27 มี.ค. 2023 เวลา 05:05 • ข่าวรอบโลก
Russia

สีจิ้นผิงได้อะไรจากการเยือนรัสเซีย - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

หากมองจากมุมของสีจิ้นผิง การเยือนรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่ได้ ไม่มีเสีย อย่างแย่สุดก็เสมอตัว อย่างดีสุดอาจปูทางให้จีนเล่นบทคนกลางยุติสงครามได้เมื่อเวลาสุกงอม
ที่ว่าอย่างแย่สุดก็เสมอตัวนั้น เพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และยุโรปไม่ว่าอย่างไรก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ทางเดียวที่จะแย่ไปมากกว่าคือจีนส่งอาวุธช่วยรัสเซีย หรือเข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่รัสเซีย ซึ่งจีนก็ไม่ทำอยู่แล้ว
การเยือนรัสเซียของสีจิ้นผิงในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงจุดยืนของจีนเกี่ยวกับสงครามยูเครน กล่าวคือจีนไม่สนับสนุนแต่ก็ไม่ประณามรัสเซีย เห็นใจยูเครน และโทษสหรัฐฯ ว่าเป็นคนราดน้ำมันลงบนกองเพลิง
1
ในแถลงการณ์ร่วมกันหลังการประชุม เนื้อหาในส่วนของสงครามยูเครนเรียกได้ว่าคัดลอกมาจากจุดยืนเดิมของจีน โดยอธิบายว่าจีนเป็นกลางไม่เข้าข้างใคร พร้อมเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อ มองว่าปัญหาหลักคือการรุกคืบของนาโต้
แต่ก็เรียกร้องให้ต้องเคารพกฎบัตรยูเอ็นและอธิปไตยของดินแดน ส่วนรัสเซียก็เพียงแถลงว่าเข้าใจและยอมรับจุดยืนที่เป็นกลางเหล่านี้ของจีน
แถลงการณ์ส่วนที่เหลือล้วนเป็นเรื่องความร่วมมือทางเศรษฐกิจ คนที่มองลบก็มองว่ารัสเซียกลายมาต้องพึ่งพิงจีนในทุกๆ เรื่อง เพราะรัสเซียไม่เหลือทางเลือกอื่น มีนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า
ครั้งนี้ยังไม่มีการปิดดีลโครงการท่อก๊าซจากไซบีเรียที่จะลำเลียงพลังงานจากรัสเซียมาขายให้จีน บอกเพียงว่าทั้งสองฝ่ายจะเร่งศึกษาโครงการ มีข่าวลือซุบซิบว่าสงสัยรัสเซียจะถูกจีนกดราคาอยู่ จึงยังตกลงราคาซื้อขายสุดท้ายกันไม่ได้
แต่คนที่มองเป็นบวกต่อรัสเซีย มองว่าแม้เศรษฐกิจรัสเซียจะไม่ดีเพราะถูกตะวันตกคว่ำบาตร แต่ด้วยการช่วยเหลือจากจีน ทำให้รัสเซียไม่ตายและไม่พัง แถมทั้งสองประเทศมีเศรษฐกิจที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน รัสเซียมีพลังงาน ส่วนจีนต้องการพลังงาน จีนเป็นโรงงานโลกผลิตข้าวของเครื่องใช้ทุกชนิด ส่วนรัสเซียนั้นตะวันตกไม่ขายของให้ ก็ได้สินค้าจากจีนเข้าไปทดแทน
ตอนที่จะลาจากกัน สีจิ้นผิงพูดกับปูตินว่า โลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปี และพวกเราทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนั้น มีคนถามว่าแปลความอย่างไรดี
6
ความหมายของสีจิ้นผิงก็คือ โลกกำลังเปลี่ยนจากยุคการนำเดี่ยวของสหรัฐฯ มาเป็นโลกหลายขั้ว ความหมายไม่ใช่ว่าจีนและรัสเซียจะมาแทนที่สหรัฐฯ และตะวันตกในฐานะผู้นำโลก แต่ผู้นำอย่างสหรัฐฯ และตะวันตกก็ไม่สามารถทุบจีนและรัสเซียให้พังลงไปได้
2
สุดท้ายถึงจุดหนึ่งก็ต้องยอมรับและหาทางอยู่ร่วมกับขั้วอำนาจที่แตกต่างทางอุดมการณ์ความคิดกับสหรัฐฯ และตะวันตก
