Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
JEENTHAINEWS
•
ติดตาม
31 มี.ค. 2023 เวลา 07:45 • ไลฟ์สไตล์
จิบชาคุยจีน สารพันเรื่องราวครบรส ของบรีม สาวไทยเจ้าของช่อง “สะใภ้ไชน่า”
หากถามว่าคุณรู้จักอินฟลูฯ ที่ชื่อ “บรีม” ไหม หลายคนอาจจะทำหน้างง แต่หากเอ่ยถึงสโลแกน “หนีห่าว หนาว…” แล้ว ผู้ใช้งาน Tiktok ทั้งหลายคงร้องอ๋อกันยาวๆ #จิบชาคุยจีน รอบนี้เราจะพาผู้อ่านไปสำรวจเรื่องราวการทำงาน สิ่งละอันพันละน้อย และมุมมองการใช้ชีวิตในแบบของคุณบรีม สาวไทยเจ้าของช่อง “สะใภ้ไชน่า” ที่มักพาแฟนเพจปีนกำแพงเมืองจีนไปเปิดโลกแดนมังกรผ่านเรื่องราวที่สดใหม่และเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
มุมมองต่อคนจีนและการทำงานที่จีน
บรีมซึ่งอยู่หว่างการไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดกับครอบครัว เล่าย้อนให้จีนไทยนิวส์ฟังเกี่ยวกับชีวิตวัยเรียนที่จับพลัดจับผลูจากเด็กสายวิทย์-คณิตจนมาเรียนภาษาจีนและได้พบรักกับสามีในปัจจุบัน เมื่อถามถึงการปรับตัวช่วงที่ต้องทำงานร่วมกับคนจีน
บรีมเล่าว่า เธอคุ้นชินกับคนจีน โดยที่ไม่ได้มีอคติว่าคนจีนแปลกประหลาด เพราะเคยเรียนกับครูจีนและเคยไปทำงานที่จีนมาก่อน แต่ก่อนที่จะเข้าใจความเป็นคนจีนนั้นเธอก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ “อิหยังวะ” มาบ้างเหมือนกัน เช่น ทำไมต้องเสียงดังโวยวาย บุกมาถึงห้องเรียน หรือมาแคมจัดปิ้งในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น
แต่สุดท้ายเธอก็มีคำอธิบายให้พฤติกรรมเหล่านี้ หลังหันกลับมามองอีกมุมว่าคนไทยหรือฝรั่งเอง เมื่อไปต่างประเทศก็มีพฤติกรรมแปลกสำหรับคนในท้องถิ่นที่เราเองอาจไม่รู้ตัวเช่นกัน
เราถามต่อว่า แล้วบรีมเริ่มเข้าใจคนจีนจริงๆ ตอนไหน เธอก็ตอบว่า ตอนทำงานกับคนจีนเพราะช่วงฝึกงาน เธอทำวิดีโอสั้นเกี่ยวกับการแต่งหน้าลงโซเชียลมีเดียจีน จนมีเอเจนซี่จีนมาติดต่อและแนะนำให้เธอเป็นไลฟ์ขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทยในจีน ซึ่งต้องพูดภาษาจีนทั้งคลิป เรื่องนี้ทำให้บรีมซึ่งเรียนจบสาขารัฐศาสตร์มาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า ควรจะไปทำสายงานราชการหรือไปทำงานนี้ที่จีนดี
“บรีมคิดว่าในอายุ 21-22 ปี ถ้าลองไปต่างประเทศแล้วไม่รอด กลับมาอายุก็ยังไม่เกิน 25 ปี ก็ตัดสินใจไป แล้วเขาก็เสนอฐานเงินเดือนมาค่อนข้างดี ตอนอยู่ที่ไทย เขาก็ลงทุนให้เรามีสตูดิโอที่ไทย”
