21 มี.ค. 2023 เวลา 09:36 • นิยาย เรื่องสั้น

สมัครงาน

เสียงน้ำตกเทียมจากช่อง youtube สลับกับเสียงเพลง Ost ‘Naruto ฟังคลอกันไปผมชอบดูการตูนเรื่องนี้ สายตาจับจ้องอยู่ที่แป้นพิมพ์นิ้วแต่ละนิ้วขยับตามความคิดที่เกิดขึ้นแหง่นหน้าขึ้นมาเป็นหน้าจอขาวโพลนมีข้อความถูกพิมพ์ได้ไม่กี่บรรทัด กลิ่นบุหรี่ยังเหม็นติดที่ปลายนิ้วทั้งที่ไม่ชอบแต่ก็ยังสูบแถมยังมีรสฝาดๆที่ลิ้นด้วยช่างไม่น่าเสน่ห์หาเอาเสียเลย ผมเอียนหลังพิงพนักไม้แข็งๆพร้อมกับเหยียดขาไปข้างหน้าเพื่อที่จะพยายามผ่อนคลายตัวเองเท่าที่ทำได้
หลายวันผ่านมามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจ ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปเพื่ออะไรรู้ตัวอีกทีคือผมสูญเสียความมั่นใจกลายเป็นคนโลเลไม่กล้าตัดสินใจ และยังอาจจะตัดสินใจผิดก็ได้ ความกลัวความล้มเหลวเกาะกุมหัวใจไว้แน่นราวกับเชือกที่ผูกเป็นปมหลายรอบแน่นแล้วแน่นอีก ผมได้ไปสมัครงานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีขั้นตอนการรับพนักงานหลายขั้นตอนเริ่มต้นผ่านไปได้ด้วยดีบริษัทเจ้าของสินค้ารับผมเข้าทำงาน แต่ผมต้องผ่านการทดสอบของห้างด้วย เป็นที่มาของความกลัวเพราะสอบตกทุกขั้นตอนของห้าง
ความเสียดาย อาจจะไม่ใช่เงินจำนวนมากนักแต่สำหรับคนตกงานแล้วมันไม่ใช่น้อยๆเลยที่ต้องจ่ายค่าชุดทำงานทั้งที่ยังไม่ได้งาน ทั้งๆที่ยังมีโอกาสสอบใหม่อีก1ครั้งแต่ก็สละสิทธิ์เพราะทนแรงกดดันของตัวเองไม่ไหว ผมกดดันตัวเองด้วยความเสียดายค่าชุดจนอาการเครียดกำเริบหนักปรึกษาใครก็ได้คำตอบเหมือนๆกันคือต้องตัดสินใจเอง ถูกของเขาเหลล่านั้นไม่มีใครอยากมาแบกความรับผิดชอบของการตัดสินใจนักหรอก ผลเลยกลายเป็นผมตัดสินใจทิ้งเงินก้อนนั้นเพื่อปลดปล่อยตัวเองที่กดดันตัวเองอยู่ผ่อนปรนความทรมานที่เกิดขึ้น
คนปกติ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการสมัครงานแต่สำหรับผู้ป่วย(ผมไม่อยากอ้างว่าป่วยเลยแต่ผมก็ป่วยอยู่จริงๆ)จิตเวชแล้วมันเรื่องสาหัสทุกความพยายามแต่ละเรื่องดำเนินไปด้วยความยากลำบากทั้งสิ้น แม้แต่ใช้ชีวิตธรรมดาให้เป็นปกติอาจจะยังพอทำได้แต่เวลามีอาการขึ้นมานั่นมันนรกเลยนะ สิ่งที่ใครไม่เห็นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับใจเราอันนี้คนปกติก็มองกันไม่เห็น
ยิ่งผู้ป่วยจิตเวชด้วยแล้วสิ่งที่คนอื่นจะเห็นก็คือร่องรอยบาดแผลจากการทำร้ายตัวเอง หรือการช่วยชีวิตจากการพยามฆ่าตัวตายของพวกเรา ความเจ็บปวดจากข้างในทะลุออกมาผ่านรอยแผลนับไม่ถ้วน