สหรัฐฯ และตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อปูติน แน่นอนว่าเศรษฐกิจรัสเซียไม่สดใสเหมือนเดิม แต่ในขณะเดียวกัน รัสเซียก็ไม่ตายไม่เจ๊งไม่พังดังที่สหรัฐฯ และตะวันตกคาดหวังเช่นกัน เพราะรัสเซียเป็นประเทศที่มีทรัพยากรและพลังงานมหาศาล เลี้ยงตัวเองได้ แถมยังมีมหามิตรยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจอย่างจีนที่พร้อมเอาสินค้าและเทคโนโลยีจีนเข้าไปแทนที่สินค้าและเทคโนโลยีสหรัฐฯ และตะวันตก
ในคำแถลงร่วมกันนั้น ชัดเจนว่าเทคโนโลยีสื่อสารและเทคโนโลยีดิจิทัลของจีนจะเข้าไปบุกตลาดในรัสเซีย แถมรัสเซียยังประกาศจะใช้เงินหยวนในการค้าขายในเวทีโลก ซึ่งย่อมเพิ่มความแข็งแกร่งและความเป็นนานาชาติให้กับสกุลเงินหยวน แน่นอนครับว่าไม่ได้ทำให้ดอลล่าร์ล้มหรือเปลี่ยนสถานะของดอลล่าร์ที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก แต่หยวนก็โดดเด่นขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน
1
จีนกับรัสเซียจึงเป็นหุ้นส่วนสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ หากทั้งสองประเทศเชื่อมโยงกันมากขึ้นและเสริมสิ่งที่ต่างคนต่างขาดซึ่งกันและกัน ทั้งสองก็จะยืนหยัดได้ท่ามกลางการปิดล้อมและกดดันจากตะวันตก แน่นอนว่าเศรษฐกิจอาจไม่ได้รุ่งเรืองสดใสเหมือนตอนที่ค้าขายได้ในตลาดสหรัฐฯ และตะวันตกอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นพังพินาศจนอยู่ไม่ได้แบบที่เคยโดนเมื่อถูกตะวันตกกดดันในยุคสงครามเย็นรอบที่แล้ว
หากอ่านจากแถลงการณ์ร่วม ภาพความสัมพันธ์จีนและรัสเซียไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้าทริปครั้งนี้ จีนยังคงไม่ได้ร่วมรบและไม่ได้ส่งอาวุธช่วยรัสเซีย ขณะเดียวกันก็ยังคงจะสนับสนุนและยกระดับความเชื่อมโยงกับรัสเซียในทางเศรษฐกิจ แต่คำถามที่อยู่ในใจหลายคนก็คือ การพบกันครั้งนี้มีโอกาสที่จะนำไปสู่การที่จีนเล่นบทบาทท้าวมาลีวราช (คนกลางผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง) หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้จีนเล่นใหญ่เป็นกาวใจระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิหร่านมาแล้ว
1
คำตอบก็คือ มีโอกาส และจีนย่อมหวังแน่ที่จะเล่นบทบาทนี้ ซึ่งย่อมจะสร้างภาพผู้นำโลกให้แก่จีน แม้ตอนนี้โอกาสสำเร็จจะดูริบหรี่ เพราะทั้งรัสเซียและยูเครนต่างคิดว่าทนอึดกับสงครามมาถึงจุดนี้แล้ว จะเลิกล้มกลางครันได้อย่างไร แต่ยิ่งเวลาผ่านนานขึ้นไปอีก โอกาสที่ทุกคนจะเรียกร้องหาทางลงก็มีแต่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ
1
ตอนนี้สีจิ้นผิงเป็นคนเดียวที่ได้ไปรับฟังเงื่อนไขและแลกเปลี่ยนความคิดกับปูตินว่าเขาน่าจะพอยอมรับการยุติสงครามภายใต้เงื่อนไขใดได้บ้าง เขาคงนำสารดังกล่าวไปสื่อสารกับเซเลนสกี้ (สีจิ้นผิงกับเซเลนสกี้มีข่าวว่าจะมีการต่อสายถึงกันเร็วๆ นี้)
1
ที่บอกว่า ยิ่งเวลาผ่านไป ทุกฝ่ายยิ่งต้องหาทางลง โดยเฉพาะยูเครน เพราะคำถามจะดังขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนจากตะวันตกว่าจะคงทนถาวรเพียงใด ถึงจุดหนึ่งสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปจะมีการเลือกตั้งเปลี่ยนผู้นำ แล้วภายหลังการเปลี่ยนขั้วการเมืองจะยังคงสนับสนุนยูเครนได้อย่างเต็มที่ดังเดิมอีกหรือไม่ (ในขณะที่ฝั่งปูตินและสีจิ้นผิงจะยังครองอำนาจยาวนาน)
5
ปัจจัยเหล่านี้ทางฝั่งยูเครนเองก็คงต้องชั่งน้ำหนักและเริ่มมองหาทางลงเมื่อถึงจุดหนึ่ง ซึ่งคนเดียวที่ปูทางเริ่มต้นพร้อมเป็นคนกลางให้ก็คือจีน
1
โฆษณา