บรีมเล่าว่าช่วงแรกที่ไปจีนเธอก็แค่อยากลองไปสำรวจดูตลาดเฉยๆ พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็มีการจ้างงานเยอะขึ้นและมีการเซ็นสัญญารายปี แต่เมื่อเครื่องสำอางเกาหลีเริ่มได้รับความนิยมมากกว่าเครื่องสำอางไทย เธอก็ได้รับการสนับสนุนน้อยลง ประจวบกับช่วงนั้นเธอก็อยากกลับไทยด้วย จึงไม่ต่อสัญญาและบินกลับมาไทย
ติดอยู่ที่จีนช่วงโควิด-19 ระบาด
ตามธรรมเนียมจีนแล้ว หลังจากแต่งงานปีแรก เธอและสามีจะต้องไปอยู่บ้านพ่อแม่สามีก่อน ช่วงตรุษจีนบรีมเลยเดินทางกลับจีน แต่กลับต้องผิดแผนเพราะโควิด-19 เริ่มระบาดหนักในจีนพอดี แถมจังหวะที่ย้ายไปอยู่บ้านสามีที่เมืองเหิงเตี้ยน พ่อแม่เขาก็ย้ายออกจากบ้านไปพอดี “เราเลยอยู่กันแค่ 2 คนแบบเหงาๆ งงๆ คือเราคิดว่าจะล็อกดาวน์แค่ 1-2 เดือน แต่ดันลากยาวไปถึง 3 ปี”
เมื่อบรีมเปรยเรื่องการกักตัวในจีน เราจึงขอให้เธอเล่าต่อถึงช่วงเวลานั้นว่าทำอะไรบ้าง ซึ่งเธอก็เล่าอย่างติดตลกว่า “ช่วงโควิดอะ เหงา เพราะไม่มีคนคุยด้วย โทรหาเพื่อนที่ไทย ทุกคนก็ไม่รู้ว่าเหงาอะไร แต่ช่วงนั้นบรีมไม่รู้สึกกลัวเลย เพราะว่าทุกอย่างรัฐทำให้เราอุ่นใจ มีบอกจำนวนผู้ป่วยชัดเจน” และเล่าว่าคนจีนไม่ได้ตั้งคำถามต่อมาตรการของรัฐบาลดังที่เธอคิด เช่น เมื่อเธอถามว่าทำไมต้องล็อกดาวน์ด้วย ก็จะได้คำตอบอย่างจริงจังว่า เราอดทนแค่เดือนสองเดือน เพื่อให้ลูกหลานให้มนุษย์มีเจเนเรชั่นต่อไปอีก 100 ปี
หลากหลายดราม่าและวิธีการรับมือ
เชื่อว่าหลายคนที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ไม่มีใครไม่เจอดราม่า บรีมเองก็เช่นกัน เมื่อถามว่ามีเรื่องไหนที่จำไม่ลืมบ้างเธอตอบว่า “มันมีบ่อยมาก
แต่ส่วนมากบรีมจะจบปัญหาด้วยความรวดเร็ว เช่น ขอโทษไปเลย แล้วจะกดซ่อนคลิปให้ ถ้ามันกระทบจิตใจคนจริงๆ เพราะบรีมต้องการ community และบรีม admire ลูกเพจที่ติดตามทุกคน” บรีมเล่าต่อว่าเคสที่เธอเคยเจอ ได้แก่ คอมเมนต์ว่าไม่มีความรู้ ดูบ้านๆ สะเหล่อ ซึ่งเธอก็เข้าใจว่าด้วยภาพลักษณ์และตัวตนที่เธอนำเสนอคอนเทนต์สนุกสนานคลายเครียดให้ลูกเพจทำให้คนเข้าใจว่าเธอไม่มีความรู้ “พูดจาไม่มีมารยาทสมกับเป็นสะใภ้จีนเลย” นี่คือหนึ่งในคอมเมนต์เชิงลบที่ซ้อบรีมแชร์ให้จีนไทยนิวส์ฟัง
สำหรับประเด็นดราม่าว่าด้วยภาพลักษณ์หลายอย่างของจีนที่ค่อนข้างไปในเชิงลบ บรีมมองว่า อาจเพราะมุมมองของคนไทยบางกลุ่มยังไม่มีความเข้าใจวัฒนธรรม รวมถึงการเมืองการปกครองของจีนมากนัก และคงจะดีหากเธอเป็นส่วนหนึ่งที่ได้แบ่งปันข้อมูลและข่าวสารที่มีประโยชน์ให้ทุกคนได้เข้าใจจีนและกระทั่งเข้าใจโลก
ที่มาของสโลแกนติดหูและไอเดียทำคอนเทนต์
