13 พ.ค. 2023 เวลา 16:31 • การศึกษา

ก็เป็นโพสต์ที่ 4 แล้วนะคะ สำหรับการพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตการเรียน แพทย์ที่โรมาเนีย

โพสต์นี้ก็จะพูดถึงระบบการเรียนการสอนภายในมหาวิทยาลัยแล้วนะคะ (Disclaimer!! รายละเอียดส่วนใหญ่จะเป็นของมหาวิทยาลัยที่ DeL เรียนอยู่ค่ะ แต่ระบบโดยพื้นฐานส่วนมากจะเหมือนกัน)
เรียนกี่ปี กี่เทอม?
อย่างที่เคยได้พูดถึงในโพสต์ก่อนๆ ที่โรมาเนีย แพทย์(MD) เรียนทั้งหมด 6 ปีค่ะ แบ่งเป็น Pre-clinic and Clinic เหมือนกับที่ไทยเลยค่ะ
ในหนึ่งปีจะเรียนทั้งหมด 2 เทอม, เทอมล่ะ 2 module (โมดูล) รวมทั้งหมดปีละ 4 module ค่ะ โดยแต่ละโมดูลก็จะมีจำนวนรายวิชาไม่เท่ากันค่ะ บ้างก็ 3 บ้างก็ 4
แต่ในทุกโมดูลจะต้องเรียนวิชาเลือก 1 วิชาค่ะ
โดยที่ 1 โมดูลจะเรียนทั้งหมด 7 สัปดาห์ค่ะ หลังจากนั้นก็หยุด ประมาณ 1 สัปดาห์และจะสอบค่ะ และจะเป็นแบบนี้ทุกๆโมดูลค่ะ
ลักษณะการเรียนการสอนโดยรวม สิ่งที่ใช้ประกอบการเรียนการสอน📚
ในแต่ละวิชาจะพอมีภาคทฤษฎีและปฏิบัติค่ะ ภาคทฤษฎีก็จะเป็นการเรียน Lecture ส่วนปฏิบัติก็จะเรียนเป็น PA (practical activity) ซึ่งอาจจะเรียนต่อกันเลย หรือเรียนคนละวันก็ได้ค่ะ แล้วแต่ตารางที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ จะไม่มีการเลือกลงเรียนเป็นรายวิชา หรือเลือกเวลาเรียนนะคะ
การเรียนการสอนจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดค่ะ ทั้ง lecture และ PA อ.จะอธิบายทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ มีการใช้ power point ในการอธิบายทุกวิชาค่ะ ส่วนจะได้ power point เมื่อไหร่นั้น แล้วแต่อาจารย์เลยค่ะ 5555555 บางคนก็ให้ก่อน บางคนให้หลัง บางคนไม่ให้เลย🙃 แล้วแต่แกเลยค่ะ
แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ มีหนังสือค่ะ มีทั้งแบบ PDF แล้วก็เป็นพิมพ์เป็นเล่มค่ะ (ซื้อได้ที่ร้านหนังสือมหาลัยค่ะ หรือจะสั่งในเว็บแล้วไปรับก็ได้ค่ะ เพราะบ่อยครั้งที่นักศึกษาอยากได้ มันมักจะหมดค่ะ 😭) หรือบางคนก็เอา PDF ไปปริ้นที่ร้านถ่ายเอกสารก็ได้นะคะ แล้วแต่สะดวกเลย
และจะมีการใช้หนังสืออื่นๆ นอกเหนือจากหนังสือและไฟล์จากอ. ด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นวิชา anatomy ค่ะ พวก "Gray's anatomy" (ที่ไม่ใช่ซีรีย์นะคะ🤣) , Netter (อันนี้ภาพสวยค่ะ) หรือเพราะมหาลัย DeL เรียนเป็นภาษาละติน ก็จะใช้ "Sobotta" ค่ะ และด้วยแรกกายแรงใจของเพื่อนๆ แบบ PDF ก็มีเช่นกันค่ะ😎
นอกจากหนังสือแล้วก็จะมี app "Complete Anatomy" ที่ทางมหาวิทยาลัย มีcode ให้เราได้ใช้ฟรีค่ะ
Sobotta 1เซ็ตจะมี 4 เล่มค่ะ อันนี้คือใช้จนจบได้เลยค่าา
ที่นี่ไม่มีความจะเป็นที่จะต้องใช้ ipad หรือ tablet ประกอบการเรียนค่ะ แล้วแต่ที่ตัวเราสะดวกเลย แต่ส่วนใหญ่ก็มีกันนะคะ ส่วนตัวDeL นั้นไม่ใช้ค่ะ ถนัดแบบอ่านจากหนังสือมากกว่า แต่ก็มี laptop ค่ะ เพราะบอกเลยว่า เรียนแพทย์ จอเดียวไม่พอค่ะ 5555555 โทรศัพท์ก็ split screen laptop ก็ เปิดเป็นสิบๆ tab 5555555
Lecture ก็จะนั่งเรียนที่ห้องเดียวกันทุกวิชา ปีนี้ ที่มหาลัย DeL ไม่บังคับเข้า lecture ค่ะ จะไปหรือไม่ไปก็ได้ ไม่มีการเช็คชื่อ สามารถผ่านวิชานั้นๆได้เหมือนกันหมดค่ะ
แต่ได้ข่าวมาแว่วๆว่าปีหน้า จะบังคับเข้าเหมือนเดิมค่ะ ส่วนอ.สอนเข้าใจหรือเปล่านั้นก็..... เอ่อ... คือว่า เลยแต่เลยค่ะ 555555555 แล้วแต่วิชา แล้วแต่คน บางคนน่ารัก แต่วิชาไม่น่ารัก บางครั้งคนไม่น่ารักแต่วิชาน่ารัก และบางครั้งก็ ไม่น่ารักทั้งคนทั้งวิชาเลยค่ะ 🤣🤣 แล้วแต่ดวง แต่ถ้าได้เพื่อนดี ก็ช่วยกันสุดฤทธิ์เหมือนกันนะคะ✨✨
สำหรับ PA บังคับเข้าทุกคาบค่ะ การเรียนการสอนก็จะแตกต่างกันไปตามแต่วิชา อย่าง Anatomy ก็จะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่, อวัยวะเป็นอันๆ หรืออวัยวะในโหลค่ะ ซึ่งจะได้เรียนตั้งแต่ ปีหนึ่งเลยค่ะ🎉🎉🎉🎉 ส่วนการเรียนเป็นยังไงบ้าง ของอนุญาตอุบอิบ เก็บไว้เล่าแยกนะคะ เพราะว่าบันเทิง มากกกก
ส่วนวิชาอื่นๆเช่น Biochemistry, Biophysics ก็จะทำการทดลองใน Lab ค่ะ
Cell biology, histology จะได้ส่อง microscope เพราะจะต้องเรียนกับเนื้อเยื้อค่ะ
Medical informatics ก็ใช้ห้องคอมค่ะ
First aid (basic) ก็จะมีการใช้หุ่น ฝึกทำ CPR ค่ะ มีทั้งหุ่น Adult, Child and infant ครบถ้วนค่ะ
การสอบและเครดิต
และในเมื่อเรามีเรียนทั้ง ทฤษฎีและปฏิบัติทุกวิชา ฉะนั้นการสอบก็จะมีทั้ง ทฤษฎีและปฏิบัติเช่นกันค่ะ โดยที่จะต้องผ่านทั้งสองอย่างถึงจะได้เครดิตของวิชานั้นๆ
การสอบทฤษฎีที่มหาลัย DeL เรียกว่า "Summative" จะสอบประมาณ 1 อาทิตย์หลังจากอาทิตย์สุดท้ายที่มีการเรียนการสอนในแต่ละโมดูลค่ะ เป็นข้อสอบปรนัย (multiple choice) ล้วนค่ะ และถ้าถามว่ายากมั้ย อาจจะดูกวนๆนะคะ แต่ ถ้าอ่านก็ไม่ยากค่ะ แต่ต้องอ่านแบบชนิดที่ว่า จำได้แม่นๆ จำได้แน่ๆ แบบนั้นค่ะ เพราะอาจารย์แกบางครั้งก็ยกประโยคในหนังสือมาเลยค่ะ แต่แน่นอนว่าเราต้องเข้าใจด้วยนะคะ
ปริมาณคำถามก็แล้วแต่เครดิตของวิชานั้นๆค่ะ บ้างก็ 10 ,20 หรือ 50 ค่ะ โดยเราต้องได้อย่างต่ำ 5 ถึงจะผ่านนะคะ (ไม่ใช่ 5 เต็ม 50 นะคะ มหาลัยเค้าจะมีระบบคิดคำนวณของเค้า 5 ก็ ประมาณครึ่งหนึ่งค่ะ)
แต่!!!!!!!! เรื่องของเรื่องคือ มันไม่ใช่ข้อละ 1 คำตอบ นะคะ บางข้อ 1 บางข้อ 2 (🫣) แล้วถามว่าเราจะรู้ได้ยังเอ่ยยยว่าข้อไหน 1 คำตอบ ข้อไหน 2.... ไม่รู้ค่ะ DeL ไม่รู้วววววว
ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด เพราะเค้าไม่ได้เขียนไว้ในกระดาษคำถามค่ะว่าข้อนี้มี 1 ข้อนี้มี 2 เราต้องรู้เองค่ะ แต่บางครั้งเราอาจจะดูได้ key word บางคำในคำถาม เช่น "is" หรือ "are" แต่ก็ใช้ไม่ได้เสมอไปค่ะ
ถ้าอ.บางท่านน่ารัก ก็อาจจะมีการจุดไว้เป็นสัญลักษณ์ว่าข้อนี้มี 1 คำตอบนะ แต่ก็น้อยค่ะ น้อยมาก
ส่วนการสอบปฏิบัติ สำหรับ DeL มันเป็นการสอบที่วุ่นวายมากกกกค่ะ อาจารย์จะนัดวัน/ให้เราเลือกเอง ซึ่งอาจจะมีวิชาละ ครั้ง สองครั้ง หรือ สามครั้ง อาจจะสอบ อาทิตย์ที่ 4 ของการเรียน หรือ วันก่อน Summative เรามิอาจรู้ได้จนกว่าจะใกล้ถึงเวลาค่ะ.........
แต่ก็จะมีการบอกเนื้อหาสอบ และลักษณะการสอบตั้งแต่ต้น module แล้วค่ะ เลยจะไม่ยากมาก และส่วนใหญ่อ.ก็จะพยายามช่วยเราด้วยเช่นกันค่ะ(ย้ำนะคะว่าส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทุกคน)
แล้วถ้าเราผ่านแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจจะไม่ผ่านเลย จะทำยังไงหล่ะ?
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไป Re-session อย่างเดียวเลยค่ะ โดยจะมีจัดขึ้นทุกๆเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม ของทุกปีค่ะ (Summer) เงื่อนไขในการเข้าไปสอบ re-session นั้น เราจะต้องมีอย่างต่ำ 30 เครดิตค่ะ จึงจะสามารถเข้าไปสอบได้ (แต่ถ้าใครเริ่มเรียนสาย 3 อาทิตย์เพราะมีปัญหาเรื่อง visa จะได้รับสิทธิ์ตรงเข้า re-session ทันที โดยที่ไม่ต้องมี 30 เครดิตค่ะ)
โดยที่ Re-session จะมีทั้งหมด 2 รอบค่ะ โดยที่รอบแรกจะฟรี และรอบสองจะต้องเสียเงินรายวิชาค่ะ
โดยที่ ถ้าเราตกอันไหน เราก็สอบแค่อันนั้น หมายความว่า ถ้าตกทฤษฎี ก็สอบแค่ทฤษฎี ถ้าตกแค่ปฏิบัติก็สอบแต่ปฏิบัติค่า
มาพูดถึงระบบเครดิตของที่นี่กันค่ะ💳
ก็จะเหมือนทั่วๆไปเลยค่ะ แต่ละวิชาจะมีเครดิตไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความยากง่าย(ซึ่งบอกตรงนี้เลยค่ะว่า ไม่เสมอไปค่ะ) แล้วก็เป็นวิชาหลักหรือเปล่า โดยในปี 1 ที่ DeL เรียน วิชาที่มีเครดิตสูงสุดคือ Anatomy I = 6 เครดิตค่ะ ส่วนต่ำสุดคือ 1 เครดิตซึ่งมีหลายวิชาค่ะ
และในแต่ละวิชา เราจะต้องผ่านทั้ง ทฤษฎีและปฏิบัติถึงจะได้เครดิตจากวิชานั้นๆค่ะ
และทุกๆโมดูลเราจะต้องเรียนวิชาเลือก 1วิชา
ซึ่ง =1 เครดิต
และเพื่อให้ผ่านแต่ละชั้นปี นอกจากเรียนวิชาหลักแล้ว:
  • ต้องมีการไป night shift ที่โรงพยาบาล 4 ครั้ง
  • มีการเข้าเรียน Sports อย่างต่ำโมดูลละ 5 ครั้ง
  • ต้องได้เครดิตจาก วิชาภาษาโรมาเนีย
  • ตอนปิดการศึกษาจะต้องมีการไปฝึกงานที่ รพ.ประมาณ 1 เดือนค่ะ
ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ก็จะได้เครดิตทั้งหมดเช่นกันค่ะ
ในแต่ละปีจะมีทั้งหมด 60 เครดิตค่ะ ฉะนั้น
6 ปี = 360 เครดิต ค่ะ
การที่เราจะผ่านแต่ละปีไปได้ เราต้องมีอย่างต่ำ 50 เครดิตค่ะ แต่สุดท้ายแล้วเราก็จะต้องเรียนให้ครบในชั้น
ปีต่อไป เช่น ถ้าสมมุติว่า เราไม่ได้เครดิตวิชา Anatomy I แต่เครดิตโดยรวมเรามีมากกว่า 50 เครดิต เราก็สามารถขึ้น ปี2 ได้ แต่ ตอนที่เราเรียน ปี 2 นั้น เราต้องหาเวลาเข้าเรียน Anatomy I และต้องสอบทุกอย่างให้ผ่านเพื่อที่จะได้เครดิต อยู่ดีค่ะ กล่าวคือ ยังไงจบจะ 6 ปี เราจะต้องมีให้ครบ 360 เครดิตอยู่ดีค่ะ
แล้วถ้าสมมุติว่าสอบ re-session ทั้งสองครั้งแล้วก็ยังมีไม่ถึง 50 เครดิตอยู่ดี ก็ต้องซ้ำปีนั้นๆอีกครั้งหนึ่งค่ะ เพียงแต่เราก็เรียนแค่วิชาที่เราต้องเก็บเครดิตเท่านั้นค่ะ อันไหนผ่านแล้วก็ไม่ต้องเรียนซ้ำค่ะ
อาจจะฟังดูน่ากลัวอยู่บ้าง แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ ที่นี่การตก หรือเรียนซ้ำชั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรค่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องอาย เพราะมันเป็นไปได้ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ DeL เรียน ,"George Emil Palade University of Medicine pharmacy science and technology", ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ ทุกคนที่โรมาเนียต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องเรียนหนักที่สุดค่ะ (อันนี้ได้ข้อมูลมาจากคนโรมาเนียแท้ๆเลยค่ะ)
และจากประสบการณ์ก็ต้องบอกว่าจริงค่ะ เรียนจุกๆเลยค่ะ จบเรื่องกระดูกทั้งตัว + upper & lowe limbs (แขนขา ,ทุกอย่างเลยค่ะ กล้ามเนื้อ เส้นเลือด เส้นประสาท) ภายใน 1 โมดูล: 7 อาทิตย์ค่ะ
สำหรับ DeL นะคะ คิดว่าตัวเราต้อง Work smarter not harder แน่นอนว่าต้อง work hard เหมือนกันค่ะ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องวางแผนการเรียนให้ดีด้วยค่ะ เพราะในบางครั้ง ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็อาจจะต้องยอมแลก, ยอมตกบางวิชา เพื่อให้เราสามารถรับมืออะไรอะไร ได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ DeL คิด วิธีที่ใช้ อาจจะดูแปลก แต่ DeL เชื่อว่า แต่ละคน มีวิธีการเรียนของตัวเอง วิธีนี้เป็นวิธีที่ DeL ใช้เลยอยากมาบอกต่อ เพื่อให้ทุกๆคนเห็นแง่มุมที่หลากหลายเท่านั้น คนที่สอบผ่านทุกวิชา โดยไม่ตกเลยก็มีค่ะ ซึ่ง DeL นับถือมากๆ เพราะเค้าทำงานหนัก และสมควรที่จะได้รับผลลัพธ์ที่ดีจริงๆ
เราควรจะต้องทดลอง หาวิธีที่เหมาะสมกับเราที่สุด เพราะเราต้องอย่าลืมว่า การเรียนแพทย์ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เป็นสายการเรียนที่หนัก ฉะนั้นนอกจากเรียนแล้วเราก็ควรจะ ทำงานอดิเรกที่เราชอบ ออกไปเที่ยว ไปทานข้าวกับเพื่อนบ้าง (บางครั้ง DeL ยังไปเดินสวนสาธารณะคนเดียวเลยค่ะ เพราะที่นี่อากาศดีมากกกและเมืองที่ DeL อยู่ค่อนข้างปลอดภัยเลยค่ะ) เพื่อที่เราจะได้ไม่รู้สึกเครียดหรือกดดันตัวเองมากเกินไป เราต้อง work life balance นั้นเองค่ะ
การเรียนแพทย์เป็นการเรียนที่ยาวนานมาก เผลอๆอาจจะตลอดชีวิตด้วยซ้ำ ในเมื่อเราอาจจะต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอดชีวิต DeL ก็เลยคิดว่าเราก็ควรจะอยู่กับมันให้ได้อย่างมีความสุข อย่าไปเครียดมากนัก แน่นอนว่าอุปสรรคมันมีอยู่แล้วค่ะ ถ้ามีปัญหา ก็แก้ไข ทุกปัญหา มีทางแก้ อาจจะช้าหน่อย แต่สุดท้าแล้วเราแก้ได้แน่นอน อุปสรรคเป็นสิ่งที่ทำให้เราเติบโต ณ เวลานั้นเราอาจจะไม่ยินดีกับมัน แต่เชื่อเถอะค่ะว่า พอเราผ่านมันไปได้ แล้วเรากลับมาย้อนดู เราอาจจะนั่งหัวเราะ, ยินดี หรือขอบคุณสิ่งเหล่านั้นก็ได้ค่ะ
สุดท้ายแล้ว DeL อยากจะขอให้ทุกๆคนผ่านพ้นอุปสรรคของตัวเองไปให้ได้นะคะ และถ้าใคร มีอะไรมาแลกเปลี่ยน แบ่งปันกัน หรือมีคำถามอะไร DeLstories ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ
โพสต์นี้ค่อนข้างยาวเลยทีเดียว55555555 แต่ก็หวังว่าทุกคนจะเพลิดเพลินไปกับมันนะคะ
May the Science be with you all kaaaa💫
โฆษณา