Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
AI GEN : ไอเจ็น
•
ติดตาม
26 เม.ย. 2023 เวลา 05:30 • ธุรกิจ
4 ปัญหาที่ธุรกิจมักจะเจอในการใช้โปรแกรม OCR พร้อมวิธีการแก้ไขเบื้องต้น
อ่านบทความฉบับเต็มคลิก :
https://bit.ly/3L0tWZh
AIGEN ได้รวบรวม 4 ปัญหาที่ธุรกิจมักจะพบเจอบ่อยๆ ในการเลือกใช้งานโปรแกรม OCR หรือในการทำ OCR เพื่อให้ธุรกิจได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกใช้โปรแกรม OCR ที่ตอบโจทย์กับธุรกิจให้ได้มากที่สุด
1.โปรแกรม OCR ไม่รองรับเอกสารที่มีเทมเพลตที่แตกต่างกัน
เนื่องจากเอกสารบางประเภทนั้นไม่ได้รูปแบบ หรือเทมเพลตที่แน่นอนตายตัว เช่น ใบเสร็จรับเงิน และใบแจ้งหนี้ รวมถึงใบกำกับภาษี เป็นต้น ซึ่งโปรแกรม OCR ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ AI ในการขับเคลื่อนนั้นจะไม่รองรับเอกสารที่มีเทมเพลตที่หลากหลาย จำเป็นต้องกำหนดเทมเพลตของเอกสารใหม่ทุกครั้ง หากมีการเปลี่ยนแปลงเทมเพลตของเอกสาร ทำให้เสียเวลาในการทำงานเป็นอย่างมาก และต้องใช้คนมากำหนดเทมเพลตเอกสารใหม่ทุกครั้ง
ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความสะดวก และรวดเร็วในการทำงาน เพราะทำให้ขั้นตอนการทำงานต้องหยุดชะงัก เมื่อมีเอกสารรูปแบบใหม่เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าธุรกิจ หรือหน่วยงานต้องจัดการกับเอกสารที่ไม่ได้มีรูปแบบตายตัวเป็นจำนวนมาก เช่น หน่วยงานบัญชี จัดซื้อ การเลือกใช้โปรแกรม OCR ที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อน หรือที่เรียกกับว่า AI-Powered OCR จะตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้ดีกว่ามาก
โดยที่โปรแกรม AI-OCR ที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนนั้น จะมี AI เป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถอ่าน และประมวลเอกสารได้ในทุกๆ รูปแบบ โดยเฉพาะเอกสารที่ไม่ได้มีรูปแบบที่แน่นอนตายตัว เช่น ใบเสร็จรับเงิน และใบแจ้งหนี้ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องมีการกำหนดเทมเพลตเมื่อเทมเพลตของเอกสารเปลี่ยนแปลงไป
เนื่องจากโปรแกรม AI-OCR ได้เทรนให้โมเดล AI เข้าใจแพทเทิร์นของเอกสารในหลายๆ เทมเพลตที่แตกต่างกันออกไปได้เป็นอย่างดี ทำให้ AI-OCR สามารถประมวลผล และดึง Field ข้อมูลที่ธุรกิจต้องการจากเอกสารประเภทต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ นอกจากนั้นหากเป็นเอกสารที่เป็นเอกสารเฉพาะของธุรกิจที่ไม่ได้เป็นเอกสารทั่วไป สามารถส่งมาให้ทางผู้ให้บริการ AI-OCR นั้นเทรน และ Customize โมเดล AI เพื่อให้เข้าใจรูปแบบของเอกสาร และพร้อมให้ธุรกิจใช้ในการทำ OCR ได้ภายในไม่กี่วัน
2.โปรแกรม OCR ไม่แยกประเภทของข้อความให้อัตโนมัติ
บางธุรกิจอาจจะปัญหาที่โปรแกรม OCR นั้นดึงข้อมูลจากเอกสารออกมาทั้งหมดโดยที่ไม่ได้ระบุ และแยก Field ของข้อมูลให้ว่าข้อมูลส่วนนี้เป็นชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ จำนวนเงิน และอื่นๆ เป็นต้น ทำให้ยังต้องใช้ระบบแมนนวล หรือให้พนักงานมาเป็นคนจัดประเภทข้อมูลอีกที ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการให้ Workflow การทำงานเป็นแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น
โดยพนักงานมีหน้าที่เพียงแค่ตรวจสอบข้อมูลในขั้นตอนสุดท้ายเพียงเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นโปรแกรม OCR ในรูปแบบเดิมนั้นจะไม่สามารถแยกประเภทของข้อความได้แบบอัตโนมัติ จำเป็นต้องมีการกำหนดกฎ (Rules) เพื่อให้โปรแกรมทำงานได้ตามที่ธุรกิจกำหนดไว้ และมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ เช่น ข้อมูลที่ดึงออกมาไม่ถูกต้องเนื่องจากไม่มีความยืดหยุ่นในการประมวลผลเอกสารที่มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเทมเพลตเดิมที่มีอยู่ ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์กับธุรกิจที่ต้องการนำข้อมูลที่ได้จากการทำ OCR ไปใช้ต่อในขั้นตอนของธุรกิจต่อไป
แต่ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีทำให้โปรแกรม AI-OCR นั้นสามารถระบุ และแยกประเภทของข้อมูลได้แบบอัตโนมัติว่าข้อมูลส่วนนี้คือชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือหมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น และธุรกิจสามารถกำหนด Field ของข้อมูลที่ต้องการให้ดึงออกมาจากเอกสารได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการกำหนดกฎ หรือ Rules ในการทำงานไว้ล่วงหน้า และธุรกิจสามารถระบุได้ว่าจะส่งข้อมูลในแต่ละ Field ไปจัดเก็บไว้ในระบบไหนของธุรกิจต่อไป
เช่น ให้จัดเก็บไว้ในระบบ SAP, ERP หรือโปรแกรมอื่นๆ ได้ตามขั้นตอนการทำงานของแต่ละธุรกิจ ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างมาก และตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการยกระดับให้ขั้นตอนการทำงานเป็นอัตโนมัติแบบ End-to-End ได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่าเกิดขึ้นได้ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี AI นั่นเอง
3.โปรแกรม OCR ไม่สามารถแยกประเภทของเอกสารได้แบบอัตโนมัติ
การแยกประเภทของเอกสารได้แบบอัตโนมัติ หรือ Document classification ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญสำหรับธุรกิจ โดยเฉพาะกับธุรกิจการเงิน และธนาคาร รวมถึงธุรกิจประกันที่จะช่วยทำให้ขั้นตอนการทำ Customer onboarding ทำได้แบบอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้นด้วยการให้โปรแกรม OCR ตรวจสอบเอกสารที่ลูกค้าส่งเข้ามาให้เบื้องต้นว่าลูกค้าส่งเอกสารเข้ามาครบตามข้อกำหนดของธุรกิจหรือไม่
ซึ่งหากเป็นโปรแกรม OCR ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ AI ในการขับเคลื่อนจะไม่สามารถแยกประเภทเอกสารได้แบบอัตโนมัติ เนื่องจาก OCR ในรูปแบบเดิมนั้นทำได้แค่เพียงการดึงข้อมูลจากเอกสารได้ตามกฎ (Rules) ที่ได้มีการกำหนดไว้เท่านั้น จึงอาจจะไม่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการฟีเจอร์ Document classification เพื่อยกระดับขั้นตอนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น
แต่ด้วยความสามารถของโปรแกรม AI-OCR ที่มี AI เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญนั้น นอกจากจะมีการเทรนให้โมเดล AI เข้าใจประเภทของข้อความได้แล้ว ยังสามารถเทรนให้ AI เข้าใจ และจำแนกเทมเพลต และรูปแบบของแต่ละประเภทเอกสารได้ว่าถ้าเป็นเอกสารที่มีรูปแบบประมาณนี้คือบัตรประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร หรือใบขับขี่ เป็นต้น ซึ่งจะตอบโจทย์ขั้นตอนการทำงานของธุรกิจ และทำให้ Workflow การทำงานทำได้แบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถออกแบบ Workflow ได้ตาม Business logic ของแต่ละธุรกิจได้เช่นกัน
4.โปรแกรม OCR ไม่รองรับข้อจำกัดของเอกสาร
อีกหนึ่งอย่างที่ธุรกิจมักจะเจอ คือไฟล์เอกสารที่ต้องการทำ OCR นั้นไม่สมบูรณ์ เช่น ไฟล์เอกสารเอียง เบี้ยว กลับหัว หรือมีขีดขั้น ส่งให้ประสิทธิภาพในการทำ OCR ลดลง นั่นหมายถึงความแม่นยำในการดึงข้อมูลที่ต้องการลดลง และอาจจะทำให้ไฟล์เอกสารนั้นไม่สามารถทำ OCR ได้เลย
ทำให้ธุรกิจต้องเสียเวลาในการนำไฟล์เอกสารฉบับนั้นมากรอกเข้าไปในระบบโดยใช้แมนนวลแทน ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์กับธุรกิจที่มีจำนวนเอกสารเป็นจำนวนมาก โดยที่โปรแกรม OCR รูปแบบเดิมนั้นจะไม่สามารถประมวลผล และดึงข้อมูลจากไฟล์เอกสารที่มีข้อจำกัดเหล่านี้ได้
แต่หากธุรกิจเลือกใช้โปรแกรม AI-OCR ที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ จะไม่ต้องเป็นกังวลกับปัญหาเรื่องข้อจำกัดของเอกสารอีกต่อไป เนื่องจากระบบ AI-OCR นั้นใช้ AI ที่ตรวจจับ และสามารถหมุนไฟล์ภาพเอกสารได้แบบอัตโนมัติ รวมถึงรองรับข้อจำกัดอื่นๆ ของไฟล์เอกสารได้เป็นอย่างดี เช่น เอกสารที่มีการขีดคั่น ก็สามารถประมวลผล และดึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างแม่นยำเหมือนเดิม ทำให้ Workflow ในการทำ Data-entry ของธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และไร้กังวล
Think AI Think AIGEN
ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการนำ AI-Powered OCR ไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AIGEN ได้ที่
· Website :
https://bit.ly/3ci6Fos
· Facebook : AI GEN : ไอเจ็น
· Line : @aigen
ธุรกิจ
ai
เทคโนโลยี
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย