11 ม.ค. เวลา 12:00 • การ์ตูน

ความสัมพันธ์ชั่วนิรันดร์อันซับซ้อนของอารารากิและชิโนบุใน Monoagatari (ตอนท้าย)

“ไม่ว่าความสัมพันธ์แบบไหนที่เจ้าสร้างขึ้นมา กาลเวลาจะฉีกมันเป็นเสี่ยง ๆ ความคิดนั้นไม่ทำให้เจ้าคลื่นไส้เลยหรือ” ชิโนบุกล่าวประหนึ่งผู้ที่สิ้นหวังกับความสัมพันธ์ แต่ชุดความคิดนี้จะเปลี่ยนเพราะความสัมพันธ์บนบาดแผลของเขาและเธอ (สปอยเนื้อหาตลอดทั้งเรื่อง Monogatari)
ในเรื่อง Mayoi Jiangshi หนึ่งในเรื่องราวของซีซั่นที่สองที่อารากิและชิโนบุย้อนเวลาไปช่วยชีวิตฮาจิกุจิเมื่อยังมีชีวิตอยู่เมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว เมื่อทั้งคู่กลับมาสู่โลกสิบเอ็ดปีให้หลังหลังจากสำเร็จภารกิจ พวกเขาพบว่าโลกพังทลายลง และชิโนบุก็อธิบายว่าต้นเหตุนั้นคือตัวเธอเอง มันเป็นครั้งแรกที่เราเห็นชิโนบุรู้สึกแย่กับการกระทำของเธอ กระทั่งเอ่ยปากขอโทษ แม้ว่าต้นเหตุนั้นไม่ใช่ตัวเธอจริง ๆ แต่เป็นเธอในโลกคู่ขนาด
อารารากิและชิโนบุใน Mayoi Jiangshi หรือ Kabukimonogatari ใน Monogatari 2nd Season
สาเหตุที่เธอทำลายล้างมนุษยชาติเป็นเพราะว่าอารารากิตาย คนเดียวที่ผูกพันกับการมีชีวิตอยู่ของเธอจากไปแล้ว เธอจึงกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง และไร้เหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ อารารากิตายเพราะในตอนจบของ Bakemonogatari เขาไม่ได้ขอร้องให้ชิโนบุที่หายตัวไปช่วยชีวิตเขาจากมือของปีศาจแมว เพราะในเส้นเรื่องคู่ขนานนั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอหายตัวไป
ฮาเนะคาว่ากำลังฆ่าอารารากิใน Tsubasa Cat ใน Bakemonogatari
คนที่ทำลายล้างโลกคือชิโนบุที่สิ้นหวังกับการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น เป็นชิโนบุคนเดียวกันกับที่เราพบใน Kizumonogatari แน่นอนว่าใน Kizumonogatari เธอยังมีความหวังอยู่บ้าง แม้ว่าจะถูกทำลายไปหลายครั้งหลายคราก็ตาม แต่ใน Mayoi Jiangshi ความตายของอารารากิทำให้ความหวังนั้นสูญสิ้นไป
ถ้าเราตรวจสอบความเติบโตในด้านความหวังของชิโนบุดี ๆ ใน Kizumonoagatari จน Bakemonogatari เธอไม่มีความหวังในความสัมพันธ์มากเท่าไหร่นัก แต่เมื่ออารารากิขอร้องให้เธอช่วย ความหวังนั้นจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเธอเข้าใจว่าเธอยังมีความสำคัญต่อเขาอยู่ ในตอนหนึ่งของ Mayoi Jiangshi เมื่ออารารากิเสนอให้จุดดอกไม้ไฟเผื่อว่าจะพบเจอผู้รอดชีวิต เขาบอกเธอว่าอย่าตั้งความหวังไว้สูงมาก แต่เธอกลับบอกว่า “ทำไมมองโลกในแง่ร้ายแบบนั้น ต้องมีความหวังเหลือไว้สักหน่อยสิ”
อารารากิและชิโนบุใน Mayoi Jiangshi ใน Monogatari 2nd Season
เพื่อแก้ไขโลกที่พังทลายลงไป ทั้งสองต้องไปเผชิญหน้ากับชิโนบุร่างสมบูรณ์ที่รอดจากการฆ่าตัวตาย นั่นคือคำแนะนำสุดท้ายที่โอชิโนะในโลกนั้นฝากเอาไว้ในจดหมาย เมื่อราชินีแวมไพร์ปรากฏตัว และเห็นทั้งสองที่สนิทสนมกันอยู่ต่อหน้า เธอหัวเราะ และหลั่งน้ำตาออกเป็นสายเลือด กล่าวว่า “งั้นหรือ การที่เราสนิทสนมกันขนาดนั้นมีความเป็นไปได้ด้วยงั้นสินะ” ชิโนบุของเราตอบกลับไปว่า “เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อว่าข้าจะสิ้นหวังได้ขนาดนั้น หากตัวข้าเชื่อใจอารารากิมากกว่านี้ โลกก็คงไม่เป็นไปนี้”
Kiss-shot Acerola-Orion Hear-Under-Blade ผู้สิ้นหวังใน Mayoi Jiangshi ใน Monogatari 2nd Season
ราชินีแวมไพร์นั่งลง แล้วบอกว่าจะช่วยแก้ไขโลกนี้ให้ และจะส่งทั้งสองกลับสู่เส้นเรื่องเดิม โดยการให้ชิโนบุดูดเลือดของเธอจนหมด แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อนำทั้งสองกลับไป เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอในโลกนี้ก็จะได้ตายสมใจอยาก และสิ่งสุดท้ายที่ราชินีขอร้องอารารากิของเราให้ทำเพื่อเธอ คือเพียงลูบหัวเธอแบบที่เขาเคยทำ
เมื่อทั้งสองกลับมาสู่เส้นเรื่องหลัก ชิโนบุอธิบายว่าความตายของเธอในเส้นเรื่องนั้นจะทำให้มนุษย์ที่กลายเป็นกึ่งแวมไพร์กึ่งซอมบี้กลับมาเป็นมนุษย์ แต่ในเส้นเรื่องนั้น อารารากิตายก่อนที่โลกจะพังทลายลง เพราะฉะนั้น เขาคงฟื้นคืนชีพไม่ได้เหมือนกับคนอื่น ๆ อารารากิตอบว่า นั่นคงเป็นความต้องการของเขาในเส้นเรื่องนั้น เพราะสัญญาของเขาระหว่างเธอ หากเธอตาย เขาก็จะตายตาม
Heart-Under-Blade อยู่อย่างสันโดษตลอดหกร้อยปี โดยปราศจากความสัมพันธ์ลึกซึ่งกับใครอื่น มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เรียกนางว่า Kiss-Shot นั่นคือ บ่าวคนแรกของนาง และอารารากิ การฆ่าตัวตายประชดเธอของบ่าวคนแรกเป็นบาดดแผลในจิตใจของเธออย่างมาก ทำให้เธอตัดสินใจที่จะไม่มีใครอยู่ในชีวิตอีก
ใน Shinobu Mail หนึ่งในเรื่องของ Owarimonogatari ภาคแรก บ่าวคนแรกนั้นกลับมาปรากฏตัว โดยที่เขาต้องการที่จะขอโทษ Kiss-Shot และมาเพื่อขอร้องกลับมาเป็นนายบ่าวอีกครั้ง ชิโนบุปฏิเสธที่จะพบบ่าวคนแรก โดยที่เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการที่จะพบหน้าเขา เพื่อที่จะบอกว่าเธอเลือกอารารากิ อารารากิเองก็ไม่ยอมให้ใครอื่นเอาชิโนบุคู่บุญไปจากเขา และบ่าวคนแรกก็รักชิโนบุจนไม่ต้องการจะแชร์เธอให้กับบ่าวคนอื่น
เซอิจิโร่ บ่าวคนแรกของราชินีแวมไพร์ ใน Shinobu Mail ใน Owarimonogatari Part 1
อารารากิและบ่าวคนแรกจึงสู้กันเพื่อแย่งชิงเธอ บ่าวคนแรกโอดครวญว่า แม้กระนั้น เธอก็ไม่ยอมมาพบเขา เหตุผลที่เธอไม่ยอมมาพบเขา เพราะเธอไม่เลือกเขา เธอเลือกอารารากิ แต่กลัวว่าคำปฏิเสธของเธอจะทำร้ายจิตใจรักแรกของเธอ ซึ่งคนที่มองเห็นข้อนี้ของชิโนบุคือกัมบารุ
กัมบารุคือรุ่นน้องที่มีอุ้งมือลิงซึ่งเกิดจากความอิจฉาริษยาอารารากิที่ได้คบกับเซนโจวกาฮาระทั้งที่เธอรักเซนโจกาฮาระก่อน กัมบารุกล่าวว่า เธอเข้าใจดีถึง “ความรู้สึกของคนที่มาก่อนแต่เป็นที่สอง” เป็นความรู้สึกที่ไม่ต่างจากบ่าวคนแรก แม้ว่าเขามาก่อน แต่กลับเป็นได้เพียงที่สอง จริงอยู่ที่มันคือความเจ็บปวด แต่ความชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญในความสัมพันธ์
กัมบารุที่พูดจาไม่เข้าหูชิโนบุ ใน Shinobu Mail ใน Owarimonogatari Part 1
บัดนี้ ชิโนบุสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนธรรมดา ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กแบบที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน มีคู่หูที่ไว้ใจได้ มีเพื่อนที่แม้จะตบตีกันแต่ก็ช่วยเหลือกัน เธอเป็นคนอีกครั้ง และไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป และสิ่งที่ต้องแบกรับจากความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์คือการปฏิเสธความสัมพันธ์ แม้ว่าคำพูดนั้นจะทำร้ายจิตใจผู้รับ แต่มันย่อมดีกว่าการปล่อยเบลอให้อีกฝ่ายค้างคาตลอดไป
และชิโนบุก็ทำตามคำแนะนำของกัมบารุที่เกือบตายเพราะพูดจาไม่เข้าหูเธอ เมื่ออารารากิสามารถสยบบ่าวคนแรกได้ และกำลังจะปลิดชีพเขา ชิโนบุปรากฏตัวเพื่อสั่งลาบ่าวคนแรกของเธอทั้งน้ำตา “ข้าดีใจมากที่ได้พบเจอเจ้าอีก เพราะข้าคิดว่าจะไม่มีวันเจอเจ้าอีกแล้ว แต่ข้าเจอคนที่ข้าอยากจะฝากชีวิตเอาไว้มากกว่าแล้วในตอนนี้ ขอโทษนะ” เธอแบกรับความเป็นมนุษย์นั้น
ใน Zoku Owarimonogatari เราได้พบเจอกับ Kiss-Shot Acerola-Orion Heart-Under-Blade ที่ไม่ใช่ทั้งแวมไพร์ ไม่ใช่ทั้งเด็กที่ชื่อว่าชิโนบุ แต่ในร่างของมนุษย์ก่อนที่นางเป็นเป็นแวมไพร์ แม้ในตอนนั้นเอง แม้ว่านางจะเป็นเจ้าหญิงในปราสาทจริง ๆ นางก็ยังโดดเดี่ยวเพราะรูปโฉมที่งดงามของนาง อารารากิต้องคุยกับนางผ่านผ้าคลุม เขาไม่อาจเห็นหน้านางตรง ๆ ได้ และนั่นคือคำสาปขององค์หญิง
ปราสาทที่ Heart-Under-Blade อาศัยอยู่ ใน Zoku Owarimonogatari
ตลอดการสนทนา อารารากิคุกเข่าลงอย่างไม่รู้ตัวเมื่ออยู่ต่อหน้านาง และมีความคิดฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลา ภายหลังมีการเปิดเผยว่า Heart-Under-Blade เมื่อยังเป็นมนุษย์นั้นงามเกินกว่ามนุษย์จะรับได้ ความงามของนางเป็นภัยต่อมนุษย์ แม้ว่านางจะมีความอ่อนน้อมและไร้จิตสังหารก็ตาม ใครก็ตามที่เห็นความงามของนางตรง ๆ ต่างฆ่าตัวตายทั้งสิ้น เพราะทนรับความงามและความทรงเกียรตินั้นไม่ได้
แม้ว่านางจะเป็นมนุษย์ นางก็โดดเดี่ยว เพราะการมีชีวิตของนางเป็นอันตราย แม้นางจะไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นแวมไพร์ การมีอยู่ของนางก็เป็นภัยต่อมนุษยชาติ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม นางถูกสาปให้โดดเดี่ยวตลอดกาล นั่นสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเดี่ยว สันโดษ เงียบเหงาของนาง และความทุกข์และความสิ้นหวังในการปฏิสัมพันธ์ของนาง
ใน Owarimonogatari กาเอ็น อิซึโกะสังหารอารารากิและส่งเขาไปสู่นรกอเวจีตามแผนเพื่อสู้กับโอชิโนะ โอกิ เมื่อนั้น อารารากิกลับสู่ความเป็นมนุษย์ และพลังแวมไพร์หวนกลับสู่ชิโนบุอย่างสมบูรณ์ เธอกลับมาเป็น Heart-Under-Blade อีกครั้ง แต่เมื่อเขากลับมาจากนรก ชิโนบุร่างเต็มกลับไม่ได้เป็นภัยต่อมนุษย์ เพียงแต่เตรียมสังหารกาเอ็นหากเธอไม่สามารถดึงอารารากิกลับจากนรกได้ตามแผน
Hear-Under-Blade เตรียมสังหารกาเอ็น ใน Mayoi Hell ใน Owarimonogatari Part 2
แม้ว่าชิโนบุจะกลับมาเป็นผู้ใหญ่ แต่จิตสังหารของเธอไม่หลงเหลืออยู่เหมือนใน Kizumonogatari เธอเหมือนเป็นเด็กน้อยในร่างผู้ใหญ่ และต้อนรับอารารากิ นายท่านของเธอ เหมือนเพื่อนที่ห่างหายจากกันไปนาน แม้ว่าเธอจะกลับสู่ร่างสมบูรณ์
อารารากิโดนจับนั่งตัก Hear-Under-Blade ใน Ougi Dark ใน Owarimonogatari Part 2
ในการประชุม กาเอ็นถามแต่ละคนว่าต่างคนต่างมีความประสงค์อะไรบ้าง ชิโนบุร่างผู้ใหญ่ตอบเพียงแต่ว่า นางอยู่ฝั่งอารารากิ แต่หากเลือกได้อย่างหนึ่ง นางอยากกลับเป็นเด็กชิโนบุอีกครั้ง เมื่อปัญหาของ Owarimongatari คลี่คลายลง อารารากิเสียแขนขวา และมันไม่สามารถงอกออกมาเหมือนเก่าได้เนื่องจากเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา อารารากิกลับมาอยู่ในอ้อมแขนของชิโนบุ
กาเอ็นถามชิโนบุว่า ทำไมเธอถึงอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง นางตอบว่า ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก แม้ว่าจะบอก ผู้เชี่ยวชาญอย่างเธอก็คงไม่เข้าใจ (ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ เพราะกาเอ็นถูกสาปให้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กลับไม่มีความเข้าใจ) นางเพียงค้นพบความสุขครั้งแรกในชีวิตที่ยืนยาวของนาง ชีวิตอมตะไม่มีค่าอะไร หากไม่ได้ใช้มันร่วมกับผู้อื่น
ชิโนบุในตอนนี้ต่างจากตอนจบของ Kizumonogatari และในเรื่อง Bakemonogatari ในตอนนั้น นางชิงชังรังเกียจความคิดที่ต้องใช้ชีวิตอมตะอยู่ในร่างเด็กไร้พลัง แต่ในตอนนี้ นางกลับพึงพอใจและใฝ่หาชีวิตแบบนั้นมากกว่าสิ่งอื่นใด
อารารากิในอ้อมแขนของชิโนบุ คู่ชีวิตของกันและกัน ใน Ougi Dark ใน Owarimonogatari part 2
ชิโนบุกล่าวว่า หากนายท่านไม่ต้องการกลับไปเป็นมนุษย์กึ่งแวมไพร์ นางก็จะถอนความต้องการนั้น รักษาแขนขวาให้อารารากิ แล้วปลีกตนไปอยู่อย่างสันโดษบนเขาสักที่ ซึ่งอารารากิปฏิเสธ “ไม่ได้หรอก บนเขาไม่มีร้านมิสเตอร์ โดนัทหรอกนะ ชิโนบุ”
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ใช่ความรัก แต่เป็นมากไปกว่านั้น เป็นความสัมพันธ์บนบาดแผล ความสัมพันธ์ของวิญญาณสองดวงที่หลงทาง ทั้งคู่ได้มาเจอกัน แต่ผูกพันด้วยความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับจากการมีชีวิตอยู่ แต่ทั้งสองไม่ได้แบกรับมันอย่างสันโดษ หากแต่ยินดีและยินยอมต้อนรับมันด้วยกัน
“ถ้าเธอเลือกที่จะตายวันพรุ่งนี้ ฉันก็พอใจให้วันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าเธอจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้ ฉันก็จะมีชีวิตผ่านวันนี้ไป”
“ถ้าเธอเลือกที่จะตายวันพรุ่งนี้ ฉันก็พอใจให้วันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าเธอจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้ ฉันก็จะมีชีวิตผ่านวันนี้ไป”
“หากนายท่านตายในวันมะรืน ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกสามวัน เพื่อที่จะบอกกล่าวเล่าเรื่องราวของนายท่านด้วยความภาคภูมิแก่ผู้ที่สนใจรับฟัง”
"หากนายท่านตายในวันมะรืน ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกสามวัน..."
"เพื่อที่จะบอกกล่าวเล่าเรื่องราวของนายท่านด้วยความภาคภูมิแก่ผู้ที่สนใจรับฟัง”
Monogatari เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่แม้จะมีองค์ประกอบเหนือธรรมชาติ แต่แก่นก็ยังเป็นเรื่องราวของคนที่ผ่านทุกข์ผ่านสุข และความสัมพันธ์ชั่วนิรันดร์ระหว่างกึ่งมนุษย์กึ่งแวมไพร์ของทั้งสอง ก็เป็นความสัมพันธ์ที่จริงยิ่งกว่าของจริง ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แต่หนักแน่นและสวยงาม และเป็นความสัมพันธ์ที่คืนความเป็นมนุษย์ให้แก่กันและกัน เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่อาจจำกัดความได้ นี่คือเรื่องราวของ อารารากิ โคโยมิ และ โอชิโนะ ชิโนบุ
โฆษณา