17 มี.ค. 2023 เวลา 14:22 • กีฬา

เพราะไม่มีคู่แข่ง ? : ทำไม เทรนท์ ยังไปไม่สุดในอาชีพค้าแข้ง ? | Main Stand

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาเด็กท้องถิ่นของ ลิเวอร์พูล คือผลผลิตจากอคาเดมีของสโมสรที่เติบโตขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริง พร้อมเป็นส่วนสำคัญให้ทีมก้าวไปคว้าแชมป์รายการเมเจอร์มาครบทุกถ้วยแล้ว
เขาคือดวงดาวที่เจิดจรัส ดาวรุ่งที่แทบทุกคนพูดถึง และปัจจุบันเขาก็มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น นั่นคืออาชีพในวงการลูกหนังยังมีอีกยาวไกล ทักษะเกมรุกทั้งการครอสบอลที่แม่นยำ ลูกนิ่งที่หวังผลได้ ทั้งหมดนี้มีดีพอให้เขาก้าวไปสู่ระดับตำนานของทีมแบบรุ่นพี่อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด
แต่ทว่าในตอนนี้ เทรนท์ถูกตั้งคำถามถึงฟอร์มการเล่นที่ดรอปลง ถึงขั้นหลุดจากโผทีมชาติอังกฤษ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักเตะเบอร์ 66 รายนี้ ? มาลองวิเคราะห์หาสาเหตุไปพร้อมกับ Main Stand
พัฒนาการช้า
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กปั้นจากระบบอคาเดมีของสโมสรมักได้รับการเชิดชูและสนับสนุนจากแฟนบอลมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อนักเตะคนนั้นพัฒนาขึ้นมาในฐานะเด็กท้องถิ่นที่เกิดและเติบโตอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับสนามเหย้าของทีม
สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ คือผลผลิตที่แฟนบอลลิเวอร์พูลภาคภูมิใจ และพวกเขาก็หวังว่าจะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นสืบทอดต่อมากับนักเตะในทีมปัจจุบันอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ เคอร์ติส โจนส์
1
เทรนท์ก้าวขึ้นทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล 2015-16 ก่อนได้โอกาสประเดิมสนามในเกม EFL คัพ (คาราบาวคัพในปัจจุบัน) ที่ทีมชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 ก่อนได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นในปี 2017 เมื่อแบ็กขวาตัวจริงอย่าง นาธาเนียล ไคลน์ ประสบอาการบาดเจ็บระยะยาว
ด้วยการที่เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวข้างมาก่อนในสมัยอคาเดมี ทำให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีทักษะการเติมเกมรุกที่ดี ทั้งสปีดความเร็วในการวิ่งขึ้นไปช่วยแดนหน้าและความสามารถในการผ่านบอล โดยเฉพาะลูกเปิดแบบ เออร์ลี่ครอส (Early Cross) ที่เทรนท์มักผ่านบอลก่อนถึงแนวเส้นกรอบเขตโทษ เพื่อให้บอลโค้งเข้าไปถึงนักเตะที่เติมเกมขึ้นมาเข้าทำ ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีในยุคของ เยอร์เกน คล็อปป์ ที่เขาและ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ได้กลายเป็นหนึ่งในอาวุธลับสำคัญของทีม
อย่างไรก็ตาม เทรนท์ยังคงมีปัญหาในเกมรับอย่างต่อเนื่อง ในฤดูกาล 2017-18 เขาถูกปีกตัวเร็วทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ วิลฟรีด ซาฮา เผาเครื่องจนถูกนำไปล้อเลียนมาแล้ว และปัญหาดังกล่าวก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับการแก้ไขไปเสียทั้งหมดในยุคปัจจุบัน
ข้อดีคือในช่วงที่ลิเวอร์พูลกำลังโชว์ฟอร์มแกร่ง เกมรับฝั่งขวาจะมีรุ่นพี่อย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาช่วยประกบผู้เล่นฝั่งตรงข้าม และยังมีคู่เซ็นเตอร์ทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ก กับ โจ โกเมซ หรือ โจเอล มาติป ที่พร้อมเป็นด่านสองคอยรองรับอีกที แต่ในวินาทีที่นักเตะชุดใหญ่ของหงส์แดงพากันต่อแถวกันฟอร์มตก ปัญหาของเทรนท์ก็ย่อมปรากฏขึ้นมาเด่นชัดยิ่งกว่าเดิม
1
การยืนตำแหน่งของเทรนท์ที่มักลอยขึ้นสูงจนลงมาตั้งรับไม่ทัน หรือไม่สามารถรับมือกับคู่แข่งได้ อาจมีส่วนมาจากแผนการเล่นของกุนซือที่ต้องการทักษะเกมรุกจากดาวเตะวัย 24 ปีมากกว่า แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็คือลิเวอร์พูลประสบปัญหาในตำแหน่งแบ็กขวามานานพอสมควรแล้ว
1
ไม่มีคู่แข่ง
อันที่จริงแล้วระบบอคาเดมีของสโมสรแทบไม่เคยขาดแคลนแบ็กขวาที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่เลย ไล่ตั้งแต่ มาร์ติน เคลลี่ กับ จอน ฟลานาแกน สองดาวรุ่งท้องถิ่นที่เคยขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงได้ หรือ คี-ยาน่า ฮูเวอร์ กับ เนโก วิลเลียมส์ ที่ครั้งหนึ่งสามารถเบียดตำแหน่งกับเทรนท์ได้ ก่อนจะย้ายทีมไปอยู่กับ นอตติงแฮม ฟอเรสต์
ปัญหาคือนอกจากผู้เล่นอคาเดมีเหล่านี้จะไม่สามารถยืนระยะกับทีมชุดใหญ่ได้ ไม่ว่าด้วยสาเหตุอาการบาดเจ็บระยะยาว หรือทักษะที่ยังไม่ดีพอกับการลงเล่นลีกสูงสุดของอังกฤษ เหล่าผู้เล่นตัวจริงที่ลิเวอร์พูลเคยไปซื้้อมาร่วมทีมก็ไม่ได้มีผลงานดีจนน่าประทับใจนัก ไล่ตั้งแต่ยุคของ เกล็น จอห์นสัน มาจนถึง นาธาเนียล ไคลน์
นั่นทำให้เมื่อเทรนท์ที่มีฟอร์มการเล่นโดดเด่นในการเติมเกมรุกถูกผลักดันขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งในทีมชุดใหญ่เต็มตัว เขาจึงได้รับคำชมอันล้นหลามจากหลายฝ่าย
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายของทีม เคยให้สัมภาษณ์กับ BBC Sport ว่า “แฟนบอลมักอวยยศนักเตะอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะนักเตะอังกฤษ แต่พวกเขาก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์นักเตะเหล่านี้ได้รวดเร็วไม่แพ้กัน”
“พวกเราต่างมีจุดด้อย แบ็กทุกคนถูกนักเตะเกมรุกเอาชนะอยู่ตลอดเวลา เรามีช่วงเวลาที่ฟอร์มดรอปลง แต่การด่าเขา (เทรนท์) ในตอนนี้มันรุนแรงเกินไป และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น” นี่คือการแสดงความเห็นจากเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนสนิทที่อีกฟากหนึ่งของสนาม
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะทีมยังไม่มีแบ็กขวาแบบจริงจังที่สามารถมาแข่งขันแย่งตำแหน่งกับเทรนท์ได้แบบที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้เสนอความเห็นเอาไว้ ต่างจากตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ตัวสำรองอย่าง คอสตาส ซิมิกาส ทำผลงานได้น่าประทับใจ พร้อมลงสนามเมื่อโรเบิร์ตสันเล่นไม่ได้ รวมถึงพร้อมแย่งตำแหน่งตัวจริงทุกเมื่อ
โจ โกเมซ เคยเล่นเป็นแบ็กขวามาก่อน แต่ฟอร์มตอนนี้ก็ไม่ได้ดีพอจะแย่งตำแหน่งกับเทรนท์ได้ เจมส์ มิลเนอร์ ก็เป็นมิดฟิลด์วัย 37 ปี ที่เป็นตัวอะไหล่คอยช่วยรุ่นน้องในเวลาฉุกเฉิน ส่วน คัลวิน แรมซีย์ ที่ถูกดึงเข้ามาร่วมทีมเมื่อต้นฤดูกาล 2022-23 ก็ยังไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรจริงจัง ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดจนต้องปิดฤดูกาลนี้ไปเสียแล้ว
ไม่แน่ว่าเมื่อแบ็กขวาวัย 19 ปีที่มีดีกรีนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสกอตแลนด์กลับมาฟิตสมบูรณ์ เขาอาจเป็นตัวเบียดแย่งตำแหน่งกับ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อย่างที่หลายคนต้องการก็ได้ แต่ยังไม่มีใครรู้ได้แน่ชัด จนกว่าแรมซีย์จะกลับมาฟิตสมบูรณ์ในฤดูกาลหน้า
ท้ายที่สุดแล้ว ปัญหาการไม่มีคู่แข่งของเทรนท์ไม่ว่าด้วยฐานะของเด็กปั้นดาวรุ่งพุ่งแรง หรือตัวสำรองในทีมที่ไม่มีคุณภาพขึ้นมาแข่งขันแย่งตำแหน่งกับเขาก็มีผลกระทบต่ออะไรหลายอย่าง ทั้งการลงเล่นของแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษที่ไม่ได้มีพัฒนาการพุ่งสูงได้อย่างที่หลายคนคาดคิดไว้ หรือความเหนื่อยล้าทั้งกายและจิตใจจากการกรำศึกมาตลอด 5 ปีโดยแทบไม่ได้สลับพัก
ในซีซั่นนี้ เทรนท์อาจยังประคองตัวเองไปจนจบฤดูกาลได้ และมีโอกาสสูงที่เราจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการเล่นของทีมในภาพรวมที่มีปัญหามาตลอดทั้งฤดูกาล 2022-23 หรือการได้กลับไปพักจิตใจของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และอาจรวมถึงการได้เจ้าหนูแรมซีย์เข้ามาเบียดแย่งตำแหน่ง ซึ่งในกรณีที่ดีที่สุด อาจหมายถึงพัฒนาการของนักเตะทั้งสองในเวลาเดียวกัน
แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น ว่าหนึ่งในดาวรุ่งที่ถูกจับตามากที่สุด และผู้เคยถูกเรียกว่า “หนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดในโลก” จะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ของเขาได้จริงไหม
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา