23 มี.ค. 2023 เวลา 23:31 • ธุรกิจ

ส่งออกไทย 2565 ทำมูลค่าสูงสุด 2.8 แสนล้านเหรียญ โต 5.5% จากปี 65

สถานการณ์ส่งออกในเดือนธันวาคม 2565 ไทยทำตัวเลขส่งออกเหนือระดับ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 14.6% เมี่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน แต่ผลรวมทั้งปีไทยทำสถิติส่งออกมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.5% จากปีก่อน
ตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคม 2565 มีมูลค่า 21,718.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (776,324 ล้านบาท) หดตัวร้อยละ 14.6 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย หดตัวร้อยละ 12.5 การส่งออกไทยเดือนนี้หดตัวจากฐานที่สูงในปีที่ผ่านมา แต่เมื่อพิจารณาในแง่ของมูลค่าการส่งออกยังทำได้มากกว่าค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง (20,759.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) เป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ
โดยเฉพาะตลาดส่งออกสำคัญของไทย เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น ซึ่งการส่งออกของหลายประเทศในเอเชียต่างได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
ยังมีปัจจัยหนุนจาก ค่าระวางเรือลดลงอย่างต่อเนื่อง การดำเนินการตามแผนส่งเสริมการส่งออกเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ และภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกที่ฟื้นตัวส่งผลให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ การส่งออกไทย ทั้งปี 2565 (มกราคม–ธันวาคม) มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 287,067.9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5.5 และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 4.7
มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนธันวาคม 2565 การส่งออก มีมูลค่า 21,718.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 14.6 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 22,752.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 12.0 ดุลการค้า ขาดดุล 1,033.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 2565 (มกราคม - ธันวาคม) การส่งออก มีมูลค่า 287,067.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.5 การนำเข้า มีมูลค่า 303,190.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.6 ดุลการค้า ขาดดุล 16,122.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 11.2 (YoY) หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน แต่ยังมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัวร้อยละ 21.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปขยายตัวร้อยละ 1.5 (ขยายตัวในตลาดซาอุดีอาระเบีย อิสราเอล แคนาดา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแอฟริกาใต้)
ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ขยายตัวร้อยละ 35.5 (ขยายตัวในตลาดอินเดีย เนเธอร์แลนด์ เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ขยายตัวร้อยละ 22.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์) นมและผลิตภัณฑ์นม ขยายตัวร้อยละ 2.7 (ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และลาว)
สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ข้าว หดตัวร้อยละ 4.1 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดอิรัก แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น แคเมอรูน และอินโดนีเซีย) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 12.4 หดตัวในรอบ 3 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ไต้หวัน สหรัฐฯ อินโดนีเซีย และเวียดนาม
แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น มาเลเซีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์) ยางพารา หดตัวร้อยละ 47.7 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดจีน มาเลเซีย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่ขยายตัวในตลาดสโลวีเนีย เยอรมนี เบลเยียม ปากีสถาน และลัตเวีย)
ผลไม้กระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 20.5 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และกัมพูชา แต่ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย และเวียดนาม) น้ำตาลทราย หดตัวร้อยละ 45.4 (หดตัวในตลาดอินโดนีเซีย ไต้หวัน จีน ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม แต่ขยายตัวในตลาดกัมพูชา ลาว สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง) ทั้งนี้ ปี 2565 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 8.8 (YoY)
มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนธันวาคม 2565 การส่งออก มีมูลค่า 21,718.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 14.6 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 22,752.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 12.0 ดุลการค้า ขาดดุล 1,033.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 2565 (มกราคม - ธันวาคม) การส่งออก มีมูลค่า 287,067.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.5 การนำเข้า มีมูลค่า 303,190.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.6 ดุลการค้า ขาดดุล 16,122.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวร้อยละ 15.7 (YoY) หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน แต่ยังมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัวดี อาทิ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 65.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เม็กซิโก สหราชอาณาจักร และสิงคโปร์)
อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ขยายตัวร้อยละ 83.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เวียดนาม อินเดีย ตุรกีและแคนาดา) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 8.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดเบลเยียม ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ เวียดนาม และอิตาลี) เครื่องใช้สำหรับเดินทาง ขยายตัวร้อยละ 56.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง)
ตลาดส่งออกสำคัญ การส่งออกไปยังตลาดสำคัญในภาพรวมยังหดตัวต่อเนื่อง ตามการลดลงของอุปสงค์จากประเทศคู่ค้า ซึ่งสอดคล้องกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจการค้าโลก
แนวโน้มการส่งออกระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกของไทยในปี 2566 โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก อาทิ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศยูโรโซน ที่ชะลอตัวลงจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ
เศรษฐกิจของตลาดเป้าหมายการส่งออกยังคงเติบโตได้ดี อาทิ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และ อาเซียน รวมถึงการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของจีน จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการส่งออกไทย ประกอบกับค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มกลับสู่ภาวะสมดุล อย่างไรก็ดีมีปัจจัยที่จะต้องติดตาม อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด (สหรัฐ-จีน-ไต้หวัน หรือรัสเซีย-ยูเครน)
สร้างอุปสรรคด้านการค้าและความเสี่ยงต่อปัญหาห่วงโซ่อุปทาน แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้ากับความสามารถในการปรับตัวของผู้ส่งออกไทยเพื่อรับมือระเบียบการค้าใหม่ ๆ -report
โฆษณา