19 เม.ย. 2023 เวลา 09:29 • ข่าวรอบโลก

สงครามกลางเมือง เมื่อ 2 นายพลฟัดกันเอง หายนะเลยเกิดขึ้นที่ซูดาน

.
ขณะนี้ที่ประเทศซูดาน เกิดสงครามกลางเมืองอย่างรุนแรง เมื่อ 2 นายพล ที่กุมอำนาจในกองทัพต่างหันมาฟัดกันเอง หลังจากเคยร่วมรัฐประหารด้วยกันมา ความเดือดพล่าน ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตเป็นจำนวนหลายร้อย คนหลายพันหลายหมื่นต้องอพยพ ไม่มีบ้านอาศัยอยู่
.
ก่อนจะไปกล่าวถึง 2 นายพล ตัวต้นเรื่อง ก็ขอเริ่มต้นที่เรื่องราวของประเทศซูดาน ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา โดยในปี 2019 ประชาชนได้รวมตัวกันเรียกร้องนำไปสู่การโค่นล้มประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเซียร์ การประท้วงครั้งนี้ คือพลังบริสุทธิ์ของราษฎรซูดาน จนทำให้อัล-บาเซียร์ต้องลงจากอำนาจ หลังปกครองมานานกว่า 30 ปี เป็นเผด็จการพลเรือนที่มือเปื้อนเลือดอย่างมาก เพราะช่วงเวลานั้น ซูดานมีสงครามกลางเมือง มีคนบริสุทธิ์ถูกฆ่าเป็นจำนวนหลายชีวิต
.
อย่างไรก็ดี รัฐบาลประชาธิปไตยที่ประชาชนหวังจะได้เห็น กลับเลือนรางสูญสลายในสายหมอก เพราะกองทัพกลับใช้โอกาสนี้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ แม้จะมีการตั้งรัฐบาลผสม แต่สุดท้ายกองทัพก็ไม่ยอมคลายอำนาจจริงๆ ในปี 2021 พวกเขายึดอำนาจแล้วพาซูดานไปเป็นรัฐเผด็จการทหารอย่างเต็มตัว
.
ผู้ที่มีบทบาทในการปกครองประเทศ ก็คือ ผู้บัญชาการทหารบก พลเอกอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน วัย 63 ปี ซึ่งควบตำแหน่งประธานาธิบดีซูดานคนปัจจุบันด้วย สำหรับชายคนนี้ ที่ผ่านมาอยู่นอกสายตา ชนชั้นนำซูดานมาตลอด แต่ไต่เต้าไปจนถึงระดับสูง และเป็นส่วนหนึ่งในการยึดอำนาจ
.
"แม้เขาจะเป็นคนอยู่นอกสายตา ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เป็นนายทหารระดับสูง แต่ต้องจำไว้ว่า เขาเป็นนักรบของแท้"
.
ก่อนหน้านี้เขามีพันธมิตรทหารที่สำคัญมากอย่าง พลโท โมฮัมเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล ฉายา เฮเมดตี้ อายุ 49 ปี จบแค่ป. 3 ทำงานขายอูฐ แล้วมาจับปืน เพราะต้องการล้างแค้นให้กับครอบครัวที่ถูกโจรสังหารไป 60 ชีวิต ความเหี้ยมและทักษะการรบ ทำให้เขาเข้าตาผู้มีอำนาจ แล้วเข้าสู่วงจรแห่งนักรบซูดาน
.
โดยเฮเมดตี้นั้น ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี แต่เขาเป็นผู้บัญชาการกองกำลังกึ่งทหาร RSF ย่อมาจาก (Rapid Support Forces) หรือกองกำลังสนับสนุนตอบโต้เร็ว ซึ่งมีนักรบกว่า 1 แสนนาย โดยถือเป็นหน่วยกองกำลัง ซึ่งตามหลักต้องขึ้นตรงต่อกองทัพซูดาน อย่างไรก็ดี RSF เป็นทหารจากกลุ่มติดอาวุธ จันจาวีด ที่ก่อเหตุฆ่าคนอย่างอื้อฉาว ขณะปราบกบฏอย่างโหดเหี้ยม
.
2 นายพลนี้ ต่างเป็นลูกน้องของอดีตประธานาธิบดีอัล-บาเซียร์ ซึ่งเป็นคนสนับสนุนให้มีกองกำลัง RSF นายพลติดดาวสองรายนี้ ต่างครองอำนาจ เคยเป็นมิตร แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน ทั้งสองก็ประกาศว่าจะพาประเทศซูดานกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย ว่าแล้วก็ขนอาวุธถล่มกันอย่างดุเดือด ความซวยจึงตกอยู่ที่ประชาชนจำนวนมาก
.
น้องชายของบิ๊กเฮเมดตี้ กล่าวหาประธานาธิบดีคนปัจจุบันว่าไม่เห็นแก่คนซูดาน สร้างค่ายทหารเพื่อปกป้องตัวเอง เขาให้สัมภาษณ์สื่อ ขณะที่ตัวเองก็นั่งในห้องพักหรูหรา มีอาหารดีๆ กิน ในประเทศที่คนใช้ชีวิตสุดลำบาก
.
ขณะนี้การรบกันของ 2 ฝ่ายยังคงดุเดือด ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาจากชาติตะวันตก ที่ต้องการให้เลิกรบ แล้วหันมาคุยกัน ปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่ซูดานมีความวุ่นวายมากกว่านั้น ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่ครองอำนาจในกองทัพ เป็นพันธมิตรสำคัญของอียิปต์ ที่สนับสนุนหนุนหลัง แถมเป็นเผด็จการทหารทั้งคู่
.
ส่วนบิ๊กเฮเมดตี้ แห่ง RSF นั้นก็มีกำลังจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดิอาระเบีย หนุนอยู่ (แต่เป็นการหนุนแบบสนับสนุนทั่้งสองฝ่าย)
.
ทั้งนี้ในซูดานยังมีทหารรับจ้างแห่งบริษัทวากเนอร์ ซึ่งเป็นกองกำลังของรัสเซีย ที่ครองอำนาจในซูดาน มีผลประโยชน์เรื่องการขุดเหมืองแร่ ซึ่งเป็นทรัพยากรมหาศาลของประเทศ ดังนั้นหนทางยุติความขัดแย้งจึงยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง
.
นักข่าวที่ลงพื้นที่ ต่างช็อกกับบ้านเมืองของซูดาน คนไร้ที่อยู่ ไฟฟ้าไม่มีให้ใช้ อาหารขาดแคลน อดีตทูตที่เกษียณแล้ว ยังต้องหางานเสริม ขับรถแท็กซี่ มือถือโชว์ไม่ได้ เพราะอาจถูกปล้น
.
ประชาชนคนหนุ่มสาวจำนวนมาก เหลือทนกับแผ่นดินนี้ ต่างเรียกร้องรัฐบาลประชาธิปไตย แต่สงครามกลางเมืองที่สาดกระสุนกันอย่างดุเดือดของ 2 นายพล ช่างทำให้ความหวังของคนซูดาน ที่อยากได้สันติภาพ รัฐบาลพลเรือน มีเสรีภาพ ค่อนข้างลางเรือนอย่างมาก
.
เช่นเดียวกับชีวิตพวกเขา
.
มันจึงเป็นเรื่องที่สุดเศร้า อนาถายิ่งนัก
โฆษณา