3 เม.ย. 2023 เวลา 14:25 • ความคิดเห็น
เพราะประโยคสุดท้ายที่ว่า
"ยังมีคนที่คอยเชื่อมั่นในตัวเราหรือไม่?" ทำให้คนติดกับดักความคิด ความคาดหวัง ความเชื่อ ความต้องการเป็นผู้รับจากผู้อื่น
จะก้าวผ่านไปได้ ควรตัดสภาวะที่ต้องการความเห็นใจ คาดหวังคนมองเห็น และยอมรับตัวตนของเราจากผู้อื่น
หันกลับมาอยู่กับตนเอง มองเข้ามาดูกาย ความคิด ความสามารถ ความดี ความน่ารักที่เรามี โดยปราศจากการเปรียบเทียบ และตัดสินใดๆ ทั้งสิ้น!
วิธีย้อนพิจารณาร่างกาย เช่น
- เรามีมือมีนิ้วมั้ย? หยิบจับใช้ทำงานได้
- ตาเรามองเห็นมั้ย? ดีกว่าคนอยู่ในโลกมืดที่เกิดมาไม่เคยได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ
- มีเท้ามีขาไว้เดินวิ่ง ดีกว่าคนพิการ หรือป่วยเป็นอัมพาตติดเตียง
- อวัยวะภายในอยู่ครบมั้ย? บางคนป่วยจนเสียไต เสียปอดไปข้างหนึ่ง
พิจารณาความรู้ ความสามารถ เช่น
- เราได้เรียนหนังสือมั้ย มีงานทำมั้ย? คนยากจน เด็กถูกทอดทิ้ง ผู้ลี้ภัยในสงคราม ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องได้เรียน ได้ทำงาน หลายคนยังไม่มีบ้านจะอยู่เลย 😢
คนเกิดมามีคุณค่าทุกคน อยู่ที่มุมมองของเราเอง ไม่ใช่ฟังมุมมองของคนมาด้อยค่าเรา หรือเราต้องเอาตนเองไปเปรียบเทียบคนที่มีพร้อมกว่าเราทุกด้าน จนเราต้องเชื่อตามนั้น จนรู้สึกไร้ค่า
ทำไมผู้ทรงศีลต้องไปบวชในวัดป่าไกลเมือง ไม่มีทรัพย์สิน อาภรณ์ อาหาร ความสะดวกสบายใดๆ ให้ยึดติด ไม่ต้องไปแสดงศักยภาพหารายได้ให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งที่บางคนมีความรู้สูง
คนทัศนคติแย่จะบอกว่า "คนไปบวชไม่รู้จักทำมาหากิน ขี้เกียจ ไปเกาะผ้าเหลืองสบาย" นักบวชจะต้องรู้สึกว่าตนเองด้อยค่ามั้ย?
ตรงกันข้าม ผู้ปฏิบัติดีท่านละวางจากคำกล่าวหาต่างๆ เพราะท่านรักตนเอง สลัดทิ้งเรื่องไร้สาระจอมปลอมแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคือตัวบั่นทอน ทำให้เรารักตัวเองน้อยลง
😊🤟💪❤🙏
โฆษณา