของเราขึ้นมาเลยนะจ๊ะ น้องแป๋วอย่ากังวลไปเลยนะ ถึงเวลาทุกคนก็ต้องจากต้องพรากกันไปเป็นปกติ”
“ค่ะพี่ปาน”
ไม่บ่อยนักที่ปานวาดจะเห็นน้องสาวของเธอแสดงออกถึงความรู้สึกที่อ่อนแอ ตั้งแต่พ่อกับแม่จากไป ปวริศาก็ถูกเลี้ยงมาโดยคุณยาย จึงทำให้เธอรู้สึกผูกพันกับคุณยายของเธอมาก ตอนที่คุณยายของเธอจากไปเธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และพอย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ได้มารู้จักและผูกพันกับคุณยายอ่อน แล้วเธอก็สัมผัสได้ว่าคุณยายอ่อนก็รักและเอ็นดูเธอมาก เธอจึงรู้สึกกลัวกับการที่จะต้องพรากต้องจากกับบุคคลอันเป็นที่รักของเธออีก
“สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่านนะคะ”
ปานวาดออกมาต้อนรับแขกที่ทยอยกันเข้ามารับกุญแจของบ้านพัก
“ต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกได้นะคะ นี่กุญแจจ้ะจอม”
"ครับคุณปาน"
“ปานฝากพี่ใจกับจอมดูแลเรื่องความเรียบร้อยของบ้านพักด้วยนะคะ ช่วงนี้น้องแป๋วไม่ว่างได้ไปช่วยดูนะคะ”
ตอนนี้จอมกับใจรับหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของบ้านพักทั้งหมด เพราะปวริศาจะเข้าไปอยู่ในแปลงผักเสียเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้พืชผักในแปลงขายดีมากปลูกเก็บกันแทบจะไม่ทันส่งขาย
“ค่ะ คุณปานไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พี่จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกอย่างเนี้ยบเหมือนที่คุณแป๋วทำเลยค่ะ”
“ดีค่ะพี่ใจ น้องแป๋วเขาจะได้ไม่ต้องพะวง เพราะช่วงนี้งานในแปลงผักก็ยุ่งมาก ๆ ค่ะพี่ใจ”
“สบายใจได้เลยค่ะคุณปาน พี่กับจอมจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ”
“ค่ะพี่ใจ ปานขอบคุณพี่ใจกับจอมมากนะคะ ที่ช่วยงานกันอย่างเต็มที่มาตลอด
เดี๋ยวพี่ใจรอรับแขกอีก 2 หลังนะคะ ปานจะได้เข้าไปดูในครัวค่ะ”
ปานวาดส่งกุญแจของบ้านพักที่เหลือให้กับใจ แล้วเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปรุงอาหารมื้อค่ำที่จะถึง
"เป็นไงบ้างคะน้านวล วันนี้อาหารของเรามีกี่เมนูคะ"
"มี 8 เมนูค่ะคุณปาน"
"มีเมนูอะไรบ้างคะ"
"มีแกงป่าปลาน้ำจืด แกงเลียงฟักใส่กุ้งสด แกงกะทิไก่ใส่ฟักทอง ผัดผักรวมใส่กุ้งแห้ง น้ำพริกกะปิผักลวก ไข่เจียวหมูสับ ปลาทูทอด และบัวลอยน้ำขิงค่ะคุณปาน วัตถุดิบสำหรับปรุงเตรียมพร้อมหมดแล้วค่ะ"
“ดีเลยค่ะ งั้นเรามาเริ่มปรุงกันเลยนะ เอาเมนูไหนก่อนดีคะน้านวล”
“น้าว่าจะแกงกะทิไก่ใส่ฟักทองก่อนค่ะคุณปาน แล้วตามด้วยแกงป่า และค่อยแกงเลียง แล้วเดี๋ยวพวกผัด ๆ ทอด ๆ ค่อยทำตามหลังก็ได้ค่ะ”
“ได้ค่ะ เสร็จแล้วปานจะได้ทำบัวลอยน้ำขิงต่อค่ะน้านวล”
ปานวาดจะคอยกำกับการปรุงอาหารของทุกมื้อเพื่อความสะอาดและรสชาติที่อร่อยคงเอกลักษณ์ของโฮมสเตย์
“ขอเชิญทุกท่านทานอาหารได้ตามสบายนะคะ ขาดเหลืออะไรแจ้งกับทางเราได้เลยค่ะ”
พรุ่งนี้ทางโฮมสเตย์ของเรามีกิจกรรมให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกกันนะคะ หากท่านใดสนใจเข้าร่วมก็ขอเชิญนะคะ
ปวริศายืนต้อนรับแขก พร้อมกับแจกโปรแกรมกิจกรรมให้กับแขกทุกคน วันนี้มีแขกเข้ามาพักทั้งหมด 40 คน
มื้ออาหารค่ำของที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟต์ แขกที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์จะนั่งกินอาหารอยู่ด้านในของคาเฟ่ และก็จะมีแขกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เข้ามาพักแต่จะมาแค่กินอาหารมื้อค่ำ ปวริศาก็ได้จัดสถานที่รับรองเอาไว้บริเวณด้านนอกของคาเฟ่
เมนูอาหารก็จะแยก แขกที่เข้ามาแค่กินอาหารสามารถสั่งอาหารได้ตามที่ระบุไว้ในเมนู ครัวที่นี่จะปิดตอน 3 ทุ่ม หากแขกที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์ต้องการจะสั่งเมนูที่นอกเหนือจากทางโฮมสเตย์จัดให้ก็สามารถสั่งได้
จอมกับใจรับหน้าที่ดูแลแขกด้านนอก ปวริศาจะคอยช่วยอยู่ห่าง ๆ ส่วนปานวาดจะดูแลทั้งแขกที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์ทั้งคอยกำกับในครัวสลับกันไป
ในครัวก็จะมีน้านวลที่เป็นแม่ครัวใหญ่ แล้วก็มีนอมที่คอยเป็นลูกมือให้กับน้านวล และมีฟ้าคนงานใหม่ที่คอยเป็นลูกมือให้กับนอมอีกทีหนึ่ง หน้าที่หลักของฟ้าคือล้างจานชามและทำความสะอาดในค่าเฟ่
“เหนื่อยไหมคะพี่ปาน”
“นิดหน่อยจ้ะน้องแป๋ว
“แป๋วว่าเรารับรองแขกที่เข้ามาพักในโฮมสเตย์วันหนึ่งประมาณ 40-45 คนกับแขกที่เข้ามาแค่กินอาหารมื้อค่ำอีกสัก 20 คนกำลังดีนะคะพี่ปาน ทุกคนจะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป ถ้ามากกว่านี้ทุกคนจะเหนื่อยเกินไปนะคะ"
"ถ้าแขกมาจากข้างนอกมีเพิ่มมากขึ้นเราค่อยจ้างคนงานเพิ่มอีกก็ได้จ้ะ"
หลังจากที่แขกทยอยกลับกันไปหมดแล้ว ปวริศากับปานวาดก็ช่วยกันจัดเก็บความเรียบร้อยภายในคาเฟ่ และชวนกันพูดคุยปรึกษาหารือเรื่องกิจการไปด้วยเป็นปกติ
“เป็นไงบ้างคะทุกคน เหนื่อยกันมากหรือเปล่า ไหนเราลองมาแชร์ความรู้สึกกันดูซิ”
หลังจากจัดเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วปานวาดก็ชวนให้ทุกคนมานั่งคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกัน
“เริ่มจากพี่ใจก่อนเลยค่ะ” ปานวาดบอกให้ใจแสดงออกถึงความรู้สึกเป็นคนแรก
“พี่ว่าพี่ทำได้ค่ะ และก็สบายใจที่จะทำด้วย”
“จอมละเหนื่อยไปไหม” ปวริศาถามจอม
“ผมก็ทำได้ครับคุณแป๋ว สบาย ๆ ครับ”
“น้านวลล่ะคะ” ปานวาดถามน้านวลแม่ครัวใหญ่
“น้าก็ไหวค่ะคุณปาน ตั้งแต่มาทำงานที่นี่กับข้าวก็ไม่เคยต้องซื้อเลยค่ะ”
“นอมล่ะว่าไง” ปานวาดถามนอม
“นอมก็ไหวค่ะ เราไม่ได้เหนื่อยทั้งวันสักหน่อย
“แล้วฟ้าล่ะจ๊ะเป็นไงบ้าง”
“หนูก็ทำได้ค่ะ ตั้งแต่มาทำงานก็ได้กับข้าวอร่อย ๆ ไปฝากแม่ทุกวัน”
“ปานรู้ว่าบางวันทุกคนก็เหนื่อย ปานเลยอยากให้ทุกคนเปิดใจแสดงความคิดเห็น เราจะได้ทำงานกันอย่างสบายใจ นี่เราก็ทำงานร่วมกันมาได้ปีกว่าแล้ว ยกเว้นฟ้าคนเดียวที่เพิ่งเข้ามา ถ้าทุกคนคิดว่าทำได้และจะช่วยงานกันไปเรื่อย ๆ ปานก็ดีใจและยินดีมาก ๆ นะ”
“นี่ค่ะโบนัสของปีที่ผ่านมา 10 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ทั้งปีของแต่ล่ะคน ถึงแม้มันจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่แป๋วกับพี่ปานก็อยากจะตอบแทนที่ทุกคนมีน้ำใจกับเรา 2 คนพี่น้องนะคะ
นี่ของน้านวลค่ะ"
"ขอบคุณค่ะคุณแป๋วคุณปาน"
"นี่ของพี่ใจค่ะ"
"ขอบคุณค่ะคุณแป๋ว ขอบคุณค่ะคุณปาน"
"นี่ของพี่นอมค่ะ"
"ขอบคุณคุณแป๋วกับคุณปานมากค่ะ"
"นี่ของจอมนะ"
"ขอบคุณครับคุณแป๋ว ขอบคุณครับคุณปาน"
"และนี่ของฟ้าจ้ะ ไว้ทำงานให้ครบปีแล้วจะได้เพิ่มนะฟ้า"
"ขอบคุณมาก ๆ ค่ะคุณแป๋ว ขอบคุณมาก ๆ ค่ะคุณปาน กลับบ้านไปแม่ฟ้าคงจะดีใจมากแน่ ๆ ค่ะ"
ปานวาดกับปวริศาตกลงกันว่าจะจ่ายโบนัสให้กับคนงานทุกคน 10 % จากรายได้รวมทั้งปีของแต่ละคน นอกจากโบนัสแล้ว ทางโฮมสเตย์ยังมีอาหารเป็นสวัสดิการให้กับคนงานกินวันละ 3 มื้อ และมีกับข้าวให้เอากลับไปฝากคนที่บ้านทุกวันอีกด้วย
"พวกเราไม่ได้คิดมาก่อนเลยค่ะว่าจะได้โบนัส ขอบคุณคุณปานกับคุณแป๋วมาก ๆ เลยนะคะ กลับบ้านไปลูก ๆ ของน้าคงจะดีใจกันน่าดูเลยค่ะ"
น้านวลและทุกคนพากันยิ้มด้วยความดีใจเพราะไม่ได้คิดมาก่อนว่าปานวาดกับปวริศาจะจ่ายโบนัส พวกเธอคิดว่าการได้กับข้าวกลับไปฝากคนที่บ้านทุกวันก็นับว่าเป็นโบนัสแล้ว
“เสร็จหรือยังยัยปุณณ์”
“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะพี่ปริญ”
“จัดอะไรบ้างทำไมใช้เวลานานจัง” ปริญถามน้องสาวด้วยความสงสัย
“จัดเสื้อคลุมกันหนาวค่ะพี่ปริญ จัดหนังสือไปอ่านด้วย”
“ไปพัก 2 คืนทำไมเอาไปเยอะแยะนักล่ะ”
“ปุณณ์อยากเอาไปใส่ถ่ายรูปกับดอกไม้สวย ๆ ก็พี่ปริญบอกเองนี่ว่าจะพาไปที่ศูนย์วิจัย” ปุณณ์ทบทวนความจำให้กับพี่ชาย
“แม่ล่ะครับ ตรวจตราบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วยังครับ”
ก่อนที่จะออกจากบ้านทุกครั้งแม่ของปริญก็จะต้องไปตรวจดูเตาแก๊ส ดูห้องน้ำ ดูประตูหลังบ้าน บางครั้งดูแล้วดูอีกเพราะว่าลืม บางครั้งปริญไปตรวจดูให้ก่อนแล้วแต่แม่ของปริญก็ไปตรวจดูซ้ำ ด้วยความที่เป็นคนขี้ลืม ครั้งนี้ปริญก็ตรวจดูเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องปล่อยให้แม่ไปตรวจดูอีกรอบเพื่อความสบายใจ
“มายัยปุณณ์พี่พาเราไปนั่งรอในรถก่อนปล่อยให้คุณปองเขาตรวจตราบ้านช่องก่อน”
“ค่ะพี่ปริญ”
ปริญพาปุณณ์ไปนั่งในรถ ก่อนที่จะยกวีลแชร์พับเก็บไปไว้ท้ายรถและเดินไปขนกระเป๋ามาใส่ไว้ท้ายรถเสร็จเรียบร้อยก็ยังไม่เห็นแม่ออกมาจากบ้าน
“แม่ครับทำอะไรอยู่ครับ” ปริญเรียกแม่แบบน้ำเสียงกวน ๆ
“เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้ะ”
“แม่ทำอะไรทำไมนานจังเลยครับ” ปริญถามด้วยความสงสัย
“นี่จ้ะ แหวนแต่งงานของแม่ แม่ให้ลูกเก็บไว้กับตัว เผื่อลูกอยากให้หนูปวริศาเก็บไว้ แม่ยกแหวนวงนี้ให้ลูกจ้ะ”
แม่ของปริญออกมาช้าเพราะมัวไปค้นหาแหวนแต่งงานของตนเองเพื่อให้ลูกชายเก็บไว้ให้กับปวริศา
“ขอบคุณครับแม่ ถ้ามีโอกาสผมจะฝากให้เขาเก็บไว้ก่อนครับ”
“ดีจ้ะ ค่อยเป็นค่อยไปนะอย่ารีบร้อน ดูแลกันไปก่อน ตอนนี้อายุลูกก็เพิ่งจะย่าง 28 หนูปวริศาก็เพิ่งย่าง 25 ยังศึกษาดูใจกันไปได้อีกนานเลยจ้ะ”
“ครับแม่ ผมไม่ได้รีบร้อนเรื่องที่จะแต่งงาน ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณปวริศาเขาคิดอย่างไรกับผม”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไป แม่เอาใจช่วยลูกชายของแม่นะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับแม่”
“ไปกันเถอะเดี๋ยวจะถึงมืดค่ำเหมือนวันก่อนอีก แม่ว่าเดี๋ยวพอถึงตัวเมืองยัยปุณณ์ก็จะโวยวายอยากได้โน่นนี่อีก”
ปริญประคองแม่ขึ้นนั่งบนรถแล้วปิดประตูให้ ก่อนที่เขาจะขึ้นไปนั่งในตำแหน่งคนขับแล้วขับออกไป
“สวัสดีค่ะคุณยาย แป๋วมาแล้วค่ะ วันนี้แป๋วมีขนมเปียกปูนโบราณฝีมือของพี่ปานมาให้คุณยายลองชิมด้วยค่ะ”
“เหรอจ๊ะหนูแป๋ว มาเข้ามาในบ้านก่อน วันนี้อากาศข้างนอกเย็นมาก ยายไม่กล้าที่จะออกไปโดนลมเลยจ้ะ”
“ค่ะคุณยาย”
ปรวิศาตอบรับคำของคุณยายอ่อนที่ตอนนี้ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาและมีผ้าคลุมไหล่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรด
“วันนี้ยายว่ายายจะไม่เดินไปที่บ้านคุณตานะจ๊ะหนูแป๋ว ยายรู้สึกว่าอากาศมันเย็นลงเร็วมาก มากจนร่างกายของยายปรับไม่ทัน เดี๋ยวหลังมื้ออาหารยายจะกินยาแล้วนอนพักผ่อนนะจ๊ะ”
“ค่ะคุณยาย มาค่ะมาทานอาหารกันก่อน” จัดอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วปวริศาก็เดินมาประคองคุณยายอ่อนพาไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“นี่ค่ะคุณยาย วันนี้มีแกงจืดเต้าหู้ น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ผักลวก ไข่ตุ่น และก็ขนมเปียกปูนโบราณค่ะคุณยาย”
“ฝากขอบใจหนูปานด้วยนะจ๊ะที่ทำอาหารอร่อย ๆ ให้กับยาย คนเราอยู่ด้วยกันก็ต้องเอื้ออารีย์ต่อกันนะจ๊ะหนูแป๋ว หากวันใดที่ต้องห่างกันไปจะได้มีแต่ความรู้สึกที่ดี ๆ เวลาที่คิดถึงกัน”
“ค่ะคุณยาย คุณยายทานเยอะ ๆ นะคะ"
"จ้ะหนูแป๋ว คนแก่กินอะไรได้ไม่เยอะหรอกจ้ะ ไอ้โน่นนิดไอ้นี่หน่อยก็อิ่มแล้วจ้ะ"
"นี่ค่ะคุณยายขนมเปียกปูนโบราณ คุณยายลองชิมดูหน่อยนะคะ ไม่หวานมาก พอดีกินค่ะ"
หลังจากที่กินอาหารคาวเสร็จปวริศาก็ยกจานขนมเปียกปูนโบราณของปานวาดให้คุณยายอ่อนลองชิม
“อร่อยมากจ้ะหนูแป๋ว หนูปานเขามีฝีมือทางด้านนี้ ทำอะไร ๆ ก็อร่อยหมดแหละจ้ะ”
“ค่ะคุณยาย เดี๋ยวคุณยายกินยาแล้วนอนพักนะคะ”
“จ้ะหนูแป๋ว”
หลังจัดเก็บโต๊ะอาหารเรียบร้อยปวริศาก็ขอตัวกลับโฮมสเตย์เพราะต้องการที่จะให้คุณยายอ่อนได้นอนพักผ่อน
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะน้องแป๋ว”
"ทำไมกลับมาเร็วล่ะจ๊ะวันนี้"
“วันนี้คุณยายไม่ค่อยสบายค่ะพี่ปาน”
"อ้าว เหรอจ๊ะ แล้วอาการของคุณยายเป็นอย่างไรบ้าง"
"คุณยายบอกว่าครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ค่ะ อาจจะเป็นเพราะอากาศที่เย็นลงกระทันหันค่ะพี่ปาน"
"อ๋อ จ้ะ
วันนี้มีแขกเข้าพักเต็มทุกหลังนะจ๊ะ น้องแป๋วอย่าลืมกำชับพี่ใจเรื่องความเรียบร้อยของบ้านพักนะ”
“ค่ะพี่ปาน เดี๋ยวก่อนที่แป๋วจะเข้าไปในแปลงผักแป๋วจะแวะไปดูความเรียบร้อยก่อนค่ะ”
“อย่างนั้นก็ดีจ้ะ”
ปานวาดเห็นว่าน้องสาวกลับมาจากบ้านคุณยายอ่อนเร็วกว่าปกติ เลยอยากให้ไปดูที่บ้านพักสักหน่อย เพราะช่วงนี้ปวริศาไม่ค่อยได้เดินไปดูสักเท่าไหร่
👉🏻 ตามกันต่อในบทที่ 7 นะคะ
https://www.readawrite.com/c/df8efef9f34f1845f7431f428b469306
***ฝากทุกท่านช่วยพิสูจน์อักษรให้ไปด้วยเลยนะคะ คำไหนผิดช่วยกดสติ๊กเกอร์ไว้ให้ได้สังเกตจักขอบพระคุณมากเลยค่ะ🙏🏻❤️
เครดิตภาพประกอบ
คาเฟ่
food
หนังสือ
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย