Mind control technology (Project: Mk ultra Ep. 4)
วิทยาศาสตร์ยังเป็นเรื่องที่ เราๆท่านๆ หลายคนยังสนใจ เมื่อไม่นานมานี้ มีหลายสถาบันออกมาให้ข้อมูลต่างๆ ของเรื่อง การควบคุมจิตใจ มีทั้งในด้านบวกเเละลบ
โปรดใช้วิจารณญาณมากหน่อย ในเรื่องดังกล่าว
"เพราะคุณอาจถูกควบคุมจิตใจอยู่"
บทความนี้ชุดนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีควบคุมจิตใจ
ทางผู้จัดทำ มิได้เจตนาให้ผู้ใด หรือหน่วยงานใด
เสื่อมเสีย
ต่อจากตอนที่เเล้ว
ความพยายามของ CIA ในช่วงแรกมุ่งเน้นไปที่ LSD-25 ซึ่งต่อมาได้ครอบงำโครงการของ MKUltra มากมายซีไอเอต้องการทราบว่าพวกเขาสามารถทำให้สายลับโซเวียตบกพร่องตามเจตจำนงของพวกเขาได้หรือไม่ และฝ่ายโซเวียตจะทำแบบเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ของ
ซีไอเอเองได้หรือไม่
เมื่อโครงการ MKUltra เริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน พ.ศ. 2496 การทดลองต่างๆ รวมถึงการให้ LSD แก่ผู้ป่วยทางจิต ผู้ต้องขัง ผู้ติดยา และผู้ให้บริการทางเพศ "คนที่ไม่สามารถต่อสู้กลับได้" ตามที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานคนหนึ่งกล่าวไว้ ในกรณีหนึ่ง พวกเขาให้ยา LSD แก่ผู้ป่วยทางจิตในรัฐเคนตักกี้เป็นเวลา 174 วัน พวกเขายังจัดการ LSD ให้กับพนักงาน CIA, บุคลากรทางทหาร, แพทย์, ตัวแทนรัฐบาลอื่น ๆ และสมาชิกของประชาชน
ทั่วไปเพื่อศึกษาปฏิกิริยาของพวกเขา LSD และยาอื่นๆ มักถูกให้โดยปราศจากความรู้ของอาสาสมัครหรือได้รับแจ้งความยินยอมซึ่งเป็นการละเมิดประมวลกฎหมายนูเรมเบิร์กที่สหรัฐฯ ตกลงที่จะปฏิบัติตามหลังสงครามโลกครั้งที่สอง จุดประสงค์ของสิ่งนี้คือการค้นหายาที่จะเปิดเผยคำสารภาพอย่างลึกซึ้งหรือล้างจิตใจของอาสาสมัครและตั้งโปรแกรมให้เป็น "ตัวแทนหุ่นยนต์"
ใน Operation Midnight Climax ซีไอเอได้จัดตั้งซ่องโสเภณีหลายแห่งภายในเซฟเฮาส์ของหน่วยงานในซานฟรานซิสโก เพื่อรับการเลือกผู้ชายที่จะอายเกินกว่าจะพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ชายได้รับยา LSD ซ่องโสเภณีมีกระจกส่องทางเดียวและมีการถ่ายทำเซสชันเพื่อดูและศึกษาในภายหลัง ในการทดลองอื่น ๆ ที่ผู้คนได้รับ LSD โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว พวกเขาถูกสอบ
ปากคำภายใต้แสงไฟสว่างจ้าโดยมีแพทย์อยู่เบื้องหลังจดบันทึก พวกเขาบอกอาสาสมัครว่าพวกเขาจะขยาย "การเดินทาง" หากพวกเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยความลับของพวกเขา คนที่อยู่ภายใต้การสอบสวนนี้คือพนักงานของ CIA บุคลากรทางทหารของสหรัฐฯ และสายลับที่ต้องสงสัยว่าทำงานให้อีกฝ่ายหนึ่งในสงครามเย็น อ่อนเพลียในระยะยาวและเสียชีวิตหลายรายจากสิ่งนี้ ผู้ติดเฮโรอีนถูกติดสินบนในการรับ LSD ด้วยข้อเสนอของเฮโรอีนมากขึ้น
ตามคำเชิญของสแตนฟอนักเรียนจบการศึกษาด้านจิตวิทยาวิกโลเวลล์ความใกล้ชิดของริชาร์ดอัลเพิร์และแอลเลน Ginsberg , เคนแคสซีอาสาที่จะมีส่วนร่วมในสิ่งที่จะกลายเป็นซีไอเอการศึกษา -financed ภายใต้การอุปถัมภ์ของ MKULTRA ที่ ที่Menlo Parkโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งเขาทำงานเป็นผู้ช่วยกลางคืน [54]โครงการศึกษาผลกระทบของยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งLSD , แอลเอส , มอมเมา , โคเคน , AMT และ DMT
สำนักงานความปลอดภัยใช้ LSD ในการสอบสวน แต่ Dr. Sidney Gottlieb นักเคมีที่กำกับ MKUltra มีแนวคิดอื่น: เขาคิดว่ามันสามารถนำมาใช้ในปฏิบัติการลับได้ เนื่องจากผลกระทบของยานี้มีผลชั่วคราว เขาจึงเชื่อว่าสามารถมอบให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ และด้วยวิธีนี้จะส่งผลต่อการประชุมที่สำคัญ การกล่าวสุนทรพจน์ ฯลฯ เนื่องจากเขาตระหนักว่าการทดสอบยาในห้องปฏิบัติการมีความแตกต่างกันและนำไปใช้ใน ปฏิบัติการลับ
เขาเริ่มชุดการทดลองโดยให้ LSD แก่ผู้คนในการตั้งค่า "ปกติ" โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ในตอนแรก ทุกคนในฝ่ายบริการทางเทคนิคได้ลองใช้แล้ว การทดลองทั่วไปเกี่ยวข้องกับคนสองคนในห้องที่พวกเขาสังเกตกันและกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงและจดบันทึก เมื่อการทดลองดำเนินไป ถึงจุดที่บุคคลภายนอกถูกวางยาโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ และการเดินทางด้วยกรดอย่างน่าประหลาดใจก็กลายเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อการประกอบอาชีพ
ในหมู่เจ้าหน้าที่ซีไอเอ อาการไม่พึงประสงค์มักเกิดขึ้น เช่น แพทย์คนหนึ่งที่ได้รับยาในกาแฟยามเช้าของเขา กลายเป็นคนโรคจิตและวิ่งไปทั่วกรุงวอชิงตัน โดยเห็นสัตว์ประหลาดในรถทุกคันแซงหน้าเขาไป การทดลองยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังจากที่ Frank Olson นักเคมีของกองทัพบกที่ไม่เคยรับประทาน LSD มาก่อน
ถูกผู้บังคับบัญชา CIA ของเขาให้ยาอย่างลับๆ และเก้าวันต่อมาก็กระโจนลงสู่ความตายจากหน้าต่างห้องพักในโรงแรมชั้น 13 ในนครนิวยอร์ก ของภาวะซึมเศร้าลึกที่เกิดจากยา อ้างอิงจากสตีเฟน คินเซอร์โอลสันได้เข้าหาผู้บังคับบัญชาของเขาก่อนหน้านี้ สงสัยในคุณธรรมของโครงการ และขอให้ลาออกจากซีไอเอ
การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครบางคนเป็นไปโดยสมัครใจ และในกรณีเหล่านี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกคัดแยกสำหรับการทดลองที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ในกรณีหนึ่ง อาสาสมัครเจ็ดคนในรัฐเคนตักกี้ได้รับ LSD เป็นเวลาเจ็ดสิบเจ็ดวันติดต่อกัน
นักวิจัยของ MKUltra ได้ปฏิเสธ LSD ในภายหลังว่าไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ พวกเขาเลิกคิดว่า LSD เป็น "ความลับที่จะปลดล็อกจักรวาล" แต่ก็ยังมีที่ในคลังแสงเสื้อคลุมและกริช อย่างไรก็ตาม ในปี 1962 CIA และกองทัพได้พัฒนาชุดของ super-hallucinogens เช่นBZ ที่ได้รับการขนานนามว่าสูงซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอาวุธควบคุมจิตใจ ส่งผลให้นักวิชาการและนักวิจัยเอกชนจำนวนมากถอนการสนับสนุน และการวิจัย LSD ก็มีความสำคัญน้อยลงไปโดยสิ้นเชิง
ยาอื่นๆ
อีกเทคนิคการตรวจสอบเป็นทางหลอดเลือดดำการบริหารงานของประสาทเข้าไปในแขนข้างหนึ่งและยาบ้าในอื่น ๆ ยาบ้าถูกปล่อยเข้าสู่ตัวบุคคลก่อน และทันทีที่บุคคลนั้นเริ่มผล็อยหลับไป ยาบ้าก็ถูกปล่อยออกมา บุคคลนั้นจะเริ่มพูดพล่ามอย่างไม่ต่อเนื่องกัน และบางครั้งก็เป็นไปได้ที่จะถามคำถามและรับคำตอบที่เป็นประโยชน์
การทดลองอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด , มอร์ฟีน , ยานอนหลับ (ใช้ภายใต้ชื่อรหัส MKSEARCH) มอมเมา , แอลเอส , แยกตัว , เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และโซเดียม Pentothal
การสะกดจิต
เอกสาร MKUltra ที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไประบุว่าพวกเขาศึกษาเรื่องการสะกดจิตในช่วงต้นทศวรรษ 1950 เป้าหมายในการทดลองรวมถึงการสร้าง " ความวิตกกังวลที่กระตุ้นด้วยการสะกดจิต" "ความสามารถในการเรียนรู้และจดจำการเขียนที่ซับซ้อนด้วยการ
สะกดจิต" ศึกษาการสะกดจิตและการตรวจโพลิกราฟ
"ความสามารถในการสังเกตและจดจำการจัดเรียงที่ซับซ้อนของวัตถุทางกายภาพอย่างถูกสะกดจิต" และการศึกษา "ความสัมพันธ์ของ บุคลิกภาพที่ไวต่อการสะกดจิต” ]พวกเขาทำการทดลองด้วยการสะกดจิตที่เกิดจากยาและความจำเสื่อมแบบแอนเทอโรเกรดและถอยหลังเข้าคลองในขณะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของยาดังกล่าว
โปรดติดตามต่อใน Ep. หน้า
To be continued
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
