11 พ.ค. 2023 เวลา 07:00 • ธุรกิจ

ปั้น Startup ช่วยทำธุรกิจด้วย Generative AI

หนึ่งในเทคโนโลยีที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาคือเอไอประเภท Generative AI ซึ่งเป็นเอไอที่สามารถสร้างคอนเทนต์แบบออริจินัล ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ เสียง จากคำสั่งที่เราป้อนลงไป เรียกได้ว่าเป็นเอไอที่ทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้ ซึ่งเดิมทีเป็นงานที่เชื่อว่าจำกัดอยู่แค่ในความสามารถของมนุษย์เท่านั้น
ความสามารถมากมายขนาดนี้ ก็คงไม่ยากจนเกินไปหากเราจะนำ Generative AI มาประยุกต์ใช้สร้างบริษัทสตาร์ทอัพย่อม ๆ ของตัวเองให้มีครบทุกแผนก โดยใช้เครื่องมือจาก Generative AI มาทำงานเป็นหลัก
ในบทความนี้เซอร์ทิสพามาดูกันว่าเราจะสร้างบริษัทของตัวเองให้มีครบทุกแผนกด้วยเครื่องมือ Generative AI ได้อย่างไรบ้าง
ฝ่าย Marketing
การเข้ามาของ Generative AI ช่วยยกระดับการทำงานด้านการตลาดไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการสร้างคอนเทนต์แบบออริจินัลที่ปรับแต่งให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายได้ ทำให้ Generative AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายการตลาดในสตาร์ทอัพของเราได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Generative AI ในการสร้างข้อความสื่อสารการตลาด หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าและบริการแบบ Personalized หรือสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย ช่วยให้ทำการตลาดได้ครอบคลุมและกระตุ้นยอดขายให้ธุรกิจของเราได้
เครื่องมือที่น่าสนใจ
ChatGPT สามารถทำหน้าที่เป็นนักการตลาดชั้นยอดให้เราได้ โดยแค่เพียงป้อนคำสั่งและหัวข้อลงไป ChatGPT ก็จะสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ออริจินัลคุณภาพสูง ที่น่าสนใจและตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อความโฆษณาสั้น ๆ บทความ หรือ Copywriting ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ให้เลือกใช้ เช่น Copy.ai ครอบคลุมกระบวนการสร้างคอนเทนต์ CIPIO.ai สร้างคอนเทนต์ แคปชัน ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (Optimized) ในแต่ละแพลตฟอร์ม เป็นต้น
ฝ่าย Customer Support
สำหรับฝ่าย Customer Support ที่ต้องคอยดูแลลูกค้าและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้า เราก็สามารถใช้ Generative AI เข้ามาช่วยสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติ และทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ผ่านโปรแกรมแชทบอท ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ Generative AI ยังสามารถเรียนรู้จากปฏิกิริยาตอบกลับของลูกค้า เพื่อสร้างสรรค์คำตอบแบบเฉพาะเจาะจง ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกับกำลังคุยกับคนจริง ๆ ได้ เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า และช่วยให้เราดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับสตาร์ทอัพ
เครื่องมือที่น่าสนใจ
Quiq เป็นเครื่องมือประเภท Conversational AI ที่สามารถสนทนากับลูกค้าได้อย่าง Personalized โดย Quiq จะวิเคราะห์พฤติกรรมและข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า และสร้างข้อความตอบกลับที่เหมาะสม โดยมี Resolution Rates หรือความสามารถในการแก้ปัญหาให้ลูกค้าสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ChatIQ.ai เครื่องมือที่จะช่วยสร้าง Chatbot สำหรับธุรกิจเราได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่แปะลิงก์เว็บไซต์บริษัท หรือไฟล์เอกสารต่าง ๆ ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการให้เอไอเรียนรู้ เท่านี้ ChatIQ.ai ก็จะสร้าง chatbot ที่พร้อมจะตอบคำถามและให้ข้อมูลโต้ตอบกับลูกค้าแทนเราได้ทันที
ฝ่าย Product Development
เราสามารถนำเทคโนโลยี Generative AI มาใช้ในขั้นตอนการพัฒนาสินค้าและบริการ (Product Development) ได้ด้วยเช่นกัน โดย Generative AI สามารถเข้ามาช่วยออกแบบคอนเซ็ปต์ของสินค้า สร้าง Prototype หรือช่วยปรับเปลี่ยนสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีขึ้นได้ เช่น การใช้ Generative AI มาช่วยออกแบบแพคเกจสินค้าดีไซน์ใหม่เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบัน หรือในธุรกิจการพัฒนาซอฟต์แวร์ ก็สามารถใช้ Generative AI ช่วยเขียน Code Snippets เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระงานในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นต้น
เครื่องมือที่น่าสนใจ
Commerce.AI ใช้เทคโนโลยีเอไอมาวิเคราะห์ Feedback จากลูกค้าจำนวนมาก เพื่อช่วยออกแบบสินค้าและช่วยคิดหาโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เช่น ช่วยออกแบบสินค้าใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ออกแบบแนวทางปรับปรุงสินค้า ออกแบบกลยุทธ์ที่ตรงจุดมากขึ้น เป็นต้น
เลขาส่วนตัว
บริษัทสตาร์ทอัพอาจประสบความสำเร็จได้ยาก หากซีอีโอต้องเอาเวลาในแต่ละวันไปโฟกัสกับงานซ้ำซากจิปาถะ แทนที่จะได้เอาเวลาไปคิดไอเดียใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น การใช้ Generative AI มาทำหน้าที่เป็นเหมือนเลขาส่วนตัว คอยทำรีพอร์ตรายงานผล จัดการอีเมล กรอกข้อมูลต่าง ๆ ก็จะช่วยให้ซีอีโอมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจได้นั่นเอง
เครื่องมือที่น่าสนใจ
Canary Mail ช่วยเขียนอีเมลให้เราอัตโนมัติ โดยเราแค่ป้อนหัวข้อที่ต้องการให้เขียน รวมถึงผู้รับเข้าไปเท่านั้น หรือจะเป็น Moveworks แพลตฟอร์ม Generative AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยทำงานซ้ำซากต่าง ๆ ให้เราอัตโนมัติ โดยใช้เอไอที่เข้าใจภาษาในระดับเดียวกับ ChatGPT เช่น ทำหน้าที่แทนฝ่ายไอทีในการแก้ปัญหาด้านไอที ช่วยค้นหาข้อมูลภายในองค์กร ประสานงานการทำงานระหว่างทีม เป็นต้น
ฝ่ายกฎหมาย
เทคโนโลยี Generative AI ก็สามารถเข้ามาช่วยงานของฝ่ายกฎหมายได้เช่นกัน โดยเอไอสามารถตรวจสอบเอกสาร สัญญา และข้อมูลด้านกฎหมายต่าง ๆ และให้คำแนะนำทางกฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าทุกการปฏิบัติงานของธุรกิจไม่มีการละเมิดข้อกฎหมายหรือสัญญาใด ๆ ช่วยทำให้ตัดสินใจด้านกฎหมายได้เร็วขึ้น และลดต้นทุนได้มากยิ่งขึ้น
เครื่องมือที่น่าสนใจ
dSilo แพลตฟอร์มที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์เอกสารทางกฎหมายต่าง ๆ เช่น สัญญา ใบกำกับภาษี ใบสั่งซื้อ เพื่อดูว่ามีส่วนไหนขาดตกบกพร่อง หรือผิดพลาดจนทำให้เสียต้นทุนหรือไม่ เช่น มีการให้ส่วนลดหรือหักภาษีผิดพลาด รวมถึงคอยดูให้แน่ใจว่าการปฏิบัติการต่าง ๆ ในธุรกิจเป็นไปตามข้อตกลงและสัญญา เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทางกฎหมายในภายหลัง
เห็นแล้วใช่มั้ยครับว่า เทคโนโลยีอย่าง Generative AI มีความสามารถมากมาย เหนือไปกว่าแค่ ChatGPT ที่เราคุ้นเคย รวมถึงมีศักยภาพในการสร้างแผนกย่อม ๆ มารับผิดชอบงานต่าง ๆ ในบริษัทเลยทีเดียว
สำหรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เครื่องมือเหล่านี้สามารถเป็นตัวช่วยลดต้นทุนในช่วงเริ่มต้นกิจการ และทำให้สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นแม้ยังมีกำลังคนน้อย และสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ เครื่องมือเหล่านี้ก็จะสามารถเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน ลดต้นทุนเวลาและทรัพยากร และสร้างมูลค่าให้ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะใช้งานเทคโนโลยีเอไอให้เกิดประโยชน์ รวมถึงพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันโลกยุคเอไออยู่ตลอดเวลา เราก็จะสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่พาเราก้าวกระโดดได้นั่นเองครับ
สร้างสรรค์โซลูชันเอไอที่จะพาธุรกิจของคุณพัฒนาอย่างก้าวกระโดดกับเซอร์ทิส ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา