Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Advance Cold Room
•
ติดตาม
8 เม.ย. 2023 เวลา 08:55 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ความสำคัญของ "ห้องเย็น" ในอุตสาหกรรมยา
ระบบทำความเย็นมีความสำคัญต่อการควบคุมกระบวนการและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในการผลิตและจัดเก็บยา เนื่องจากวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมีมูลค่าสูงมาก
ธุรกิจเภสัชกรรมมีวัตถุประสงค์ และความต้องการช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาว และมีสุขภาพดี บนพื้นฐานด้วยการจัดหายาที่คุณภาพ และราคาที่ดีที่สุด ดังนั้นอุจสาหกรรมยาจำเป็นปกป้อง และจัดเก็บผลิตภัณฑ์ จากความร้อน หรืออุณหภูมิที่ผันผวน
ด้วยเหตุผลหลายประการในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ ห้องเย็นจึงเป็นส่วนสำคัญของการจัดการห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจยา ที่ส่งผลในการช่วยประหยัดต้นทุน และเวลา ด้วยการลดจำนวนหน่วยทำความเย็นที่ต้องใช้ในศูนย์กระจายสินค้าแต่ละแห่ง
นอกจากนี้ยังช่วยให้ประหยัดเงินค่าพลังงานโดยการลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากหน่วยทำความเย็นให้น้อยที่สุด โดยใช้เส้นทางการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเก็บผลิตภัณฑ์ยาในทุกครั้งต้องแน่ใจว่าเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเสมอ เนื่องจากยาอาจสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิที่สูงเกินไป จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความร้อน และรักษาอุณหภูมิโดยรอบให้คงที่มากที่สุด
• ประโยชน์หลักของห้องเย็นในอุตสาหกรรมยา :
1. ใช้ได้ในแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย :
ห้องเย็นสำหรับอุตสาหกรรมยา สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิด้วยหน่วยความเย็นของห้องเย็น เช่นผลิตภัณฑยา วัคซีน ไปจนถึงตัวอย่างทางชีวภาพที่มีความละเอียดอ่อนมาก
ความต้องการของห้องเย็นในอุตสาหกรรมยา มีอยู่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดเก็บวัตถุดิบจนถึงสินค้าสำเร็จรูป บริษัทผู้ผลิตยาฉีด/วัคซีนสำหรับการจัดเก็บสินค้าขั้นกลาง/สำเร็จรูป และห่วงโซ่อุปทานห้องเย็นที่ต้องรักษาอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการขนส่งไปยังโรงงานเพื่อจัดจำหน่าย
แต่ละส่วนต้องได้รับการออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมการจัดเก็บมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีความเสี่ยงน้อยลง ห้องเย็น และระบบทำความเย็นสิ่งจะสามารถช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสียหายของผลิตภัณฑ์ได้
ตัวอย่างการใช้ห้องเย็นในอุตสาหกรรมยา (𝗣𝗵𝗮𝗿𝗺𝗮𝗰𝗲𝘂𝘁𝗶𝗰𝗮𝗹 𝗜𝗻𝗱𝘂𝘀𝘁𝗿𝘆 𝗨𝘀𝗮𝗴𝗲)
• Bio Materials
• Research and Development
• Clinical Trials
• Bulk Drug Storage
• Vaccine Storage
• Packaging Facilities
• Gel Pack/PCM Conditioning
• Overflow Capacities
• Seasonal and Transport Storage
2. ประโยชน์ในด้านพื้นที่ :
ห้องเย็นมีรูปทรงและขนาดที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการขององค์กรที่มีพื้นที่จำกัด หลายยูนิตสามารถออกแบบและติดตั้งภายใน หรือภายนอกอาคารก็ได้
3. การประหยัดพลังงาน :
ห้องเย็นเก็บยา หรือผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี จะช่วยให้องค์กร และอุตสาหกรรมประหยัดพลังงานเป็นอย่างมาก และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บตัวอย่างจากวิธีอื่นๆ การออกแบบถูกสร้างขึ้นจากข้อจำกัดความแปรปรวนของอุณหภูมิ ดังนั้นจึงมีโอกาสน้อยที่จะสูญเสียพลังงานไปกับการปรับสมดุลของอุณหภูมิในขณะใช้งาน
• การตรวจสอบและการทำแผนที่อุณหภูมิในพื้นที่จัดเก็บ (𝗩𝗮𝗹𝗶𝗱𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗮𝗻𝗱 𝗠𝗮𝗽𝗽𝗶𝗻𝗴) : อุณหภูมิมีผลกระทบต่อความคงตัวของส่วนผสมในการรักษา วัสดุที่ไวต่ออุณหภูมิสามารถย่อยสลายได้ที่อุณหภูมิสูงขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตรวจสอบอุณหภูมิของสถานที่จัดเก็บ
เช่น วัคซีนและยาต้องเก็บที่อุณหภูมิคงที่เพื่อความปลอดภัย การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอาจทำให้วัตถุดิบไม่เสถียร ลดประสิทธิภาพและทำให้เสี่ยงต่อการใช้งานกับผู้ใช้ จากปัญหาเหล่านี้ ทำให้มีของเสียมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลด้านต้นทุนอย่างมาก
การอ่านค่าอุณหภูมิต้องมีความแม่นยำ ข้อผิดพลาดของอุณหภูมิและเปอร์เซ็นต์ไม่ควรเกิน +0.2° และ +3% ตามลำดับ สามารถใช้เทอร์โมคัปเปิลหรือเครื่องบันทึกข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนหลัง หรือแบบ Real Time ได้ ซอฟต์แวร์ใดๆ ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลจะต้องผ่านการตรวจสอบความถูกต้องและตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำแผนที่อุณหภูมิที่แม่นยำในอุตสาหกรรมยา
• ประสิทธิภาพของยาส่งผลต่ออุณหภูมิในการเก็บรักษาอย่างไร ?
ผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมต้องมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากไม่ทำเช่นนั้นอาจส่งผลให้ลูกค้าได้รับอันตรายและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท ไปจนถึงบริบทระดับประเทศ ตั้งแต่ยาสามัญ ยาเฉพาะทาง ไปจนถึงวิตามินที่ไม่ต้องมีคำสั่งซื้อโดยแพทย์
คำแนะนำในการจัดเก็บที่เหมาะสมมีอยู่บนฉลากยาทุกรายการ หากเคมีและสารของยาร้อนหรือเย็นเกินไป อาจมีการเปลี่ยนแปลง การรักษาด้วยเคมีบำบัด ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิด และยารักษาอาการชักล้วนเป็นตัวอย่างที่พบได้ทั่วไป
กฎมาตรฐานจาก 𝗨𝗻𝗶𝘁𝗲𝗱 𝗦𝘁𝗮𝘁𝗲𝘀 𝗣𝗵𝗮𝗿𝗺𝗮𝗰𝗼𝗽𝗲𝗶𝗮 (𝗨𝗦𝗣) กล่าวถึงการจัดเก็บและจัดส่งยา ระบุช่วงอุณหภูมิที่อนุญาตสำหรับการจำแนกประเภทการทำความเย็นต่างๆ เช่น
• ช่วงอุณหภูมิ -25° ถึง 10°C ในช่องแช่แข็ง (Freezer)
• ระหว่าง 20° ถึง 25° C คืออุณหภูมิห้องควบคุมที่เหมาะสมที่สุด
• ควรเก็บอุณหภูมิไว้ระหว่าง 8° ถึง 15° C ในที่เย็น
• อุณหภูมิจะถูกเก็บไว้ระหว่าง 2° ถึง 8° C ในการจัดเก็บในตู้เย็น
• อุณหภูมิในห้องเริ่มตั้งแต่ 20° ถึง 25°C โดยมีขีดจำกัดภายนอกอยู่ที่ 15° ถึง 30°C
ผู้บริโภคควร "เก็บยาในที่แห้งและเย็น" หรือ "ป้องกันแสง" ตามฉลากที่ระบุไว้ ถึงความไวต่อแสงและความชื้นของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
• แนวทางการจัดเก็บสารประกอบยาใน cGMP
กฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ FDA คือหลักเกณฑ์การผลิตที่ดีและเป็นปัจจุบัน (𝗰𝗚𝗠𝗣 : 𝗖𝗨𝗥𝗥𝗘𝗡𝗧 𝗚𝗢𝗢𝗗 𝗠𝗔𝗡𝗨𝗙𝗔𝗖𝗧𝗨𝗥𝗜𝗡𝗚 𝗣𝗥𝗔𝗖𝗧𝗜𝗖𝗘) ที่มีเป้าหมายหลักคือเพื่อให้แน่ใจว่ารายการยาได้รับการผลิตตามมาตรฐานสูงสุดที่เป็นไปได้ เพื่อปกป้องสาธารณชน
กิจการหรือธุรกิจเภสัชกรรมต้องใช้ประโยชน์จากระบบและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เพื่อกำหนดกฎระเบียบ และหลักเกณฑ์ขั้นต่ำสำหรับแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต ซึ่งครอบคลุมการควบคุมการผลิต การแปรรูป และการบรรจุหีบห่อ ขั้นตอน และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด
cGMP สร้างมาตรฐานระดับสูงและมีผลผูกพันทางกฎหมาย กฎระเบียบเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับเภสัชภัณฑ์ที่บริสุทธิ์ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
• คุณสมบัติเครื่องทำความเย็นเกรดเภสัชกรรมที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ โดยมีข้อควรพิจารณาและคุณสมบัติดังต่อไปนี้ :
- ขนาดและประเภทที่เหมาะสม เพื่อรองรับปริมาณ/ปริมาตรสูงสุดที่จะจัดเก็บในช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุดของการผลิตได้อย่างสะดวกสบาย
- ช่วงอุณหภูมิและการควบคุม พร้อมการวัดตามช่วงเวลาที่กำหนด
- การบันทึกข้อมูลดิจิทัลสำหรับการอ่านค่าอุณหภูมิและความผันผวน/การคลาดเคลื่อน
- สอดคล้องกับมาตรฐานและหลักเกณฑ์สากล ที่แต่ละพื้นที่ยอมรับ
