7 เม.ย. 2023 เวลา 06:25 • การศึกษา

หลักภาษาบาลีเข้าใจง่าย โดย AI ChatGPT ตอนที่ 1

คำนาม:
คำนามในภาษาปาลีถูกแบ่งออกเป็นสามเพศ คือ ชาย(masculine) หญิง(feminine) และ กลาง(neuter) แต่ละเพศมีส่วนต่อท้าย(suffix) ที่แตกต่างกันเพื่อแสดงการผันคำตามกรณี(case) จำนวน(number) และเพศ(genders)
การสร้างคำนาม เอกพจน์ เพศชาย ใช้ส่วนต่อท้าย (suffix) "-โ" (โอ) ต่อท้ายรากศัพท์ (root)
เช่น
ปุตฺโต = บุตรชาย 1 คน
คาโว = วัวตัวผู้ 1 ตัว
การสร้างคำนาม เอกพจน์ เพศหญิง ใช้ส่วนต่อท้าย (suffix) "- ี" (อี) ต่อท้ายรากศัพท์ (root)
เช่น
นารี = หญิงคนหนึ่ง
กุมารี = เด็กหญิงคนหนึ่ง
การสร้างคำนาม เอกพจน์ ไร้เพศ ใช้ส่วนต่อท้าย (suffix) " - ํ" (อัง) ต่อท้ายรากศัพท์ (root)
ธมฺมํ = ธรรมะ
สีลํ = ศีล
สารสร้างคำนาม พหูพจน์ เพศชาย ให้ต่อท้าย รากศัพท์ ด้วย -า
สารสร้างคำนาม พหูพจน์ เพศหญิง ให้ต่อท้าย รากศัพท์ ด้วย -ะโย
สารสร้างคำนาม พหูพจน์ ไร้เพศ ให้เอา - ํ ออก แล้ว ต่อท้าย รากศัพท์ ด้วย -านิ
ตารางตัวอย่างการสร้างคำ ตาม เพศทั้งสาม และ จำนวนทั้งสองแบบ
บทความต่อไปจะเป็นเรื่อง คำกิริยา ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเวลา ว่ากิริยานั้นเกิดขึ้น ในอดีต ปัจจุบัน อานาคต จบไปแล้ว หรือ ยังดำเนินอยู่ เป็นต้น
ฝากติดตามและแชร์ให้ผู้ที่สนใจ ช่วยกันศึกษา ภาษาบาลี ซึ่งเป็นภาษาที่เก็บรักษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ช่วยกันรักษาคำสอนเพื่อความดับทุกข์นี้ เอาไว้ในโลกต่อไป ขอบคุณที่ติดตาม สาธุ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา