2 เม.ย. 2023 เวลา 11:32 • ไลฟ์สไตล์
ก่อนตอบคำถาม !
อายุ 20 ปี เพิ่งผ่านอายุ 19 Nineteen >>>มา20 Twenty แล้ว
หลุดจากTeen วัยรุ่นมาเป็นผู้ใหญ่ได้ 1 ปี
เอ้า! ตกลงกันว่า หนูไม่ใช่หนูเด็กวัยรุ่นแล้ว แต่เป็นหนูตัวใหญ่ เป็นเด็กโต หรือ
ที่เรียกว่า เป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะแบบผู้ใหญ่แล้ว
เอาละ คราวนี้เริ่ม เข้าประเด็นกัน วัยนี้อาจต้องเดินทางอีกปรมาณ 2 ปีจึงจะจบ
ปริญญาตรีที่ประมาณ 22 และหรือถ้าเป็นสายอาชีพ ก็จะต้องเข้าสู่วัยทำงาน
แบบพื้นฐานวิชาชีพ
ถ้าถามว่าอยากทำอะไรตอนอายุ 20 ผมเคยไปหาประสบการณ์ระหว่าง
เรียนปริญญาตรี ไปเป็นคนฝึกทำงานในโรงแรม4 ดาวด้านสำนักงาน
ฝ่ายบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตอนนั้นทั้งตัวเองก็อยากเรียนรู้ว่าไอ้ที่เขาเรียกงานโรงแรมมันมีแนวธุรกิจเป็นอย่างไร เขาทำอะไรกัน และทำไมจึงเรียก
โรงแรม 2 3 4 5 ดาว โชคดีที่ความอยากเรียนรู้กับความต้องการของโรงแรม
เจอกันในงาน ตลาดแรงงานพอดี ไม่มีตำแหน่งงานที่จะรับแต่เดินเข้าไปสมัคร
เป็นผู้ช่วย ในสมัยโบราณาเขาเรียก ผู้ช่วยเหลือ หมายถึงมีงานอะไรที่ล้นมือเขาก็ให้เราช่วยทุกอย่าง ในฝ่าย เพราะยังไม่จบปริญญาตรี เขาก็ตั้งใจรับที่ยังไม่จบ
แบบรับให้เข้าไปช่วยแบบฝึกทำ ฝึกปฏิบัติงาน
เมื่อก่อนเจอคำว่า กล้าเข้ามาสมัคร ก็กล้ารับ เพราะเขาสัมภาษณ์พูดคุยและ
ค้นหา(แหวก ขุด ค้น หา ความสามารถแล้ว )เขาคงพบว่าน่าจะพอใช้งานได้
เขาก็เปิดโอกาสให้ได้เข้าไปทำ ยุดป้ายนี้ครับ
อยากสื่อว่า : เหมือน พี่ป้าน้าอา แสดงความคิดเห็นละครับ อันนี้ไม่ได้อยู่
ในคำถามแต่จะบอก หลักคิดคือ
หนูต้องฝึกประเมินตัวเองว่า 20 อย่างหนู SWOT
Strength จุดแข็ง ....Weak จุดอ่อน... Opportunity โอกาส...Threat อุปสรรค
เขียนในหัวแล้วมือก็ขีดเขียนตามแต่ละItems
จนรู้ตัวตน ณ อายุ 20 นี้ว่ามีอะไรดีอะไรเด่น
มีอะไรเป็นจุดตายจุด้วยจุดอ่อนแอ กำจัดจุดอ่อนด้วยออกได้หรือไม่หรือถ้าไม่ ไม่ได้เลย มีผลต่ออนาคตในระยะยาวอย่างไร ถ้าปรับแก้ได้แบบรู้ตัวก็พัฒนาเสริมจน
กลายเป็นจุดเสมอตัวหรือจุดไม่ด้วย "แบบกำจัดจุดอ่อนหรือรักษาจุดอ่อนไว้แบบไม่กระทบ จัดการกับมันได้"
 
ส่วนโอกาส ช่วงชิงจากการวิเคาระห์ความเป็นไปได้ของเราแล้ว เราทำได้ เวลานี้เหมาะสม โอกาสช่วงนี้แหละเหมาะ หรืออย่างไรที่เราจะไม่พลาดโอกาส
1
ส่วนอุปสรรค ก็พิจารณาทบทวนสอบดูว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นปัญหาที่จะทำมัน
ต้องทำอย่างไร เปลี่ยนอุปสรรคเป็นโอกาส เช่น ผมก้าวข้ามอุปสรรคที่ยังไม่จบ
เข้าไปสมัครทำงาน ขอช่วยงาน ขอทำงาน ขอใช้ศักยภาพช่วยเหลือ
มุ่งหวังเพียงแค่ประสบการณ์ นั่นคือข้ามอุปสรรคไปหาโอกาส
ชีวิตยังมีสิ่งดีรอค้นพบ อยู่อีกมากไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวเพียงแต่
ในวัยอายุ 20 ถือว่าเป็นช่วงที่ก้าวเข้าสู่วัยแห่งการทำงานบางๆแบบภาระกิจ
ไม่เต็มรูปแบบ ยังเป็นการเริ่มต้นการทำงาน แบบเพาะบ่มประสบการณ์ไม่มุ่งหวังเงิน
การมีจิตใจกระตือรือร้น และความฝันใหญ่ๆ เป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับทุกคน
ไม่ต้องลังเล แต่ทวนสอบเช็คให้มั่นใจ ว่าเป็นงานภารกิจที่ท้าทาย ทีอยากเรียนรู้และเป็นประสบการณ์ ก็ตัดสินใจภายใต้คำปรึกษาและให้คำปรึกษาของครอบครัวก่อนจะดีมากๆ การตัดสินใจหมายถึง สามารถแจ้งความประสงค์ ความอยากทำ ประโยชน์ ประสบการณ์ให้ตนเองและพ่อแม่ทราบได้แบบไม่คลุมเครือ ชัดเจน
จงเชื่อมันและศรัทธาในตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และให้ความสมดุลกับครอบครัว ไปพร้อมๆ กัน ชีวิตจะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับว่าช่วงอายุ 20-22 ปี โดยประมาณ
คิดอย่างไร และใช้ชีวิตอย่างไร เรียกว่า เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต การประสบความสำเร็จ ย่อมต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ก็ต้องเริ่มที่ก้าวแรกนั่นเพราะช่วง 20 ปีเป็นช่วงที่เปลี่ยนจากเด็กวัยรุ่นเพื่อเป็นผู้ใหญ่ นั่นเอง
คนวัย 20ปี ยังคงสนุกกับเพื่อนและมีกิจกรรมในมหาวิทยาลัย แล้วเมื่อออกมา
สู่การทำงานในโลกความจริง
สำหรับเหล่า first jober ที่เพิ่งเริ่มงานแรกแน่นอนว่ายอมยังเป็นงานระดับล่าง แต่ถ้าหากคุณทำมันโดยปราศจากเป้าหมายและการเรียนรู้ไม่นานคุณจะเบื่องาน
ต้องมีความตั้งใจและพยายามกำหนดความต้องการที่ค่อนข้างชัดเจนและมั่นคงซะหน่อย หลังผ่านไปได้ประสบการณ์นั้นๆจะส่งเสริมให้เราสามารถก้าวต่อไปที่ละขั้นได้น่าจะดีและดีขึ้นครับ
อ้อผมได้บรรจุ เพราะสามารถเรียนงาน ทำงาน ช่วยงานจนต่อยอดได้อีก 2 ปี
จบก็ได้เป็นพนักงานประจำครับ
โฆษณา