ตอนนั้นบรีมกำลังจะย้ายไปอยู่จีนหลังแฟนขอแต่งงาน รวมถึงเธอเองมีความตั้งใจที่จะเล่าเรื่องเมืองจีนอยู่แล้ว บวกกับช่วงนั้นยังไม่มีชื่อเพจ “สะใภ้+ประเทศ” มากดังเช่นปัจจุบัน จึงจบที่คำว่า “สะใภ้ไชน่า” ซึ่งฟังดูแล้วเข้าปากดี ส่วนคำทักทายตอนเปิดคลิปแสนติดหูอย่าง “หนีห่าว หนาว…” นั้น มีที่มาจากประโยคติดปากที่ชอบใช้กันในกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนภาษาจีน
แน่นอนว่าเคล็ดลับการคิดคอนเทนต์อย่างไรให้น่าสนใจและ ‘ไม่ตัน’ เป็นหัวข้ออันดับต้นๆ ที่ทีมงานเราลิสต์ไว้ก่อนการสัมภาษณ์ ซึ่งคำตอบแบบเรียลๆ ตรงๆ
จากบรีมก็ทำทีมงานจีนไทยนิวส์ถึงกับขำออกเสียง “ไม่มีตันค่ะ มีแต่ไม่อยากทำเลย คิดว่าถ้าถูกรางวัลที่หนึ่งจะหายไปอย่างเงียบๆ จะรวยเงียบๆ คนเดียว” เนื่องจากบางช่วงเธอก็ยุ่งกับธุรกิจส่วนตัวจนไม่มีเวลาถ่ายและตัดต่อคลิป แต่ซ้อบรีมคนเก่งกลับค้นพบว่าทุกครั้งที่เธอเครียดกับงาน กับธุรกิจ หรือเรื่องใดก็ตาม การตัดคลิปนี่ละคือการพักผ่อน
เนื้อหาในคลิปของเธอส่วนมากจะไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทุกคลิปคือส่วนหนึ่งของตัวตน จึงไม่ได้รู้สึกว่าต้องพยายามสร้างคอนเทนต์เพื่อเรียกยอดผู้ติดตามขนาดนั้น เนื้อหาจึงเป็นการแชร์และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเธอเสียมากกว่า
บรีมเสริมว่าเนื่องจากเธอเคยทำงานเกี่ยวกับการไลฟ์สดและการผลิตคอนเทนต์ในจีนมาก่อน และคิดว่าอัลกอริธึมในสมัยหลายปีก่อนกับปัจจุบันไม่ได้ต่างกันมากนัก หากอยากมีคนติดตามก็ควรทำคอนเทนต์ที่มีแนวทางชัดเจนแบบเดิมๆ ซ้ำๆ “แต่บรีมเป็นคนเบื่อง่าย ดังนั้นบรีมจะไม่ทำสิ่งนี้เพื่อผู้ติดตามแน่นอน บรีมไม่ได้อยากมีผู้ติดตามเยอะโดยที่มันไม่ใช่ตัวตนของเรา” คำตอบสมกับเป็นซ้อบรีมแห่งสะใภ้ไชน่า
เนื้อหาในช่องสะใภ้ไชน่า นอกจากจะเป็นเรื่องราวไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว แชร์ชีวิตประจำวันของซ้อบรีมแล้วนั้น ยังมีเรื่องของวัฒนธรรมและความรู้ที่เปิดโลกให้ผู้ชมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว บรีมเสริมให้เราฟังว่าว่าคนจีนขยัน อดทน รวดเร็วฉับไว และประสิทธิภาพการทำงานสูงมาก รวมถึงทุ่มทุนกับการตลาดมาก เพราะมองว่านี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ
ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังมีชื่อเสียง
“ตลกตรงที่คนจะจำชื่อบรีมไม่ค่อยได้ แต่จำหนีห่าวหนาว…ได้” คุณบรีมตอบคำถามพร้อมเรียกเสียงหัวเราะให้เราอีกครั้ง
