30 มี.ค. 2023 เวลา 11:48 • นิยาย เรื่องสั้น

จากลา

ควันบุหรี่พวยพุ่งไปในอากาศกลายเป็นกลุ่มก้อนสีเทาลอยคละคลุ้งอยู่เบื้องหน้า เสียงเทียมของสายน้ำไหลผ่านเสียงเพลงที่ถูกเปิดยุค90ที่ผ่านมาเป็นยุคที่มีเพลงเพราะๆมากมายไกลออกไปยังนกที่ส่งเสียงร้องให้ได้ยินอยู่ไกลๆ อากาศทยอยร้อนขึ้นตลอดทุั้งวันพัดลมอาจจะเป็นหนึ่งตัวเลือกช่วยบรรเทาความร้อนของฤดูร้อนปีนี้ให้ยังพอผ่านกันไปได้ เปรี้ยวเล็กๆติดอยู่ปลายลิ้นจากน้ำมะนาวเย็นๆช่วยทำให้ชุ่มคอช่วยให้ผ่อนคลาย พนักไม้แข็งๆด้านหลังพิงแล้วทำให้รู้สึกมั่นคงและมั่นใจได้ว่าจะไม่หงายหลังไปแน่ๆ
บทสนทนาระหว่างผมกับหมอคนนึงจบอย่างเป็นทางการ เป็นการพูดคุยกันครั้งสุดท้ายก่อนที่หมอจะไปเรียนต่อ ผมไม่มีสติทันพอที่จะรู้มันแต่เพลินกับการพูดคุยลืมไปว่ามันคือครั้งสุดท้ายละนะ สุดท้ายจริงๆนะมารู้ตัวอีกทีตอนที่มาเห็นใบนัดชื่อหมอที่นัดเปลี่ยนไปแล้ว ความเศร้าปะปนกับความไม่ชอบใจสุมอกครั้งสุดท้ายเหรอเนี่ย กว่าจะรู้ก็สายทำไรไม่ได้แม้แต่จะกล่าวขอบคุณ
เป็นบทสนทนาที่มีความสุขและสนุกเราพูดคุยถึงอาการของผม หมอควมคุมยาระงับอาการเพื่อที่จะให้ผมช่วยตัวเองมากกว่าที่จะใช้ยานั่นเป็นความคิดที่ถูกนำมาใช้ก่อนหน้านี้กว่า3เดือนแล้วไม่เคยต้องกังวลว่ายาจะหมดจนมันใกล้จะหมด เหมือนกับไม่ได้เห็นคุณค่าของอะไรก็ตามจะเห็นก็ต่อเมือมันใกล้จะหมดหรือสูญเสียมันไปแล้ว มองอีกทีเป็นการปล่อยมือจากพื้นที่ปลอดภัยออกไปเติบโตบนโลกแห่งความจริงที่ไม่ใช่โรงพยาบาล
แน่นอนว่าความหดหู่ต้องมาเป็นอับดับต้นๆของความรู้สึกผมเองก็ไม่แคล้วโดนเข้าเต็มๆถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึก ถึงจะผ่านมาแล้วแต่ก็เพิ่งไม่กี่วัน
ความรู้สึกหดหู่ยังคงไม่ผ่านไปหากแต่แวะให้ใจรู้สึกถึงสิ่งสำคัญที่สูญเสียไปให้ได้รับรู้ถึงความสำคัญของปัจจุบัน ปัจจุบันเป็นสิ่งเดียวที่อยู่กับเราตลอดเวลา ไม่ใช่ผม ไม่ใช่คุณ ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่อะไรเลย มีแค่ความรู้สึกถึงสัมผัสที่กระทบไม่ว่าทาง กาย หรือใจ ความหดหู่ที่เกิดขึ้นและยังคงอยู่ตอนนี้เอิบอิ่มกับมันซ่ะ รู้ให้พอรับความหดหู่นั้นดุจมิตรสหายที่ห่างหายกันไปนานรับรู้ซึมซับความรู้สึกก่อนที่หดหู่จะจากไป
ไม่มีสิ่งใดอยู่กับเราไปตลอดการพลัดพรากจักต้องมีมากับทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นอะไร ยาที่ใกล้จะหมดเตือนให้เราระวังการใช้ชีวิต
สิ่งใดก็ตามที่จะกระตุ้นให้เกิดอาการมีเหตุผลอันสมควรให้หลีกเลี่ยงไม่ว่าจะเป็นอะไร ชอบแค่ไหน ติดแค่ไหนก็ต้องลดต้องละเพราะถ้ายาหมดก่อนนัดนั่นคงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ ความเห็นแก่ตัวจักต้องมีมาเวลานี้อะไรก็ตามที่ทำร้ายตัวเองหลีกให้พ้น หนีได้หนีอย่าเผชิญหน้ากระบี่ไม่ได้ลับคมอย่าเพิ่งอออกศึกฉันใดใจที่ฝึกมาไม่ดีพออย่าเพิ่งไปรับอารมณ์ของอะไรที่ทำร้ายใจ “สู้ไม่ได้ก็ตั้งรับ ตั้งรับไปได้ถอย ถอยไม่ได้หนี หนีไม่ได้ยอมจำนน (ไม่อยากพูดเลยว่า) ยอมจำนนไม่ได้ก็ตายซ่ะ” เป็นหนึ่งในคำคมของสุมาอี้
บทสนทนาครั้งสุดท้ายเป็นเครื่องย้ำเตือนให้คำนึงถึงการจากลานั้นมีจริงกับความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั้งกับสิ่งของ อารมณ์ ความรู้สึก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามาแล้วเรียนรู้ ยอมรับ ทำความเข้าใจ และดื่มด่ำมันให้พอมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้รู้อิ่มพอที่จะรู้สึกพร้อมที่จะปล่อยวางเมื่อต้องสูญเสียมันไปในเมื่อไหร่ก็ตาม ทำทุกครั้งที่รู้นั่นอิ่มอยู่เสมอ
เวลาที่เราอิ่มเราจะไม่ต้องการอาหารอีกต่อให้เป็นหมูกระทะก็ตามที จักต้องมีวันเลิกลาจากกันไป การที่ใจอิ่มและจะไม่ต้องการอะไรอีกไม่ว่าจะความรู้สึกไหนก็ตาม สุข ทุกข์
เรื่องราวของผมและหมอคนนี้อาจจะถึงเวลาแล้วแต่ก็ยังอยากกล่าวคำขอบคุณอยู่แต่ก็นั่นแหล่ะ ผมจำต้องท่องประโยคต่อไปนี้ให้ขึ้นใจแล้วยอมรับให้ได้
“ฉันทำธุระของฉัน เธอทำธุระของเธอ…. ฉันไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เพื่อทำตามความต้องการของเธอ… เธอก็ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ตามความต้องการของฉันเช่นกัน… เธอก็เป็นเธอ ฉันก็เป็นฉัน… หากเราบังเอิญได้มาเจอกัน นั่นถือเป็นสิ่งวิเศษ… หากเราไม่ได้พบกัน นั่นก็เป็นเรื่องสุดวิสัย”
ผมไม่ได้เป็นคนคิดประโยคนี้หากแต่อ่านเจอในหนังสือ “ฉายเดี่ยว 22วิธีเติมพลังชีวิต สนิทกับตัวเอง” เขียนโดย Yoshihiko Morotomi สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ปี2554 แนะนำให้อ่านครับ ผมเองอ่านไปหลายรอบทีเดียว ผมไม่ได้เป็นคนฉลาดมากนักแต่ผมชอบอ่านและวันนี้สิ่งที่เคยอ่านเจอได้นำกลับมาใช้ในชีวิตจริงตอนนี้
จากนี้ผมคงอ่านให้มากขึ้นเรียนรู้ให้มากขึ้นเพราะสิ่งเหล่านี้วันหนึ่งอาจได้ใช้เหมือนเหตุการณ์นี้ อย่างที่บอกไม่ว่าอะไรก็ตามอิ่มกับสิ่งนั้น อิ่มกับปัจจุบันของคุณตอนนี้เดี๋ยวนี้โอกาสมีแค่ตอนนี้เท่านั้นจากนี้มันจะเปลี่ยนไปแล้วจะสุข ทุกข์ หรือเฉยๆรับรู้และสัมผัสจนอิ่ม และพอ เมื่อมันหมดหรือเปลี่ยนไปจะได้ไม่กลับมานึกเสียดายทีหลัง อะไรที่ทำได้ตอนนี้ทำซ่ะ ไม่เป็นไรหากจะมีอะไรที่ทำไม่ได้บอกตัวเองไม่ต้องเสียใจเราทำดีที่สุดแล้ว และอิ่มแล้วกับวันนี้
โฆษณา