ตอนนี้ผมตกงานอีกครั้งหรือพูดให้บวกอีกนิดเป็นกลุ่มคนที่กำลังหางาน เราเปล่าตกงานเพียงแค่เรายังหางานของเรายังไม่เจอ ผมบอกตัวเองไม่ให้เสียดายเงินที่สูญไปกับค่าชุดที่ทำให้เครียดมากเกินไปนัก น่าจะจริงตามนั้นเรายังไม่เจองานของเรา วันของเราคงต้องมีซักวันในปฏิทิน1ในนั้นคือวันของเรา งานของเรากำลังรอเราอยู่ในวันหนึ่งในปฏิทิน ไม่จำเป็นที่จะเอาแต่นั่งเฝ้ารอวันนั้นอย่าบอกตัวเองให้รอแล้วค่อยมีความสุข
บางทีอาจจะจริงอย่างที่ภรรยาเก่าผมแนะนำงานบ้านก็คืองาน คิดเอาเองว่าถ้างานบ้านยังทำไม่ได้อย่าเพิ่งไปหางานนอกบ้านมาทำ
ผมใฝ่หาแต่งาน เงิน ความรู้สึก จากภายนอกไม่ได้ฟังเสียงจากภายในเลยคำว่า”พอแล้ว”ดังกึกก้องอยู่ภายในใจ ใจที่เรียกร้องให้หยุดให้พอหยุดเป็นผู้รับที่เอาแต่ได้จะเอาให้ได้ในทุกสิ่ง ที่อยากมีอยากได้ล้วนเกิดจากการเปรียบเทียบก็ผู้คนในสังคมออนไลน์ทั้งนั้น เพราะในเมื่อสังคมที่อยากให้มีกลับไม่มีเลยไปหาเอาในโลกออนไลน์ จนลืมสังคมครอบครัวสังคมที่ใกล้ตัวและควรจะใส่ใจมากที่สุด และมากไปกว่านั้นคือสังคมของใจตัวเอง ความคิด ความหวัง ความรู้สึก สิ่งเหล่านี้เป็นสังคมเล็กๆภายในใจเรา
ยังมีอีกหลายสิ่งที่เป็นทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมของเรา
ผู้คนจากในหนังสือบางทีอาจเป็นเพื่อนที่ให้คำแนะนำเราได้ดีที่สุด บทเรียนจากการสอบตกถูกปลอบใจให้เห็นความจริงของตัวเอง ผมยังหนักไปในทางที่จะเป็นผู้รับ คิดว่าตัวเองขาดอยู่ตลอดทั้งที่จริงก็มีอยู่กลับทำเป็นไม่สนใจ ไปหาใหม่หาอีก ความคิดนึงที่ดังอยู่ในหัวตอนนี้คือ”ถ้าทุกวันคือวันอาทิตย์ วันอาทิตย์จะกลายเป็นวันธรรมดาที่ทำให้เราต้องไปหาวันที่พิเศษใหม่กว่าวันอาทิตย์ วันอาทิตย์น่ะมีสัปดาห์ละ1วันน่ะดีแล้ว”
ทุกครั้งที่อ่านหนังสือรู้สึกถึงผู้คนในหนังสือราวกับมีตัวตนและเป็นเพื่อนสนิท และที่มาคู่กันกับการอ่านหนังสือก็คือการเขียน
การอ่านและการเขียนล้วนแต่เพื่อนเกรดเอ ทุกครั้งที่ต้องการรับรู้อะไรก็ได้จากการอ่านยิ่งอ่านยิ่งได้เรียนรู้เพื่อนคนนี้ชื่อการอ่าน การอ่านอยู่ข้างเราทุกเมื่อทุกที่ และการเขียนก็อยู่ข้างเราทุกครั้งที่เราอยากระบายความคิดความรู้สึก ถ้าไม่ได้การอ่านและการเขียนคงสับสนไปอีกนาน บาดแผลจากการสอบตกในการสมัครงานในครั้งนี้ได้ถูกเยียวยาแล้ว ด้วยการอ่านและเขียน
โฆษณา