14 พ.ค. 2023 เวลา 12:48 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

BIG DATA : ปลดล็อก data insights เพื่อชัยชนะ การเลือกตั้ง

ในยุคดิจิทัลเฉกเช่นปัจจุบัน การใช้ Big Data แพร่หลายมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ และการเลือกตั้งระดับชาติก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน Big Data มีความสามารถในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล มีศักยภาพในการพลิกโฉมวิธีการดำเนินการหาเสียงและการมีส่วนร่วมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
บทความสั้นนี้จะวิเคราะห์ Big Data ในการนำมาใช้เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึก, ปรับปรุงวิธีการเจาะเป้าหมาย(ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง) โดยผู้หาเสียง, เพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การหาเสียง และปรับปรุงกระบวนการประชาธิปไตยโดยรวมในระหว่างการเลือกตั้งระดับชาติว่าทำได้อย่างไร
การวิเคราะห์ข้อมูล
1. ใช้เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง Understanding Voter Sentimentการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่สามารถช่วยให้ผู้สมัครและทีมงานทางการเมืองมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้วยการวิเคราะห์การโพสต์บนโซเชียลมีเดีย, ข่าวสาร, และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ ทำให้ฝ่ายหาเสียงสามารถระบุประเด็นสำคัญ, ข้อกังวล และความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้
เทคนิคการวิเคราะห์ความรู้สึกสามารถเปิดเผยความรู้สึกสาธารณะที่มีต่อผู้สมัคร, พรรคการเมือง หรือนโยบายที่เฉพาะเจาะจง ช่วยให้การรณรงค์หาเสียงสามารถปรับแต่งข้อความของพวกเขาให้โดนใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากยิ่งขึ้น
2. การกำหนดเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงและการส่งข้อความหาเสียงแบบเฉพาะเจาะจงการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ ผู้สมัครและทีมหาเสียงสามารถพัฒนากลยุทธ์ในการกำหนดเป้าหมายแบบเฉพาะเจอะจงที่ส่งข้อความเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งแบบเฉพาะเจาะจง ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เช่น ข้อมูลประชากร พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงครั้งก่อน
รวมทั้งประเด็นต่างๆที่เป็นสิ่งสนใจ ทีมหาเสียงของพรรคต่างๆ สามารถสร้างข้อความหรือเนื้อหาที่ได้รับการปรับแต่ง/ปรุงแต่ง ให้ตรงกับข้อกังวลและความสนใจของผู้ลงคะแนนแต่ละคนได้ วิธีการนี้ช่วยเพิ่มการเข้าร่วมและการดึงดูดเข้ามามีส่วนร่วมอย่างตั้งใจ สามารถเพิ่มจำนวนการมาใช้สิทธิของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเพิ่มโอกาสของความสำเร็จของการหาเสียง
3. การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) และพฤติกรรมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ความสามารถในการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของ Big Data ทำให้นักการเมืองและองคาพยพสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ด้วยการวิเคราะห์รูปแบบการลงคะแนนในอดีต ข้อมูลประชากรศาสตร์ และตัวแปรอื่นๆ นักการเมืองและทีมงานสามารถคาดการณ์แนวโน้มการออกมาใช้สิทธิของผู้ลงคะแนนเสียง,
ระบุผู้ลงคะแนนเสียงที่เปลี่ยนใจไปมา และสามารถปรับเปลี่ยนและวางกลยุทธ์และแผนการหาเสียงให้เป็นไปตามข้อมูลเหล่านั้น การดำเนินการตามแผนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data driven) ทำให้นักการเมืองและทีมงานสามารถจัดสรรทรัพยากรในการเลือกตั้ง (เช่น ปัจจัย 4M) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มประชากรเป้าหมายหลัก และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์การส่งข้อความและการเข้าถึง
4. การติดตามการเลือกตั้งและการตรวจจับการทุจริต การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่สามารถมีบทบาทสำคัญในการรับรองประสิทธิภาพของการเลือกตั้งระดับชาติ ด้วยการตรวจสอบข้อมูล real-time จากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถึงฐานข้อมูลการลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สื่อสังคมออนไลน์ และหน่วยเลือกตั้ง
Big data เพื่อการติดตาม
เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งสามารถระบุรูปแบบที่น่าสงสัย ความผิดปกติไม่ชอบมาพากล หรือเหตุการณ์ที่อาจเกี่ยวกับการทุจริตในการเลือกตั้งหรือการโกงการเลือกตั้งหรือการทำความผิดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ วิธีการทำงานลักษณะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนี้ช่วยเพิ่มความโปร่งใส ปกป้องกระบวนการประชาธิปไตย และช่วยรักษาไว้ซึ่งความไว้วางใจของสาธารณะต่อระบบการจัดการการเลือกตั้ง
5. การเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการรณรงค์เชิงรุก:ข้อมูลขนาดใหญ่สามารถช่วยให้นักการเมืองและทีมงานเข้าถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ฝ่ายหาเสียงสามารถระบุบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะไม่ไปลงคะแนนเสียง และนำข้อมูลดังกล่าวไปกำหนดกิจกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในการตัดสินใจของเป้าหมายให้ไปเลือกตน
ซึ่งตัวอย่างการดำเนินการเช่น การส่งข้อความแบบเฉพาะบุคคล การแจ้งเตือนให้ไปเลือกตั้ง และส่งข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เลือกตั้ง … การใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่สามารถช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชนที่อาจถูกมองข้าม
Data beats emotions.
Sean Rad, founder of Tinder
สรุป การเลือกตั้งระดับชาติของนานาชาติยังคงมีพัฒนาอย่างต่อเนื่องรวมถึงประเทศไทย การใช้บิ๊กดาต้าถือเป็นโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งสำหรับทีมหาเสียงและสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ด้วยการยกระดับการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ขั้นสูงและข้อมูลเชิงลึก ผู้สมัคร ส.ส. และทีมงาน สามารถปรับแต่งกลยุทธ์ ข้อความ และความพยายามในการเข้าถึงเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึงระดับส่วนบุคคล
ในขณะเดียวกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น ความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้น และความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับปัญหาที่สำคัญสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องมีการเคารพในความเป็นส่วนตัว และสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างมีความรับผิดชอบและมีจริยธรรมในกระบวนการเลือกตั้ง ศักยภาพของ Big Data ในการเลือกตั้งระดับชาตินั้นมีอยู่มากมายมหาศาล
การพัฒนาและการใช้ประโยชน์อย่างต่อของ Big Data อาจจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของกระบวนการประชาธิปไตยทั่วโลกก็ว่าได้เช่นกัน สำหรับประเทศไทยที่อยู่ในระหว่างก่อนการเลือกตั้งในช่วงนี้ ผมเชื่อมั่นว่ามีพรรคการเมืองจำนวนไม่น้อย ที่มีการใช้งาน Big Data อย่างจริงจังและอาจใช้งานมานานแล้วด้วยเพื่อการเตรียมการ … และนี่อาจเป็นหนึ่งเหตุการณ์ ที่ ยืนยันคำกล่าวของ Sean Rad ผู้ก่อตั้ง แพลทฟอร์มหาคู่ออนไลน์ระดับโลก Tinder ที่ว่า “Data beats emotions” ข้อมูลชนะความรู้สึก ...
โฆษณา