4 เม.ย. 2023 เวลา 08:08 • ยานยนต์
ผมเองเป็นคนชอบศึกษาเรื่องรถยนต์ แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่เคยซื้อรถใหม่ป้ายแดงเลย
ผมนั่งรถเมล์และรถไฟมาตลอดเพราะการใช้ระบบขนส่งมวลชนสะดวกกว่ามาก
เมื่อผมกลับมาดูแล “พระในบ้าน” ผมจึงได้ใช้รถยนต์อย่างเป็นทางการ เพราะถ้าคุณต้องดูแล “เด็กเล็ก” หรือ “ผู้สูงอายุ” การมีรถยนต์เป็นสิ่งจำเป็น
รถที่ผมใช้ก็เป็นรถที่น้องโอนให้ สามารถจัดเป็น “รถมือสอง” ได้
การใช้รถเก่ากับรถใหม่ ย่อมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าเราจะ “ลงทุน” ในด้านใด
สำหรับผมมองว่า “รถเก่า” เปรียบเหมือน
“อาจารย์ใหญ่”
เพราะรถจะ “ออกอาการ” ที่ทำให้เราต้องศึกษาว่า อาการต่างๆมีสาเหตุมาจากอะไร? อะไหล่ตัวไหนที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยน?
และนี่จะทำให้เรามี “ทักษะ” ในการดูแลรักษารถ ซึ่งเป็น
“Skill sets”
ที่แตกต่างจากเพียงแค่ “การขับรถ” ที่ใช่ว่าทุกคนจะมี!
และนี่คือ “การลงทุน” ที่ผู้ที่ต้องการใช้รถมือสองควรคำนึงถึงไว้ล่วงหน้า
“ผลตอบแทน” ของการลงทุนนี้คือ
-เราจะมีทักษะในการดูแลรักษารถยนต์มากขึ้น และเมื่อถึงวันที่เราได้เป็นเจ้าของรถใหม่มือหนึ่ง เราจะดูแลรถใหม่นั้นได้ดียิ่งขึ้น แล้วเรายังสามารถมองเห็น
“Road map”
ในการดูแลรักษารถให้ใช้การได้ดีและปลอดภัย แถมยังลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจมีมูลค่าสูงหากเราไม่รู้จักดูแลรักษารถตั้งแต่เนิ่นๆ
ขนาดผมเองสนใจเรื่องรถยนต์
ผมก็เพิ่งรู้ว่า รถยนต์ที่ออกราวๆก่อนปี 2015 มักมีระบบ
“พวงมาลัยเพาเวอร์”
ที่ต้องเปลี่ยนถ่าย “นำ้มันพวงมาลัยเพาเวอร์” ตามระยะเวลา เหมือนๆกับ การเปลี่ยนถ่าย “นำ้มันเครื่อง” และ “นำ้มันเกียร์”
ส่วนรถที่ออกหลังปี 2015 ส่วนใหญ่จะใช้ระบบ “พวงมาลัยไฟฟ้า” ที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนนำ้มันพวงมาลัยเพาเวอร์แต่อย่างใด!
ดังนั้นนอกเหนือจากเรื่อง “ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงิน” แล้ว เรายังต้องมีความรู้ความสามารถในการดูแลรักษารถด้วย
และข้อดีของการใช้รถใหม่ป้ายแดงคือ เราอาจไม่ต้องมีความรู้ความสามารถในการดูแลรักษารถมากนักในช่วงที่ซื้อมาแรกๆ เพียงแค่เราเอารถเข้าศูนย์เพื่อ
“เช็คสภาพตามระยะทาง”
แต่ข้อดีนี้ก็จะกลับมาเป็นข้อเสีย เพราะรถใหม่ย่อมไม่ใช่ “อาจารย์ใหญ่” ที่ดีนั่นเอง!
ผมมีข้อมูลและข้อคิดเกี่ยวกับ
“การซื้อรถ”
ไว้ใน posts ของผมดังนี้ครับ
1) เกณฑ์ในการพิจารณาเลือกซื้อรถ
2) ทำไมผมถึงแนะนำ Toyota
3) “รถมือสอง VS รถใหม่ป้ายแดง”
4) “ดูรถมือสองยังไงให้ได้ของดี”
โฆษณา