บางคนเจอหน้าเธอก็ทักด้วยสโลแกนแทนการเรียกชื่อ หรือบางคนก็จำชื่อลูกของเธอได้แต่จำชื่อเธอผิด ซึ่งบรีมก็ไม่ได้ถือสาอะไร เธอมองว่าวันหนึ่งที่เธอตายไป คนก็คงจะลืมชื่อของเธออยู่ดี สิ่งที่มีความหมายต่อคนอื่นและตัวเธอคือเนื้อหา เกร็ดความรู้ และเรื่องราวเปิดโลกที่เธอแชร์ต่างหาก “ขอแค่เปิดใจ คุณก็จะได้รับความรู้ใหม่ๆ” ตบท้ายอีกเล็กน้อยว่า เดี๋ยวนี้เธอออกจากบ้านต้องแต่งหน้าแล้ว เพราะยังไงก็เจอคนรู้จักแน่นอน
จีนไทยนิวส์แอบซอกแซกเรื่องฐานแฟนคลับ จนทราบว่าลูกเพจสะใภ้ไชน่ามีมากมายหลากหลายทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กอายุ 12-13 ปี ไปจนถึงรุ่นใหญ่วัยสูงอายุ มีทั้งกลุ่มคนรักอาหารจีน ชอบซีรีส์จีน ชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภาษาจีน เรียกได้ว่าแฟนคลับของบรีมมีครบเกือบทุกหมวดหมู่
“ชีวิตของเราก็คือชีวิตของเรา”
เมื่อถูกถามถึงบทบาทที่เปลี่ยนไปหลังกลายมาเป็น “สะใภ้ไชน่า” รวมถึงคุณแม่ลูกหนึ่ง เธอมองว่าเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สำหรับเธอ เธอหวังเพียงได้ใช้ชีวิตไปจนสิ้นอายุขัยแบบยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ไม่พึ่งพาสามีอย่างเดียว ซึ่งใครใคร่จะใช้ชีวิตสวยหรู พึ่งพาสามีสายเปย์ก็ถือเป็นความพึงพอใจที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เราไม่ตัดสินกัน แต่สำหรับ working woman อย่างเธอแล้วนั้น การทำงานหนักถือเป็นความสุขและเป้าหมายของชีวิตเธอ
สามคำให้เพจ “สะใภ้ไชน่า”
สะใภ้ไชน่าเปรียบดั่งชุมชนหนึ่งที่ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนหรือพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเบาสมอง แชร์ความรู้ หรือแทรกสาระด้านการทำงาน เช่น การขายสินค้า การตลาด การนำเข้าส่งออก นั่นคือเป้าประสงค์หลักที่บรีมทำเพจนี้ขึ้นมา และผู้ติดตามหลายคนก็รู้จักเธอในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตและทำงานในประเทศจีน หากจะให้สามคำมานิยามชีวิตของเธอนั้นบรีมคิดว่าคงจะเป็นคำว่า “สู้-ชี-วิต” ส่วนสามคำสำหรับลูกเพจของเธอก็คือคำว่า “มา-เปิด-โลก”
_______________________________________________________
📌 ใครสนใจชมคลิปบรรยากาศการสัมภาษณ์ จิ้มที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย!
EP.1
tiktok.com
jeenthainews.com on TikTok
EP 1/2 สารพันเรื่องราวครบรสของ บรีม สาวไทยเจ้าของช่อง ”สะใภ้ไชน่า” #สะใภ้จีน #สะใภ้ไชน่า #jeenthainews
EP.1
tiktok.com
jeenthainews.com on TikTok
EP 2/2 สารพันเรื่องราวครบรสของ บรีม สาวไทยเจ้าของช่อง ”สะใภ้ไชน่า” #สะใภ้จีน #สะใภ้ไชน่า #jeenthainews
ไลฟ์สไตล์
จีน
ข่าวรอบโลก
บันทึก
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย