14 มี.ค. 2023 เวลา 10:35 • ความคิดเห็น
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การยอมรับตัวเองเนอะ
เพราะว่า การที่คนเราจะโทษตัวเองได้นั้น
เเสดงว่า เดิมทีอาจอยู่ในเเวดล้อมที่ตนนั้นไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร ตั้งแต่เด็กยันโตเราทุกๆคนล้วนทำเรื่องผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น ถ้าหากพ่อแม่ คนรอบตัวเข้าใจในบริบทนั้นๆ หรือเจตนาของคนนั้นๆ จะสามารถทำให้มองสาเหตุของปัญหานั้นได้มากขึ้น ทั้งปัญหาเล็ก ปานกลาง ยันใหญ่โต รวมถึง เกิดจากเหตุสุดวิสัย อุบัติเหตุ จงใจ ไม่ได้ตั้งใจ เป็นต้น
สมมุติว่า ผมเดินชนโต๊ะจนเผลอทำเเก้วเเตก บริบทของผมคือผมเผลอเดินชน แต่เจตนาที่เเท้จริง คือ มันเป็นอุบัติเหตุ ถ้าพ่อแม่เเละคนใกล้ตัวเข้าใจ ทุกอย่างก็จะราบรื่นแถมผมก็จะระมัดระวังตัวมากขึ้น
แต่ถ้าในมุมกลับ พวกเขาจะมองว่าผมทำข้าวของเสียหายเน้นที่ผมทำเเก้วเเตก จนผมรู้สึกเเย่ในชวงเเรกๆ ถ้ามันเป็นเเบบนี้บ่อยๆอาจทำให้ระเเวงคนใกล้ตัวมากขึ้นเพราะกลัว อาจส่งผลถึงขั้นไม่ว่าจะเป็นความผิดเเบบไหนก็จะโทษตัวเองที่ ทำให้เรื่องเลวร้ายต่างๆเกิด ทั้งๆที่ในบริบทไม่ได้อยากให้มันเกิดจริงๆก็ได้ เเละไม่ได้จงใจสร้างปัญหาจริงๆก็ได้
สิ่งที่ผมจะสื่อคือ คนเรานั้นเติบโตมาเเบบไหนมานั้นขึ้นอยู่กับว่าไปพบเจออะไรมา มีทั้งคนที่ไร้ความมั่นใจจนโทษว่าทุกอย่างเขาผิดเองซะหมด, ถ้าใหญ่ๆเลยคือ ทำเรื่องเลวร้ายไว้มากชนิดที่ว่าสังคมมิอาจให้อภัยได้ว่าคนๆนี้ไม่มีทางกลับใจได้หรอก อันนี้มันจะเเล้วเเต่บริบทเเละเจตนาๆของคนๆนั้นด้วยว่า เขาทำไปเพื่ออะไร แล้วมีความตั้งใจจริงที่จะทำให้เพื่อนมนุษย์ได้รับผลกระทบหรือไม่ มันมีทั้งคนที่ไม่มีทางเลือก และคนที่ไม่สนสีสนสาอะไรทั้งสิ้น
1
ผมอยากให้ค่อยๆคิดทบทวนดีๆเนอะว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อให้คุณทำเรื่องผิดพลาดใหญ่โตมา ถ้าคุณกลับตัวกลับใจได้จากใจจริงพร้อมที่ตะเป็นคนใหม่จริงๆ อันนี้ต้องจำไว้เป็นบทเรียนชีวิตว่าหากเกิดขึ้นอีกจะสงผลยังไง
โฆษณา