10 พ.ค. 2023 เวลา 15:52 • หนังสือ

ชีวิตเร้นลับของต้นไม้

ชีวิตเร้นลับของต้นไม้
หลังจากอยู่กับความร้อนระอุกว่า 44 องศาบวกๆในตอนกลางวัน
อากาศร้อนเหมือนซ้อมลงนรก ร้อนอย่างต่อเนื่องกันหลายวัน...
ฝนทิ้งช่วงห่างเหลือเกินในปีนี้ ฝนชะดอกมะม่วงที่ควรมีในช่วงเดือนมีนา เมษา ของทุกปี
ปีนี้ฝนชะดอกมะม่วงก็ไม่มีสักหยด ความร้อนสะสมเพิ่มขึ้นๆให้ผืนดินร้อนระอุ ....
ยอมรับค่ะว่า คิดถึงอากาศในตอนยังเด็ก
สี่สิบปีที่แล้ว
ฝนตกต้องตามฤดูกาเป็นส่วนใหญ่
ฤดูฝนก็เห็นฝนได้น้ำได้ท่า ฟ้าร้อง เมฆครึ้ม อากาศชุ่มฉ่ำ เย็น ฝนตกสม่ำเสมอ ดินชุ่มฉ่ำน้ำ เห็นสายรุ้งได้บ่อยๆ แม่น้ำลำคลองตอนปลายฝนต้นหนาว เข้าเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่งจริงๆ
ท้องทุ่งอุดมสมบูรณ์ เสียงกบ เสียงอึ้ง เสียงเขียดร้องกันระงมยามหน้าฝน สัตว์เล็กสัตว์น้อยมีความสุข ทุ่งข้าวเขียวขจี
ฤดูหนาว ก็หนาวตามสมควรของอากาศ สิบเอ็ด สิบสององศา บ่ายๆก็ยี่สิบกว่าองศา หนาวนักเช้ามาผิงไฟ จี่ข้าว เผามัน อากาศหนาวติดๆกันเป็นเดือนๆ ปลูกผักได้งามนัก ยาฆ่าแมลงไม่ต้องใช้เพราะอากาศเย็นจัด ผักกะหล่ำ ผักกาด ใบห่อเข้าแน่นมากเพราะอากาศเย็น
กระเทียม หอมแดงแข่งกันลงหัว
ไม่ใช่ฤดูหนาวแบบร้อนน้อยกว่าปกติเล็กน้อย
ฤดูร้อน ก็ไม่ใช่ร้อนทะเลทรายแบบนี้ บ่ายคล้อยอากาศก็เริ่มเย็นตัวลง อุณหภูมิสูงสุด ช่วงกลางวันร้อนยังไงก็ไม่เกิน สี่สิบองศา....เมษายน ร้อนถึงสามสิบห้า สามสิบเจ็ดองศานี่เป็นข่าวน่าหวาดกลัวกันแล้วนะ...
แอร์ไม่ได้มีใช้หรอกค่ะ พัดลมกับพัดมือนี่แหละ ห้องเรียนก็พัดลม... มีแค่นั้น
สี่สิบปีผ่านไปสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปมาก ต้นไม้น้อยลง ขับรถขึ้นเหนือทุกปี ต้นไม้บนภูเขาหายไปทุกปี เผาป่ากันทุกปี.....
คนเมืองก็ใช้ไฟฟ้า ใช้น้ำประปาเหมือนน้ำสร้างจากก๊อก... เราก็มีชีวิตคนเมือง.....
โลกที่เปลี่ยนไปอากาศมีมลพิษ แม่น้ำลำคลองตื้นเขิน ทะเลสกปรก เต็มไปด้วยขยะและไมโครพลาสติก น้ำแข็งขั้วโลกก็ละลายอย่างรวดเร็ว....
มาเจอหนังสือเล่มนี้ อ่านแล้วยิ้ม รู้สึกตัวเองตัวเล็กลงไปอีก ชีวิตถูกโอบกอดหล่อเลี้ยงด้วยผืนป่า...
หนังสือ..... ชีวิตเร้นลับของต้นไม้
แปลโดย สุดาวรรณ สินธุประมา
ผู้เขียน เพเทอร์ โวลเลเบน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ใน เยอรมันนี ที่ได้เขียนเล่าสิ่งมหัศตรรย์ที่เขาได้ค้นพบในป่าที่เขาดูแล เขาเล่าเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ของต้นไม้ค่ะ
เรื่องราวความลับของต้นไม้มากมาย
ทั้งการสื่อสารกันของต้นไม้ สังคมของต้นไม้ การแบ่งปันอาหาร การดูแลกัน การผูกมิตร การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โอบอุ้ม ปกป้องกันและกัน..... การดูแลต้นที่ป่วย
ไปจนถึงต้นไม้เขาดูแลกันแม้แต่ซากของตอไม้.... ไม่ให้ตาย
เขาอยู่กันอย่างเป็นมิตร เหมือนญาติพี่น้อง สร้างเป็นระบบนิเวศน์ของผืนป่า....
ผูกพันสื่อสารกันด้วยระบบราก.... เป็นโครงสร้างใหญ่ที่ยึดเหนี่ยวกัน
ต้นไม้ที่อยู่กันเป็นผืนป่าอายุจะยืนยาวได้หลายร้อยปีเพราะเขาดูแลกัน ต่างกับต้นไม้ที่เราเอามาปลูกตามลำพัง หรือแม้จะทำเป็นสวนป่า
ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวเปรียบเทียบต้นไม้ในสวนป่าพวกนี้ก็เหมือนเด็กข้างถนน เพราะระบบรากเขาถูกทำลายไปเสียมากตอนเอามาปลูกและกว่าจะโต จนแทบไม่อาจรวมตัวหรือสร้างเป็นเครือข่ายได้.... ต้นไม้ในป่าประเภทนี้มักเติบโตอย่างโดดเเดี่ยว และมีชีวิตที่ลำบาก เพราะเขาต้องดูแลตัวเองโดยลำพัง....พอรู้แบบนี้ ใครรู้สึกเศร้าเหมือนเราไหม... 😭😭😭
นอกจากจะมีเรื่องราวของมิตรภาพ การสื่อสาร การดูแลกันและกันของต้นไม้ การอยู่กันอย่าวเป็นนิเวศน์จนเหมือนเป็นชุมชนเป็นครอบครัว มีการช่วยเหลือแบ่งปันอาหารและน้ำให้กัน ดูแลกันยามต้นที่อ่อนแอป่วย.....
งู้ยยยยย.... อ่านไปแล้วก็รักผืนป่ามากมาย ทำไมเขาอยู่กันแบบอบอุ่น น่ารัก อ่อนโยนกันแบบนี้นะ .... แล้วก็นึกไม่พอใจคนอย่างเราๆที่.... มักจะทำลายอะไรเพื่อตัวเองอย่างมากเกินจำเป็น อย่างตื้นเขิน อย่างเบียดเบียน ยิ่งนานวัน เรายิ่งลืมวิถีชีวิตที่ไม่เอาเปรียบธรรมชาติ ชีวิตที่กลมกลืนก็ห่างหายไป... เราชื่นชมกับ... ความเจริญ....
นอกจากนี้ ต้นไม้ยังมีการสื่อสารระหว่างกันด้วยนะ... เขามีรากที่เชื่อมโยงกัน พวกเขาแยกรากของสายพันธุ์ตัวเองกับสายพันธุ์อื่นได้ และเขาใช้กลิ่นเป็นภาษาสื่อสารกัน....ไปจนถึงการส่งเสียงที่เราไม่ได้ยิน....
ในสังคมของเขา... ต้นไม้ มีกฎ กติกา มีข้อปฏิบัติระหว่างกันและกัน....ต้นไม้วางแผนมีลูก ต้นไม้เลี้ยงลูก…อย่างเข้มงวด….
อย่างภาพที่เอามาแสดงให้ดูภาพแรก เราจะเห็นว่า ต้นไม้ที่เขาเป็นมิตรต่อกัน เขาจะไม่แตกกิ่งก้านใหญ่โต แตกยอดออกไปล้ำเขตของต้นอื่น มันจะไม่แย่งชิงอะไรกัน ด้วยเหตุนี้ ต้นไม้จึงแตกกิ่งก้านที่แข็งแรงออกไปทางด้านนอกต่อต้นที่เป็นมิตร คือหันเข้าหาต้นที่ไม่ได้เป็นมิตรแทน....ขยายกิ่งใหญ่ ให้ไปโตไปเบียดทางต้นที่ไม่ใช่มิตรกันนั่นเอง
... ต้นไม้ที่เป็นมิตรกันเช่นนี้จะผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นทางราก ซึ่งบางครั้งถึงกับตายไปด้วยกัน....
1
พอรู้ถึงตรงนี้.... อยากจะร้องไห้เลย เวลาที่ต้นไม้โดนตัด เราไม่ได้ทำร้ายต้นไม้แค่ต้นเดียว แต่ทำร้ายต้นอื่นๆด้วย... เขารู้ว่าเพื่อนเขาหายไป
ยังมีอีกเยอะค่ะ อ่านแล้วประทับ​ใจ อ่านแล้วจะรักต้นไม้ รักป่า จะเห็นคุณค่าของต้นไม้ในแง่ความเป็นเพื่อนร่วมโลกที่สร้างสิ่งแวดล้อที่ดีให้เรา ความชุ่มชื้นขอดิน อากาศ ลดความร้อนในพื้นที่ที่ป่าปกคลุม จะรู้สึกเอ็นดูสัตว์เล็กสัตว์น้อย เขาเป็นเพื่อนกัน จะซาบซึ้งถึงคำว่านิเวศน์ การอยู่เป็นสังคมของพวกเขา.... พวกเขามีชีวิต มีหัวใจ ไม่ใช่สิ่งของ
ป่าไม่ใช่แค่ต้นไม้หลายๆต้น แต่ป่าคือการอยู่ร่วมกันอย่างผสมผสานกลมกกลืนของชีวิต เป็นสังคม มีกฎกติกา มีการสื่อสารระหว่างกัน....
น้ำทุกหยด มาจากฟ้า มาจากป่า มาจากธรรมชาติ... ไม่ใช่จากก๊อก....
ถ้าลมหายใจของธรรมชาติเหือดแห้งลง แปลว่าลมหายใจของมนุษยชาติก็แผ่วเบาลงเช่นกัน หรือต่อให้ยังหายใจอยู่ได้ ก็เหมือนคนป่วยที่ไม่สุขสบาย..... รังแต่จะต้องเข้าไอซียู
Cr : ภาพ Crown shyness จาก สำรวจโลก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา