ช้างไร้พ่อก่อความรุนแรง
หลายปีก่อน อุทยานแห่งชาติ Kruger ในประเทศแอฟริกาใต้ได้ประสบกับภาวะช้างล้นป่า จนกระทั่งทางการต้องหาวิธีลดจำนวนช้างดังกล่าว หากเป็นเมืองไทย คงมีคนพร้อมเข้าไปล่างาช้างให้ฟรี ๆ แต่ในแอฟริกาใต้ มีการออกไอเดียให้ย้ายช้างบางส่วนไปที่อุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Pilanesberg
อย่างที่เราทราบ ๆ กันว่า ช้างมีน้ำหนักมาก ประกอบกับป่าทั้งหลายเข้าถึงได้ยากทางถนน จึงมีการออกไอเดียให้ใช้วิธีการย้ายช้างเหล่านี้ โดยการใช้เฮลิคอปเตอร์ยกช้างไปทีละตัว
อุปกรณ์ที่มีสามารถรองรับน้ำหนักช้างตัวเมีย และช้างวัยรุ่น (อายุน้อยกว่า 10 ปี) ได้สบาย แต่ช้างตัวผู้ที่โตเต็มวัย มีขนาดใหญ่กว่ามาก และมีน้ำหนักมาก จนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจย้ายเฉพาะช้างตัวเมีย และช้างวัยรุ่นไปที Pilanesberg แทน และทิ้งช้างตัวผู้ส่วนใหญ่ไว้ที่ Kruger ดังเดิม แต่ก็ทำให้ประชากรช้างใน Kruger อยู่ในระดับที่ทางอุทยานสามารถสร้างความสมดุลทางนิเวศน์วิทยาได้ตามเป้าหมาย
แต่แล้วเจ้าหน้าที่ใน Pilanesberg กลับพบความผิดปกติขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็พบแรดขาวที่กำลังสูญพันธุ์ในอุทยานกลับตายมากผิดปกติ ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็สงสัยว่าอาจจะมีคนมาล่าเพื่อเอานอ แต่ไม่พบรอยบาดแผลกระสุนปืน และนอก็ยังอยู่บนตัวแรด และการชันสูตรพบว่า แรดเหล่านี้ถูกฆ่าอย่างโหดร้าย มีบาดแผลลึก และโดยปกติแล้วแรดเหล่านี้ก็ไม่ได้มีศัตรูแต่อย่างใด เพราะมันเองก็แข็งแรงพอสมควร
เจ้าหน้าที่จึงติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุดังกล่าว และสิ่งที่เจอน่าตกใจมาก ช้างที่ย้ายมาจาก Kruger เกิดอาการตกมันเร็วกว่าอายุที่ควรจะเป็นมากถึง 10 ปีเลยทีเดียว มีระดับ Testosterone ที่สูงกว่าวัย และเข้าทำร้ายแรดเหล่านี้ด้วยความรุนแรงจนตายด้วยงาของมัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติที่ไม่ค่อยเกิดในช้างแอฟริกามากนัก
สาเหตุที่แน่ชัดไม่มีใครทราบคำตอบ แต่เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในสังคมช้างปกติ จะมีจ่าโขลงช้างที่เป็นช้างตัวใหญ่ มีอายุ เป็นตัวคอยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับช้างอื่นในโขลง และควบคุมพฤติกรรมของฝูงให้อยู่ในร่องรอย
เจ้าหน้าที่ไม่อยากต้องฆ่าช้างที่ตกมันเหล่านี้ จึงลองเสี่ยงทำการทดลอง โดยการขนช้างตัวผู้ที่โตเต็มวัยมาจาก Kruger มาเพิ่ม ซึ่งในเวลานั้นเทคโนโลยีได้สามารถทำให้การขนย้ายช้างขนาดใหญ่ทางอากาศเป็นไปได้แล้ว
การพนันครั้งนี้ได้ผล ช้างตัวผู้ใหม่ที่มาจาก Kruger สามารถควบคุมโขลงช้างได้ และเป็นพ่อพันธุ์หลักให้กับช้างตัวเมียในโขลง ทำให้ช้างวัยรุ่นลดการผสมพันธุ์ลง และทำให้เกิดอาการตกมันที่ลดลง
นอกจากนั้นช้างวัยรุ่นที่ยอมรับจ่าโขลงใหม่ ก็เริ่มเรียนรู้ และเชื่อฟังจ่าโขลง และมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นในที่สุด จนจำนวนแรดที่ถูกฆ่าตายลดต่ำลง จนกลับมาเป็นปกติ
เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันก็เกิดขึ้นกับคนเหมือนกัน ใน Central Park ในเมืองนิวยอร์ค ชายวัยรุ่นหลายรายได้รวมกลุ่มกันเป็นแกงค์ลวนลาม และปล้นผู้หญิงในสวน จนเกิดการตั้งคำถามในลักษณะเดียวกันว่า แล้วพ่อของเด็กวัยรุ่นเหล่านี้หายไปไหน? เป็นไปได้ไหมว่า การที่เด็กเหล่านี้ไม่ได้มีพ่อแม่ดูแล อาจจะเป็นปัจจัยที่สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในเด็กวัยรุ่นเหล่านี้
ข้อมูลในปี 1996 ยังพบว่าเด็กที่อยู่ในสถานพินิจมากถึง 70% เติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว (Wade Horn, “Why There Is No Substitute For Parents”, IMPRIMIS 26, NO.6, June, 1997)
ส่วน Chuck Colson (“How Shall We Live?” Tyndale House , 2004, p.323) พบว่า 72% ของฆาตกรวัยรุ่น และ 60% ของนักข่มขืนวัยรุ่น ก็เป็นเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวเช่นกัน
การเพิ่มตำรวจ เพื่อป้องกันปัญหาเป็นเรื่องที่แทบทำไม่ไหว เราควรที่จะไปแก้ปัญหาที่ต้นทางมากกว่าหรือไม่ ทำอย่างไรเด็กถึงจะเจริญเติบโตในครอบครัวที่มีความสมบูรณ์ เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้จากพ่อ และเติบโตมาเป็นบุคคลที่ดีในสังคม?
อ้างอิง :
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
