11 เม.ย. 2023 เวลา 06:22 • ปรัชญา
ไต้หวัน

ได้รู้ความหมายของการมีชีวิตอยู่ หลังจากได้ไปเที่ยวที่ไต้หวัน

เอาจริงๆฉันไม่รู้เลยว่าจะขยายความหัวข้อนี้อออกมาเป็นการอธิบายได้อย่างไร แต่ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อที่ฉันจะได้เก็บมันไว้เตือนใจตัวเองเวลาที่ฉันต้องการหา #ความหมายของการมีชีวิตอยู่ อีกครั้ง ฉันหวังว่าฉันจะสามารถอธิบายมันออกมาได้ชัดเจนที่สุด เพื่อตัวฉันในอนาคตที่กำลังอ่านมันอยู่จะได้เข้าใจมันได้อย่างชัดเจน
ก่อนอื่นเลยฉันอยากจะเล่าคร่าวๆว่า ฉันเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอยมาช่วงหนึ่ง และฉันก็เป็นบุคคลที่เคยประสบกับภาวะ #ซึมเศร้า #เบิร์นเอ้าท์ #BurnOut และสิ้นหวังมาก่อน และตอนนั้นฉันก็ไม่รู้เลยว่าฉันจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปทำไมและจะทำงานที่ฉันไม่ได้ชอบไปทำไม
คำตอบในตอนนั้นของฉันคือ “ฉันมีชีวิตอยู่ไปเพื่อทำงาน และทำงานไปเพื่อเงิน”
นี่คือคำตอบที่ฉันสามารถคิดได้ในตอนนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาได้ยินคำตอบนั้นแล้วมันยิ่งทำให้ฉันเหนื่อย ฉันไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วฉันเกิดมาเพื่ออะไร ยิ่งคิดก็บยิ่งสับสนและหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต
จนอยู่มาวันหนึ่งฉันก็คิดได้ถึงสิ่งที่ฉันชอบทำอยู่เนืองๆ นั่นคือฉันเป็นคนที่ชอบเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างประเทศ และสิ่งที่ฉันทำเพื่อการเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมก็คือ การเรียนภาษาของประเทศนั้นๆ และในตอนนั้นฉันก็เรียนภาษาจีนอยู่ และฉันก็เพิ่งสอบผ่านHSK5พอดี ฉันเลยถือโอกาสนี้ให้รางวัลตัวเองด้วยการจัดทริปไปเที่ยวที่ไต้หวันคนเดียว เพราะตอนนั้นประเทศจีนยังไม่เปิดประเทศเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาด และช่วงนั้นก็เป็นช่วงปลายปี๒๐๒๒ และไต้หวันก็เริ่มเปิดประเทศหลังจากช่วงโควิดพอดี
อันที่จริงฉันไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อนเลย เนื่องจากฉันขาดแคลนทุนทรัพย์ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ไปต่างประเทศ ฉันตื่นเต้นมากกับทริปครั้งนี้เพราะเป็นทริปเค้าท์ดาวน์ปีใหม่๒๐๒๓ และเป็นการเปิดประเทศอีกครั้งของหลายๆประเทศหลังวิกฤตโควิด ฉันคิดว่ามันเหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่มากๆ ฉันหวังว่าฉันจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และได้เติมเต็มพลังเพื่อกลับมาใช้ชีวิตต่อไปหลังจากทริปเที่ยวที่ไต้หวันคนเดียว๗วัน๖คืนนี้
หลังจากเที่ยวเสร็จฉันก็กลับมาที่ประเทศไทยเพื่อทำงานต่อไป และสิ่งที่ฉันได้กลับมาด้วยจากการเที่ยวนั้น มันก็คือประสบการณ์อันอบอุ่นหัวใจที่ฉันจะไม่มีวันลืม และเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันนึกถึงมัน มันก็ทำให้ฉันอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก มันทำให้ฉันกลายเป็นบุคคลที่โหยหาประสบการณ์แบบนั้นอีกครั้ง เมื่อไหร่ที่ฉันรู้สึกเหนื่อยหรือท้อ ฉันก็จะนึกถึกประสบการณ์อันอบอุ่นหัวใจนี้อีกครั้ง และมันก็ทำให้ฉันมีแรงใจในการใช้ชีวิตต่อไป
ตอนนี้ฉันไม่เพียงแค่เรียนภาษาจีนเพื่อให้ได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีน แต่ฉันยังเรียนภาษาญี่ปุ่นและภาษาเกาหลี เพื่อหวังว่าวันหนึ่งในอนาคตฉันจะได้ไปเที่ยวประเทศเหล่านั้นและฉันก็หวังว่าฉันจะได้รับประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจแบบเดียวกับที่ฉันได้รับเมื่อตอนที่ไปเที่ยวไต้หวัน
ข้อคิดที่ฉันได้คือ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและไม่ว่าชีวิตของฉันจะเป็นอย่างไร หากว่าฉันยังคงหายใจอยู่และมีชีวิตอยู่ต่อไป วัฒนธรรมเหล่านี้ก็จะยังคงรอให้ฉันไปสัมผัสมันอยู่เสมอ และนี่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในความหมายของการมีชีวิตอยู่ของฉัน (#อิคิไก )
นอกจากนี้มันยังทำให้ชีวิตของฉันมีเป้าหมาย ฉันตั้ง#เป้าหมายในชีวิต ไว้ว่า ฉันจะพยายามไป#เที่ยวต่างประเทศ ให้ได้ปีละครั้ง เพื่อให้รางวัลคนที่ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างฉันได้เห็นโลกใหม่ๆและวัฒนธรรมใหม่ๆมากยิ่งขึ้น และเมื่อชีวิตของฉันมี#เป้าหมาย ที่ชัดเจน มันก็ทำให้ชีวิตของฉันมั่นคงและไม่สั่นคลอนง่ายๆเมื่อมีอะไรมากระทบ
มันทำให้ฉันสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ง่ายขึ้นและสามารถมี#ความสุขในชีวิต ได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ฉันจึงสมารถใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่หมดแรงหรือเบิร์นเอ้าท์ไปเสียก่อน หรือถ้ามีช่วงไหนที่ฉันอาจจะรู้สึกเหนื่อยบ้างหรือท้อบ้าง ฉันก็จะนึกถึงเป้าหมายนี้และจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อรอคอยวันที่ฉันได้ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมอันแปลกใหม่และแสนจะอบอุ่นเหล่านั้น...อีกครั้ง 555
โฆษณา