- Temperature Mapping SOP ที่เคร่งครัดซึ่งรวมถึงแผนสำหรับการปรับอุณหภูมิเริ่มต้นให้สมดุล การวางยูนิต การเคลื่อนไหวของบุคลากร และแผนปฏิบัติสำรองเมื่อไฟฟ้าขัดข้อง
นอกเหนือจากการทำความเย็นแล้ว การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของห้องเย็นอย่างมาก ด้วยการถือกำเนิดของวัคซีน RNA ความสามารถในการเก็บรักษา RNA จำเป็นต้องมีการเก็บรักษา ULT คงที่ (-70°C)
และหลีกเลี่ยงความผันผวนของอุณหภูมิหรือรอบการแช่แข็ง/การละลายก่อนใช้งาน หรือการบำบัดด้วยเซลล์ เช่น CAR-T ที่จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิที่เย็นกว่าในช่วงไนโตรเจนเหลว (-140° C) เพื่อรักษาความมีชีวิตในระยะยาวของเซลล์เพาะเลี้ยงที่ตัดแต่งพันธุกรรม ด้วยระบบจัดเก็บ ULTจำเป็นต้องมียูนิตที่ซ้ำซ้อน และพื้นที่จัดเก็บเพียงพอ
การบันทึกข้อมูลอัตโนมัติและการเตือนจากระยะไกลด้วย Smart Cold Room สามารถลดการจัดการระบบ ULT ที่ยุ่งยากลงได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Cold Room ได้ที่ 𝗟𝗶𝗻𝗲 𝗶𝗱 : @𝗮𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲𝗰𝗼𝗼𝗹 หรือคลิก
https://lin.ee/Uv6td2a
สรุปแล้วในอุตสาหกรรมยา และเภสัชกรรม ชีวภัณฑ์ต้องการการแช่เย็นหรือการจัดเก็บที่อุณหภูมิต่ำมาก (ULT) ซึ่งหมายความว่าห้องปฏิบัติการเภสัชกรรมต้องมีระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิแบบควบคุมความเย็นเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพในการผลิต การจัดเก็บ และการจัดจำหน่าย ไปจนถึง กระบวนการพัฒนาก่อนหน้านี้
• หากคุณต้องการระบบควบคุมสิ่งแวดล้อมที่วางใจได้สำหรับธุรกิจเภสัชกรรมของคุณ
𝗔𝗖𝗥 : 𝗔𝗱𝘃𝗮𝗻𝗰𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗱 𝗥𝗼𝗼𝗺 สามาถช่วยออกแบบและจัดหาโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อตั้งค่าห้องเย็น ที่พร้อมระบบตรวจสอบระยะไกล ผ่านระบบ Smart Cold Room เพื่อรายงานความผิดปกติในการทำงานของห้องเย็น แก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมและซ่อมบำรุงได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์สื่อสารอย่าง โทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet
รวมถึงการบันทึกข้อมูล และเอกสารทั้งหมดที่มีให้เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานและทุกๆ การตรวจสอบ ไปจนถึงโซลูชันการทำความเย็นตั้งแต่แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ไปจนถึงแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ สำหรับการประหยัดพลังงานและเพื่อให้มีห้องสำหรับอุณหภูมิบวกและลบ ภายใต้บริษัท Advance Cool Technology ผลิต ออกแบบ ติดตั้งระบบ Chiller Cooling
ติดต่อเราได้ที่ :
Line id : @advancecool หรือคลิก
https://lin.ee/Uv6td2a
Website :
www.advancecoldroom.com
Email :
info@advancecoldroom.com
#รับสร้างห้องเย็น #Coldroom #ColdStorage #ห้องแช่แข็ง #ห้องเย็นพม่า #ห้องเย็นไทย #ห้องเย็นกัมพูชา #PharmaceuticalIndustry
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย