27 เม.ย. 2023 เวลา 11:30 • ความคิดเห็น

วัยสี่สิบกว่าคือนาทีทอง

(เคล็ดวิชาชีวิตจากพี่อ้น IMET MAX ตอนที่ 1)
ตามที่เคยได้เล่าลงในบล็อกนี้ว่าผมได้รับโอกาสเข้าร่วมโครงการ IMET MAX ครั้งที่ 5
2
IMET MAX เป็น mentoring program ที่มุ่งหมายจะสร้าง “อุทยานผู้นำ” โดยแต่ละรุ่นจะมี mentor 12 ท่าน และ mentee 36 คน
Mentee จะได้รับการจัดเป็นกลุ่มละ 3 คน ผมได้อยู่กลุ่มเดียวกับ “อ้อ” ผู้บริหารของ SCB Digital Banking และ “เอ็ม” ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ ARINCARE
อ้อ เอ็ม และผมได้ “พี่อ้น” เป็นเมนทอร์
พี่อ้น หรือคุณวรรณิภา ภักดีบุตร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน)
พี่อ้นเคยทำงานอยู่ยูนิลีเวอร์มา 30 ปี ก่อนที่จะได้รับการทาบทามมาช่วยนำโอสถสภาเข้าตลาดหุ้น โดยใช้เวลา 2 ปีก็สามารถ IPO ได้สำเร็จ
นัดครั้งแรกของเราเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ร้านฉันท์ แอนด์ ยุพา ซอยสุขุมวิท 12 ทุกคนใส่เสื้อยืดสีขาวโดยไม่ได้นัดหมาย เราสั่งเมนูชื่อไม่คุ้นหูอย่าง “ประทัดลม” “ผัดผักเย็น” และ “ปลาเบญจรส” และคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
1
ใช้เวลาด้วยกันสามชั่วโมงกว่า ได้อะไรมากมายกลับมาคิดต่อ ต้องขอบคุณเอ็มกับอ้อที่ช่วยกันจดโน้ต
1
พวกเราจะได้เจอกันเดือนละครั้งไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ผมจึงมีความตั้งใจว่าจะนำบทเรียนบางส่วนที่ได้จากพี่อ้นมาบันทึกไว้ในบล็อกนี้จนถึงสิ้นปีเช่นกันครับ
1.ไม่รู้ (บางทีก็) ดีที่สุด
ตาม career path ของพี่อ้นนั้น สามารถอยู่ที่ยูนิลีเวอร์จนเกษียณได้เลย แต่พี่อ้นก็เลือกที่จะย้ายมาโอสถสภา
ที่ตัดสินใจย้าย เพราะพี่อ้นทำงานบริษัทข้ามชาติมาทั้งชีวิต ก่อนเกษียณเลยอยากลองทำงานองค์กรไทยดูบ้าง
แถมโอสถสภาก็ไม่ใช่องค์กรไทยธรรมดา แต่เป็นองค์กรไทยที่มีอายุถึง 130 ปี โดยมีจุดกำเนิดในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นร้านขายของเบ็ดเตล็ดย่านสำเพ็งชื่อว่า “เต๊กเฮงหยู” (ป้ายร้านเขียนว่า “เต๊กเฮ้งหยุ”)
เมื่อพี่อ้นมาถึง ก็มีเรื่องต้องปรับมากมาย โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการปรับทีมและวัฒนธรรมการทำงาน แถมยังมีเดดไลน์จ่อคออยู่คือต้องเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้น
พี่อ้นบอกว่า ถ้าก่อนมาเขารู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง พี่อ้นอาจจะไม่รับงานนี้ก็ได้
บางทีการไม่รู้จึงเป็นเรื่องดีที่สุด เพราะรู้แล้วอาจจะคิดมากจนเราไม่กล้าออกจาก comfort zone
4
.
2. 10=20
ก่อนจะรับงานที่โอสถสภา พี่อ้นโทรไปหาแม่เพื่อแจ้งข่าว ตอนแรกแม่ทักท้วงว่าจะหาเรื่องให้ตัวเองทำไม เพราะหากพี่อ้นอยู่ต่อที่ยูนิลีเวอร์จนเกษียณ พี่อ้นจะได้รับ package ก้อนใหญ่
2
แต่ก่อนวางสาย แม่พี่อ้นก็บอกว่า พออายุ 80 จะมีเงิน 10 ล้านหรือ 20 ล้านก็ไม่ต่างกัน สำคัญคือควรจะมีเงินเก็บพอที่จะดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนลูกหลาน เลยจากนั้นจะมีเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญแล้ว ถึงมีมากก็ไม่มีปัญญาใช้ ดังนั้นจงเลือกทางเดินที่เราจะไม่เสียดายทีหลัง
5
.
3. จุดแข็งคานจุดอ่อน
1
พี่อ้นถามพวกเราว่าเคยทำแบบทดสอบ StrenghtsFinder แล้วหรือยัง เอ็มยังไม่เคยทำ ส่วนผมกับอ้อเคยทำแต่ก็นานมาแล้ว
1
พี่อ้นแนะนำว่าควรทำอีกรอบ และควรมีที่ปรึกษาที่เข้าใจศาสตร์นี้มานั่งอธิบายให้เราฟัง แล้วเราจะเก็บเกี่ยวอะไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่า
StrengthsFinder เป็นแบบทดสอบที่ออกแบบโดย Gallup ใช้เวลาทำประมาณ 30-45 นาที เพื่อดูว่าใน 34 “ธีม” มีด้านไหนที่เราโดดเด่นที่สุด
2
ธีมของพี่อ้น 5 ข้อแรกคือ – Arranger, Relator, Developer, Maximizer และ Responsibility
พี่อ้นบอกว่า เราควรรู้จุดแข็งตัวเองเพื่อที่จะได้พัฒนามันไปให้ถึงที่สุด
ข้อดีอีกอย่าง คือเราสามารถใช้จุดแข็งมา “คาน” กับจุดอ่อนของเราได้
ยกตัวอย่างเช่น พี่อ้นเป็นคนคิดเยอะและคิดนาน พี่อ้นเลยเลือกใช้หนึ่งในจุดแข็งของตัวเองคือ Responsibility ด้วยการตั้งเดดไลน์ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้ภายในเมื่อไหร่
4
แม้จะเป็นคนคิดเยอะ แต่เมื่อมีเส้นตายชัดเจน ความเป็นคนรับผิดชอบของพี่อ้นเลยช่วยให้สามารถตัดจบได้
.
4. เรื่องคนต้องคิดให้จบ
2
ในช่วง 2 ปีแรกของการทำงานที่โอสถสภา พี่อ้นใช้เวลาเรื่องคนเยอะที่สุด เพราะหากไม่จัดการเรื่องนี้ก็จะไม่สามารถ IPO ได้
ผู้บริหารหลายคนอยู่มาหลายสิบปี บางคนพร้อมจะไปต่อ แต่บางคนก็ไม่
ด้วยความที่พี่อ้นมี Developer เป็นหนึ่งในจุดแข็ง พี่อ้นจึงใช้การโค้ช ซึ่งมีอยู่สองแบบคือ coach in กับ coach out
Coach in คือชวนคุยให้คนคนนี้พร้อมเดินและเติบโตไปกับเรา
4
Coach out คือชวนคุยให้เขาเห็นว่าเขาน่าจะเหมาะกับที่อื่นมากกว่า
สิ่งสำคัญสำหรับการ coach out คือเราต้องให้เกียรติเขา ทุกบทสนทนาเกิดขึ้นแบบตัวต่อตัว และเมื่อถึงวันที่เขาตัดสินใจที่จะไป เขาควรเดินออกไปอย่างมี dignity
3
พี่อ้นเน้นว่าการดีลกับคนต้องทำในช่วงเวลาที่เรา “นิ่ง” ที่สุด ถ้าเร่งจะพลาด
1
ดังนั้น ก่อนการพูดคุย เราควรคิดมาอย่างละเอียด ว่าหากอีกฝ่ายตอบว่าอย่างนี้ เราจะไปอย่างไรต่อ มี mindmap และ decision tree ในหัวอย่างชัดเจน
2
เรื่องคนต้องคิดให้จบ ถ้ายังคิดไม่จบอย่าเพิ่งคุย
3
.
5. โมโหคือแพ้
แม้จะเตรียมตัวมาอย่างดีเพียงใด การพูดคุยก็ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค เพราะบางคนอาจจะมีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกับเรา หรือบางคนอาจจะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวพันด้วยมากเป็นพิเศษ
พี่อ้นบอกว่าสิ่งสำคัญคือห้ามโมโห โมโหคือแพ้
7
.
6. Live One Level Below
4
พ่อสอนพี่อ้นตั้งแต่เด็กว่า ถ้าอยากมีชีวิตที่เป็นอิสระ จงอย่าเป็นหนี้ใคร
7
พี่อ้นจึงเป็นคนไม่มีหนี้ อยากซื้ออะไรก็จะเก็บเงินก่อนเสมอ แม้กระทั่งคอนโดก็ซื้อด้วยเงินสด
2
พี่อ้นมีลูกสองคน ลูกชายเรียนจบแล้ว ส่วนลูกสาวกำลังเรียนอยู่ปี 4
ตอนแรกลูกชายพี่อ้นเรียนโรงเรียนอินเตอร์ แต่พอเห็นว่าลูกไม่ยอมกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง บ่นว่าร้อน คุณพ่อจึงตัดสินใจให้ไปเข้าโรงเรียนไทย ให้หัดไปต่อคิวซื้อข้าวในโรงอาหาร
4
“การเลือกโรงเรียนคือการเลือกไลฟ์สไตล์ให้ลูก” พี่อ้นกล่าว
3
พี่อ้นเป็นคนไม่ใช้ของแบรนด์เนม ลูกสาวพี่อ้นจึงไม่ติดของแบรนด์เนมเช่นกัน
3
“Live one level below what you can afford.” แล้วเราจะรู้สึกว่ามีเงินพอใช้ตลอด
11
คนไม่น้อยชอบทำตรงกันข้าม คือ Live one level above.
4
.
7. วัยสี่สิบกว่าคือนาทีทอง
ผมถามพี่อ้นว่า พวกเรา mentee ทั้งสามคนอยู่ในวัยสี่สิบต้นๆ มีอะไรที่พวกเราควรระวังเป็นพิเศษรึเปล่า
พี่อ้นบอกว่าวัยสี่สิบคือช่วงที่ดี เพราะเรามีประสบการณ์มากพอ ยังมีกำลังวังชา ลูกยังฟังเราอยู่ คนรอบตัวยังไม่เจ็บไม่ตาย นี่คือช่วงชีวิตที่เราสามารถทำอะไรได้อย่างเต็มที่
13
ในวัยนี้เราจึงควรมีเวลาได้คุยกับตัวเอง ตอบตัวเองให้ได้ว่าแท้จริงแล้วเราต้องการอะไร อะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับเรา
4
พี่อ้นยังบอกอีกว่า แต่ละวันที่เริ่มทำงาน เราควรรู้ว่าภาพใหญ่คืออะไร สิ่งที่เราทำในวันนี้มันจะไปต่อจิ๊กซอว์ตัวไหน
4
เพราะหากเราทำงานโดยไม่เห็นภาพใหญ่ ชีวิตจะเหนื่อยมาก
3
-----
Reflections
– ใน StrenghtsFinder ธีมที่พี่อ้นได้คะแนนรั้งท้ายคือ Command และ Significance ซึ่งโดยปกติเรามองว่าน่าจะจำเป็นสำหรับ CEO แต่พี่อ้นก็แสดงให้เห็นว่าผู้นำมีได้หลายแบบ ดอกไม้มีได้หลายสี เราสามารถเป็นผู้นำในสไตล์ของเราได้ ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร
5
– “เรื่องคนต้องคิดให้จบ” – ผมทำงานส่วนของ HR เมื่อมองย้อนกลับไป หลายครั้งผมยังเตรียมตัวไม่ดีพอ ไปด้นเอาหน้างานเสียเยอะ เป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงและคิดให้รอบคอบกว่านี้
– “วัยสี่สิบกว่าคือนาทีทอง” ผมไม่เคยคิดมุมนี้มาก่อน แต่เมื่อพี่อ้นสะกิดก็เห็นจริงดังว่า อะไรที่อยากทำจึงควรลงมือทำเสียตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับมาจะได้ไม่เสียดายทีหลัง
3
– ในวันแรกของโครงการ IMET MAX เราได้ “พี่ใหญ่” ซึ่งเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีและอดีต mentor ของ IMET MAX มาแชร์ประสบการณ์ เมื่อมีคนในห้องถามว่า ถ้าตอนนี้พี่ใหญ่อายุเท่าพวกเรา พี่ใหญ่น่าจะกำลังทำอะไรอยู่
พี่ใหญ่ตอบว่า “คงกำลังโลดแล่นในทุกทาง”
2
วัยสี่สิบกว่าคือนาทีทอง เราจึงควรหาให้เจอว่าอะไรสำคัญ พัฒนาจุดแข็งเพื่อปิดจุดอ่อน แล้วออกไปโลดแล่นในทุกทาง
5
ขอบคุณ IMET MAX พี่อ้น อ้อ เอ็ม สำหรับบทสนทนาที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความปรารถนาดี
แล้วพบกันใหม่เร็วๆ นี้ครับ
โฆษณา